นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายแก่กรรมการผู้แทนกระทรวงการคลัง ในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้กรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังฯ เร่งการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และให้เป็นจุดเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนบทบาทของกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นเชิงรุก (Active Shareholder) ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี (นายมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ที่ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อให้เกิดการปฏิรูปกระบวนการทำงานของรัฐวิสาหกิจตามนโยบายการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขอให้กรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังให้ความสำคัญในเรื่องดังต่อไปนี้
ความสำคัญของรัฐวิสาหกิจกับการพัฒนาเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ เนื่องจากรัฐวิสาหกิจมีสินทรัพย์ ๑๓.๕ ล้านล้านบาท เป็นผู้ครอบครอง strategic assets สำคัญของประเทศ โดยมีการลงทุนคิดเป็นร้อยละ ๕๐ ของการลงทุนภาครัฐ และสามารถนำส่งรายได้ ๑.๖ แสนล้านบาท ในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ นอกจากนี้ ยังได้เน้นบทบาทกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในการเป็น Active Shareholder ในการทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล เช่น สนับสนุนการลงทุนของประเทศ เพื่อให้ปี ๒๕๕๙ เป็นปีแห่งการลงทุน ได้แก่ การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่ ๙๕% ของบลงทุนอนุมัติ รวมถึงการสนับสนุนให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) อย่างเป็นรูปธรรม เช่น โครงการรถไฟฟ้าที่ ครม. อนุมัติให้ดำเนินการ นโยบาย National e-Payment ต้องสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจนำระบบรองรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการให้บริการกับประชาชน มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย เช่น โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินและจำเป็นของเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง วงเงิน ๖๐,๐๐๐ ล้านบาท และโครงการชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตสู้วิกฤติภัยแล้ง วงเงิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท รวมทั้ง มาตรการช่วยเหลือ SMEs โดยเร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยต้นทุนทางการเงินที่ไม่สูงเกินไป เช่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs มาตรการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และโครงการค้ำประกันสินเชื่อ เป็นต้น และโครงการจัดหาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและข้าราชการ เช่น โครงการบ้านประชารัฐ โครงการบ้านประชารัฐบนที่ดินราชพัสดุ และโครงการขับเคลื่อนฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นที่จะผลักดันให้รัฐวิสาหกิจเป็นแหล่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลในปีงบประมาณ ๒๕๕๙ เป้าหมายในการนำส่งรายได้จากรัฐวิสาหกิจเท่ากับ ๑๒๑,๐๐๐ ล้านบาท รวมถึงสนับสนุนให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายสำคัญของประเทศจึงต้อง เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการให้แก่ SFIs และสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจเป็นองค์ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชน โดยนำหลักบรรษัทภิบาลมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการทรัพย์สิน สร้างรายได้เพิ่มและอยู่ได้ด้วยความยั่งยืน รวมถึงการนำรูปแบบในการประกอบธุรกิจที่ดีทั้งจากในและต่างประเทศมาปรับใช้กับองค์กร โดยจัดให้มีการวัดเปรียบเทียบ (benchmarking) โดยเฉพาะกับมาตรฐาน สากลหรือคู่แข่งที่สำคัญ
และที่สำคัญก็คือ สคร. ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการปฏิรูปกระบวนการทำงานของรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการสนับสนุนให้กรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังเป็น Active Shareholder เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ สคร. จะต้องทำงานเชิงรุกเพื่อสนับสนุนการทำงานของกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในเรื่องต่างๆ ได้แก่ การสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูล สคร. ต้องทำงานเชิงรุกร่วมกับการทำงานของผู้แทนกระทรวงการคลัง โดยจะให้ความสำคัญกับการสื่อสารสองทาง (Two-way) และการสร้างความเข้าใจให้กับกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในการเป็น Active Shareholder เช่น หน้าที่ของกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในการต้องรายงานประเด็นและข้อเท็จจริงสำคัญของรัฐวิสาหกิจกลับมาให้ สคร. ทราบโดยเร็ว นอกจากนี้ สคร. ยังจัดทำฐานข้อมูลกลางรัฐวิสาหกิจที่กรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังสามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว เช่น ข้อมูลผลการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ ปัญหาข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงที่ต้องให้ความสำคัญในการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจ
ทั้งนี้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สคร. ได้กล่าวว่า การที่กรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังเข้าใจในบทบาทและความรับผิดชอบในการเป็นผู้แทนกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นเชิงรุก Active Shareholder และทำงานร่วมกับ สคร. ในการพัฒนารัฐวิสาหกิจ จะทำให้รัฐวิสาหกิจเป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่อย่างยั่งยืน รวมทั้งให้บริการสาธารณะกับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
"สาระ ล่ำซำ" คว้า 2 รางวัลเกียรติยศ "สุดยอดผู้นำองค์กร" ประจำปี 2568 จากงานประกาศรางวัล CEO ECONMASS Awards 2025
ผู้บริหาร SABINA คว้ารางวัลสุดยอดซีอีโอ ประจำปี 2568 จากสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ
ไอแบงก์ ร่วมแสดงความยินดี สคร. ครบรอบ ๒๓ ปี
วว. ร่วมแสดงความยินดี "ครบรอบ 22 ปี สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ"
อ.อ.ป. ร่วมยินดี สคร. ครบรอบ 21 ปี
วว. ร่วมแสดงความยินดีวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 21 ปี สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
SME D Bank ร่วมสัมมนาเรียนรู้แนวทาง ESG ในรัฐวิสาหกิจไทย เดินหน้าประยุกต์ใช้ เพิ่มประสิทธิภาพขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
EXIM BANK เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 4/2566
SME D Bank เชิญคณะอนุกรรมการ SubPAC ร่วมเยี่ยมชมกิจการลูกค้า ความสำเร็จจากแนวทาง 'เติมทุนคู่พัฒนา' ส่งเสริมเอสเอ็มอีไทยเติบโตยั่งยืน