กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ไฟป่าในจังหวัดนราธิวาส รวม 8 จุด ในพื้นที่ 5 อำเภอ 8 ตำบล 16 หมู่บ้าน โดยขณะนี้สามารถควบคุมไฟป่ามิให้ขยายวงกว้าง แต่ยังมีไฟไหม้ ในชั้นใต้ดิน ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ปฏิบัติการดับไฟป่า โดยระดมฉีดน้ำควบคุมไฟอย่างต่อเนื่อง จัดทำแนวป้องกันไฟป่า รวมถึงประสานการปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศและหน้าดิน พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้ไฟป่าขยายวงกว้างมากขึ้น และเกิดการปะทุซ้ำในจุดที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยสถานการณ์ไฟป่า จึงได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการดับไฟป่าและแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลัง ซึ่งปัจจุบันมีสถานการณ์ไฟป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส รวม 8 จุด ในพื้นที่ 5 อำเภอ 8 ตำบล 16 หมู่บ้าน ดังนี้ อำเภอสุไหงโก – ลก เกิดไฟป่าในตำบลปาเสมัส จำนวน 2 จุด แยกเป็น บ้านซรายอ หมู่ที่ 1 ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเสม็ดและพื้นที่สวนยางพาราได้รับความเสียหายประมาณ 800 ไร่ พื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดงหรือป่าพรุสิรินธร 800 ไร่ และบ้านลูโบ๊ะซามา หมู่ที่ 8 เป็นพื้นที่ชายขอบป่าพรุได้รับความเสียหายประมาณ 50 ไร่ เขตป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำบางนรา แปลงที่ 2 ประมาณ 50 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่าไม่ให้ขยายวงกว้าง แต่ไฟยังไม่ดับสนิท และยังคงมีไฟไหม้ในชั้นใต้ดิน อำเภอสุไหงปาดีเกิดไฟป่า จำนวน 1 จุด ในพื้นที่ตำบลปะลุรู ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 690 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว อำเภอยี่งอ เกิดไฟป่าในตำบลตะปอเยาะ จำนวน 2 จุด สร้างความเสียหายประมาณ 650 ไร่ อำเภอตากใบ เกิดไฟป่า จำนวน 2 จุด แยกเป็น ตำบลบางขุนทอง พื้นที่ป่าพรุสิรินทร (ป่าพรุโต๊ะแดง) ได้รับความเสียหายประมาณ 160 ไร่ และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 30 ไร่ ตำบลพร่อน พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายประมาณ 60 ไร่ อำเภอเมืองนราธิวาส เกิดไฟป่า จำนวน 1 จุด ในพื้นที่ตำบลกะลุวอเหนือ ได้รับความเสียหาย 35 ไร่ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ปฏิบัติการดับไฟป่า โดยระดมรถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ รถส่งน้ำระยะไกล รถดับไฟป่า เครื่องสูบน้ำแบบหาบหาม ฉีดน้ำควบคุมเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจุดที่ยังคงมีไฟลุกลาม พร้อมนำรถแบ็คโฮ รถตักหน้าขุดหลัง และรถแทร็กเตอร์จัดทำแนวกันไฟควบคุมเพลิง ให้อยู่ในวงจำกัด อีกทั้งเปิดเส้นทางสำรองและปรับพื้นที่ให้โล่งเตียน เพื่อให้รถบรรทุกน้ำสามารถเข้าถึงจุดเกิดไฟป่า รวมถึงดำเนินการขุดพื้นที่เป็นจุดๆ แบบขนมครก เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำในการดับไฟ นอกจากนี้ ได้ประสานสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรออกปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่เกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศและหน้าดิน รวมถึงประสานเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขึ้นโปรยน้ำดับไฟป่า อย่างไรก็ตาม ในจุดที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้ไฟเกิดการปะทุซ้ำ
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th
SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบพายุ "บัวลอย" 'พักชำระหนี้-เติมทุนฉุกเฉิน' ลดภาระทางการเงิน ฟื้นฟูธุรกิจกลับมาเดินหน้าเร็ววัน
NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง