มร. แฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัดกล่าวว่า กลุ่มคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไพร์มและไพร์มในกรุงเทพฯจะยังคงดึงดูดผู้ซื้อได้เรื่อยๆ เนื่องจากมีพื้นที่พัฒนาจำกัดส่งผลให้ราคาปรับสูงตามไป มร.ข่านอธิบายเสริมว่า ผู้ซื้อที่ต้องการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไพร์มและไพร์มไว้เป็นบ้านหลังที่สอง เพราะสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่สะดวกสบาย ตลาดทั้ง 2 กลุ่มนี้มีทำเลที่ตั้งที่ดี รายล้อมด้วยร้านอาหาร โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำในละแวกชุมชน คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไพร์มบางแห่งมีบริการภายใต้แบรนด์ดังระดับโลก เพื่อให้บริการผู้อยู่อาศัยโดยเฉพาะ ทำให้ผู้ที่มีความมั่งคั่งสูง (HNWIs) สามารถดำเนินชีวิตได้สะดวกยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอ็น เช่น มีขนาดสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียวที่เหมาะสม
มร. ข่านกล่าวเสริมว่า อุปสงค์ของคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไพร์มและไพร์มส่วนใหญ่อยู่ในย่านสุขุมวิท ใกล้ BTS ทองหล่อ และซอย 37-39 ถนนราชดำริ ถนนหลังสวน และถนนวิทยุ มร. ข่านคาดว่า ทำเลทองแห่งใหม่สำหรับคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไพร์มและไพร์มจะอยู่ติดริมแม่น้ำ เช่น ถนนเจริญนคร การขาดแคลนพื้นที่พัฒนาเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้ราคาปรับสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้ชัดผ่านราคาขายที่สูงลิบในขณะนี้
ตามผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ในปี 2558 มีอุปทานประมาณ 1,096 หน่วยที่ขายออกของตลาดทั้ง 2 ประเภทนี้ อัตราขายสะสมของคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไพร์มและไพร์ม อยู่ที่ร้อยละ 69.3 และร้อยละ 86 ตามลำดับ อัตราขายสะสมในตลาดซูเปอร์ไพร์ม ตอนสิ้นปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 69.3 ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากในช่วงครึ่งแรกของปี เนื่องจากมีจำนวนอุปทานจำนวนไม่มากเพิ่มเข้ามาในตลาด (มี 146 หน่วยที่พึ่งเปิดตัว) โดยรวมทั้งหมด 602 หน่วยที่เปิดขายในช่วงสิ้นปี 2558 ในขณะเดียวกัน ตลาดคอนโดมิเนียมระดับไพร์ม มีการชะลอตัวด้านอัตราครอบครอบ ลดลงเหลือ 96 หน่วย จาก 323 หน่วยในช่วงครึ่งปีก่อน อย่างไรก็ตามตลาดระดับไพร์มยังมียอดขายดีกว่ากลุ่มตลาดคอนโดมิเนียมโดยรวมในกรุงเทพฯจากในช่วงเดียวกัน ซึ่งแสดงให้เห็นผลกระทบการชะลอตัวของตลาด


นอกจากนี้โครงการระดับซูเปอร์ไพร์มและไพร์มที่เพิ่งเปิดตัวไป ในขณะนี้เริ่มที่จะเสนอแพคเกจเฟอร์นิเจอร์ที่คาดว่าจะช่วยสร้างความแตกต่างให้กับแต่ละประเภายูนิต บางยูนิตที่อยู่ภายในอาคารเดียวกันมีการปรับราคาขายระดับพรีเมี่ยมจาก 25,000 บาท ไปที่ 85,000 บาทต่อตารางเมตร เพราะมีการเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่ดีกว่า การออกระบบควบคุมการทำงานในบ้านแบบบิ้วอิน ห้องครัวและเครื่องสุขภัณฑ์ที่มีอุปกรณ์ครบถ้วนดีกว่า มาเป็นข้อเสนอในการปรับราคาหน่วยเฉลี่ยในโครงการ นักพัฒนาโครงการบางแห่งใช้กลยุทธ์นี้ในการปรับราคาขายได้สูงถึง 430,000 บาทต่อตารางเมตร
นอกจากนี้โครงการระดับซูเปอร์ไพร์มและไพร์มที่เพิ่งเปิดตัวไป ในขณะนี้เริ่มที่จะเสนอแพคเกจเฟอร์นิเจอร์ที่คาดว่าจะช่วยสร้างความแตกต่างให้กับแต่ละประเภายูนิต บางยูนิตที่อยู่ภายในอาคารเดียวกันมีการปรับราคาขายระดับพรีเมี่ยมจาก 25,000 บาท ไปที่ 85,000 บาทต่อตารางเมตร เพราะมีการเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่ดีกว่า การออกระบบควบคุมการทำงานในบ้านแบบบิ้วอิน ห้องครัวและเครื่องสุขภัณฑ์ที่มีอุปกรณ์ครบถ้วนดีกว่า มาเป็นข้อเสนอในการปรับราคาหน่วยเฉลี่ยในโครงการ นักพัฒนาโครงการบางแห่งใช้กลยุทธ์นี้ในการปรับราคาขายได้สูงถึง 430,000 บาทต่อตารางเมตร