บลจ.วรรณ ประเมินสถานการณ์ตลาดตราสารหนี้สัปดาห์นี้ อัตราผลตอบแทนมีโอกาสปรับตัวลง จากอุปทานที่จำกัด พร้อมคาดการณ์ ผลการประชุมกนง.ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ ยังคงทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50%ต่อปี แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ที่มี Duration กลางขึ้นไป
นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดตราสารหนี้ไทยในสัปดาห์นี้ บริษัทคาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวมีโอกาสปรับตัวลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ต่อถึงแนวโน้มการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในเดือนมิถุนายน อาจชะลอการปรับขึ้น โดยตัวเลข Fed Fund Future คาดการณ์โอกาสการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในเดือนหน้าอยู่ที่ระดับ 6% ขณะที่ตลาดพันธบัตรของไทยในเดือนพฤษภาคมนี้การประมูลพันธบัตรมีค่อนข้างจำกัด ทำให้ไม่มีแรงกดดันด้านอุปทานที่จะส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนในตลาดพันธบัตรของไทยมากนัก
" บริษัทคาดการณ์ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ของธปท. ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ว่า คณะกรรมการจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม 1.50% ต่อปี ทั้งนี้ อาจต้องติดตามต่อไปว่า มติที่ประชุมจะยังคงเป็นเอกฉันท์หรือไม่ เนื่องจากบริษัทมองว่า หากคณะกรรมการเริ่มเห็นต่างเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยมีบางเสียงสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ อาจส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงท้ายสัปดาห์"นายมณฑล กล่าว
อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่า การปรับของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้จะยังคงผันผวน แต่สภาพคล่องของตลาดตราสารหนี้ไทยยังคงมีอยู่จากแรงซื้อของกลุ่ม Interbank รวมถึง แรงซื้อเข้ามาจากนักลงทุนต่างชาติหลังจากที่ตลาดตราสารหนี้ไทยปิดทำการไปหลายวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งปกติทั่วไปนักลงทุนต่างชาติจะเข้าลงทุนในตราสารหนี้ที่มี duration ระยะยาว ดังนั้น บริษัทคงแนะนำให้ผู้ลงทุนหาโอกาสผลตอบแทนลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ โดยพิจารณาลงทุนตราสารหนี้ที่มี Duration ระยะกลางขึ้นไป เนื่องจากราคาของตราสารหนี้จะมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น จากทิศทางของอัตราดอกเบี้ยและกระแสเงินลงทุน
สำหรับนักลงทุนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงต่อความผันผวนของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ในช่วงนี้ ยังคงแนะนำให้พิจารณาลงทุนในกองทุนประเภท Rollover เนื่องจากมีเป้าหมายผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้เมื่อครบอายุกองทุน โดยระหว่างวันนี้ – 13 พ.ค. นี้ บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนวรรณ ไฟแนนซ์เชียล อินสตรูเมนท์ 6M/2 (1FIN6M/2) รอบการลงทุน 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศ โดยรอบการลงทุนนี้จะลงทุนใน เงินฝาก China Construction Bank (สาขาฮ่องกง) เงินฝาก Bank of China (สาขาฮ่องกง) และตั๋วแลกเงินในประเทศ ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 1.65% ต่อปี
BBLAM เสนอขาย IPO 'BP21/25(AI)' วันที่ 6-10 พ.ย. 2568
3BBIF เตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 36 ในอัตรา 0.137224 บาทต่อหน่วย วันที่ 22 ธ.ค. นี้
บลจ.อีสท์สปริง มองโอกาสลงทุนหุ้นอินเดียระยะยาว เปิดตัวกองทุน RMF น้องใหม่ "ES-INDAERMF" เสนอขาย 4-10 พ.ย. 68 นี้
บลจ.ทิสโก้เปิด "ทริกเกอร์ทองคำ" คาดราคาทองโลกขึ้นจาก 4 ปัจจัยหนุน
บลจ. ไทยพาณิชย์ จัดเต็มแคมเปญพิชิตภารกิจลงทุนช่วงปลายปี คัดกองทุนลดหย่อนภาษีเด่นทั้ง RMF และ Thai ESG
BBLAM เสนอขาย IPO 'BP20/25(AI)' วันที่ 31 ต.ค. - 4 พ.ย. 2568
KTAM เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนกับ 2 กองทุน RMF "KT-Technology RMF และ KT-GESG RMF" IPO 28 ต.ค.-5 พ.ย. นี้
บลจ. ทิสโก้ จัดสัมมนา "ชีวิตดี๊ดี Happy 55+" หนุนสมาชิก PVD มีชีวิตหลังเกษียณมั่นคงและมีความสุข
โค้งสุดท้ายลดหย่อนภาษีปีนี้ BBLAM ชวนคนไทยเลือกลงทุนใน RMF และ Thai ESG ให้เท่าทันสถานการณ์โลก