เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ไอซ์-ณัฐพัชร์" เผยว่า "ดีใจมาก ตอนแรกที่ทีมงานติดต่อมา แล้วส่งบทให้ดู รู้สึกประทับใจ อยากเล่นมาก ส่วนตัวผมไม่มีประหม่า เพราะที่ผ่านมาเคยเรียนการแสดง และมีโอกาสได้ลองชิมลางงานแสดงมาบ้าง แต่สำหรับเรื่อง The Promiseคิดถึงครึ่งชีวิต ถือว่าเป็นบทพระเอกเต็มตัวครั้งแรก ผมก็ทุ่มเต็มที่ พยายามคุยกับผู้กำกับ เล่นแบบไหน เอาคาแรคเตอร์แบบไหนดี ซึ่งพี่แบงค์ ผู้กำกับก็ช่วยผมมากในการตีความแต่ละฉาก เนื่องจากเป็นหนังรัก ใช้ความรู้สึกเป็นสำคัญ เรื่องของสีหน้า แววตา แล้วก็ภาษากาย ต้องชัด และอีกอย่างเพื่อให้สะท้อนกับเส้นหลักของเรื่อง "บางคนสัญญาอย่างไม่คิด แต่บางคนไม่คิดจะผิดสัญญา" แต่ละช็อตแต่ละซีน จึงต้องเน้นอารมณ์มากๆ ทำให้มีอินเนอร์" กับนางเอกญี่ปุ่น อาคิโกะ โอเซกิ เป็นอย่างไรบ้าง? "ก็น่ารักครับ น่ารักมาก คือเขาอาจจะไม่เข้าใจภาษาไทยทุกคำ แต่ก่อนเล่นทีมงานและเขาก็ทำการบ้านมาดี รู้ว่าเราพูดอะไร และจะสื่อความหมายอะไร ซึ่งอารมณ์ก็มาเต็มตลอด ทำให้ผมลื่นไหลไปได้ ไม่มีคัท แต่ก็มีบางซีน ฉากหวานๆ เขินบ้าง" เช่นฉากอะไร? " ซีนไคลแม็กซ์ คือกว่าจะได้เหนื่อยมากแต่พอภาพออกมาแล้ว คุ้มค่า หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ ตอนนั้นขบวนรถกองถ่าย The Promise มุ่งหน้าไปโลเคชั่นหลักคือ ม่อนล่อง ท่ามกลางพายุฝนเมื่อไปถึงตีนเขา รถตู้ขึ้นม่อนไม่ได้อีก เพราะฝนยังไม่หยุด แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พวกเราก็ยังมุ่งมั่นยกกองถ่ายขึ้นต่อไปอีก ด้วยความช่วยเหลือรถกระบะของผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของพื้นที่ที่ใจดี ระหว่างเดินทางแม้ลำบากแต่ทุกคนก็มีแต่รอยยิ้ม และเมื่อฝนหยุดตก กลายเป็นหมอกขาว พระอาทิตย์ตกเปล่งสีส้มตัดสีหมอกแลดูสวยงามมาก คือดูแค่วิวก็คุ้มแล้ว"สุดท้ายฝากหนัง? "อยากให้ไปดูครับ หนังดีมีเรื่องให้ลุ้นตลอด ลุ้นแบบรักๆ จะจำกันได้มั๊ย จำได้หรือเปล่า คนจำมันทรมานใจนะ แต่ที่สุดแล้ว คนลืมอาจจะทุกข์ใจมากกว่า อันนี้แล้วแต่ตีความเลย แต่สำหรับผมคิดว่าเป็นหนังรักที่ดีมาก แนวกู๊ดฟีลลิ่ง บวกกับฉากสวยๆ บ้านเรา อันซีนเชียงใหม่เยอะมากครับ บรรยากาศดี คนไทยดูได้ นักท่องเที่ยวก็ดูดีครับ"
แฟนๆ หนังรัก รอติดตาม "The Promise คิดถึงครึ่งชีวิต" ในโรงภาพยนตร์ พร้อมกัน 26 พ.ค.นี้ และติดตามกิจกรรมสนุกๆ ลุ้นรับตั๋วและของที่ระลึกจากภาพยนตร์ได้ที่เฟสบุ๊ค The Promise คิดถึงครึ่งชีวิต …วันเปิดตัวอาคิโกะจะบินด่วนมาจากญี่ปุ่นด้วยยยยย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit