ปภ.รายงานสถานการณ์ไฟป่าใน 3 จังหวัดภาคใต้และภาคเหนือ พร้อมระดมสรรพกำลังปฏิบัติการดับไฟป่าอย่างต่อเนื่อง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ไฟป่าใน 3 จังหวัดภาคใต้และภาคเหนือโดยไฟป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส สามารถควบคุมไฟมิให้ขยายวงกว้าง แต่ไฟยังดับไม่สนิท โดยมีไฟไหม้ในชั้นใต้ดิน ขณะที่ไฟป่าอุทยานแห่งชาติเขาปู่ – เขาย่า จังหวัดพัทลุง ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ส่วนไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ออกปฏิบัติการดับไฟป่า โดยระดมฉีดน้ำควบคุมไฟอย่างต่อเนื่อง จัดทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่า รวมถึงประสานการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศและหน้าดิน พร้อมนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นโปรยน้ำและสารเคมีดับไฟป่า เพื่อควบคุมสถานการณ์ไฟป่าให้อยู่ในวงจำกัดและไม่ให้ขยายวงกว้างมากขึ้น
          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลและคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยสถานการณ์ไฟป่าในหลายพื้นที่ จึงได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการดับไฟป่าและแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลัง ซึ่งมีสถานการณ์ไฟป่าใน 3 จังหวัดภาคใต้และภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส รวม 10 จุด ในพื้นที่ 4 อำเภอ 6 ตำบล 11 หมู่บ้าน ดังนี้ อำเภอสุไหงโก – ลก เกิดไฟป่าในตำบลปาเสมัส จำนวน 2 จุด แยกเป็น บ้านซรายอ หมู่ที่ 1 พื้นที่ป่าเสม็ดและสวนยางพาราได้รับความเสียประมาณ 700 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดงหรือป่าพรุสิรินธร 800 ไร่ และบ้านลูโบ๊ะซามา หมู่ที่ 8 พื้นที่ชายขอบป่าพรุได้รับความเสียหายประมาณ 50 ไร่ เป็นเขตป่าสงวนลุ่มน้ำบางนราประมาณ 50 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่ามิให้ขยายวงกว้าง แต่ไฟยังดับไม่สนิท และยังคงมีไฟไหม้ในชั้นใต้ดิน อำเภอสุไหงปาดี จำนวน 5 จุด แยกเป็น ตำบลปะลุรู จำนวน 3 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบางนราแปลงที่ 2 และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 670 ไร่ และตำบลสุไหงปาดี จำนวน 2 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 160 ไร่ หากไม่มีไฟไหม้ขึ้นมาอีกคาดว่าสถานการณ์จะยุติได้โดยเร็ว อำเภอบาเจาะ จำนวน 1 จุด ในตำบลลุโบะสาวอ หมู่ที่ 6 พื้นที่ป่าพรุและสวนปาล์มได้รับความเสียหายประมาณ 60 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ไฟยังดับไม่สนิท จึงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง อำเภอยี่งอจำนวน 2 จุด แยกเป็น บ้านตะโละกูวิง หมู่ที่ 2 ตำบลลุโบะบือชา พื้นที่ได้รับความเสียหาย 340 ไร่ ขณะนี้สามารถดับไฟได้แล้ว และบ้านตะโละมีญอ หมู่ที่ 1 ตำบลตะปอเยาะ พื้นที่ป่าเสม็ดและสวนปาล์มได้รับความเสียหายประมาณ 60 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมไฟได้แล้ว จังหวัดพัทลุง เกิดไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่ – เขาย่า บริเวณเขาพญาโง้ง ตำบลคลองทรายขาว อำเภอกงหรา พื้นที่ได้รับความเสียหายประมาณ 20 ไร่ ปัจจุบันยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันยากต่อการเข้าควบคุมเพลิง สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดไฟป่าบริเวณป่าเต็งรังด้านทิศเหนือของพื้นที่นาไร่หลวง ใกล้สวนส้มของชาวบ้านขุนช่างเคี่ยน ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย พื้นที่ได้รับความเสียหายประมาณ 20 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ออกปฏิบัติการดับไฟป่า โดยระดมรถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ รถส่งน้ำระยะไกล รถดับไฟป่า เครื่องสูบน้ำแบบหาบหาม ฉีดน้ำควบคุมไฟอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจุดที่ยังมีไฟลุกลาม พร้อมนำรถแบ็คโฮ รถตักหน้าขุดหลัง และรถแทร็กเตอร์จัดทำแนวกันไฟควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด อีกทั้งเปิดเส้นทางสำรองและปรับพื้นที่ให้โล่งเตียนเพื่อให้รถบรรทุกน้ำสามารถเข้าถึงจุดเกิดไฟป่า รวมถึงดำเนินการขุดพื้นที่เป็นจุดๆ แบบขนมครก เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำในการดับไฟ นอกจากนี้ ได้ประสานสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรออกปฏิบัติการฝนหลวง ในพื้นที่เกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศและหน้าดิน รวมถึงประสานเฮลิคอปเตอร์จากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขึ้นโปรยน้ำและสารเคมีดับไฟป่า อย่างไรก็ตาม ในจุดที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้ไฟเกิดการปะทุซ้ำ

0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th


ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+จังหวัดเชียงใหม่วันนี้

กทม. ยกระดับแผนปฏิบัติการป้องกันรับมือฝุ่น PM2.5 เข้มตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น ลดผลกระทบสุขภาพประชาชน

นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. รักษาราชการแทน ผอ.สสล. กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการป้องกันและรับมือปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สสล. ได้บูรณาการความร่วมมือและการยกระดับปฏิบัติการแบบ Single Command โดย กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบวันต่อวัน และบูรณาการข้อมูล hotspot

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หร... NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ — บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เดินหน้าสนับสนุนการยกร...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย C... ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม! — ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ระดับจังหวัด 13 พ.ค. นี้ พร้อมย้...

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกั... NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง — กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้...