IFEC เนื้อหอม เบอร์ 1 กังหันลมโลกสนใจร่วมทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          IFEC เนื้อหอม GOLDWIN เบอร์ 1 ผู้ผลิตกังหันลมโลก สนใจเข้าร่วมทุน IWIND เพื่อรุกตลาดเอเชีย หลังมั่นใจแผนขยายโรงไฟฟ้าพลังงานลม 1,000 เมกะวัตต์ปี 2562 แถมเปิดโอกาสพัฒนาโครงการในมือร่วมกัน ล่าสุดเซ็นสัญญาซื้อกังหันลมใช้ผลิตโครงการปากพนังเฟส 2 แล้ว มั่นใจไตรมาส 3 เริ่มจ่ายไฟได้ แย้มเตรียมเทคโอเวอร์บริษัทผลิตไฟฟ้าในเวียดนาม พ.ค.นี้
          นายสุเมธ สุทธภักติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วินด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (IWIND)บริษัทในเครือ บมจ. อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) เปิดเผยว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการให้ บริษัท โกลด์วิน อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (GOLDWIN) ผู้ผลิตกังหันลมเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก สัญชาติจีน เข้าถือหุ้นใน IWIND สัดส่วน 10% เพื่อที่จะร่วมเป็นพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม โดยจะมีการเจรจาในรายละเอียดต่อไป
          สำหรับข้อตกลงดังกล่าวจะส่งผลดีกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างมาก โดยในส่วนของ GOLDWIN ต้องการที่จะส่ง ซัพพลายกังหันลมเพื่อการผลิตไฟฟ้าเข้ามาบุกตลาดในเอเชีย และมั่นใจแผนของ IWIND ที่กำลังเร่งขยายการผลิตไฟฟ้าพลังงานทั่วเอเชีย
          ขณะที่ IWIND ก็จะได้รับผลประโยชน์ด้านซัพพลายกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมร่วมกับ GOLDWIN ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีเป้าหมายในการพัฒนาโครงการถึง 8,000 เมกะวัตต์ (MW) ทั่วโลก
          "GOLDWIN ขึ้นมาเป็นซัพพลายกังหันลมสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าเบอร์ 1 ของโลกในปีนี้ หลังจากได้ขยายตลาดอย่างหนัก ซึ่งเขาก็เห็นแผนของเราที่จะขยายการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมอย่างมาก จึงเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อขยายตลาดเอเชีย และยังยินดีที่จะให้ IWIND เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมของเขาซึ่งมีเป้าหมายถึง 8,000 เมกะวัตต์ โดยบริษัทก็จะเลือกดูพื้นที่เหมาะสมที่จะเข้าไปลงทุน" นายสุเมธกล่าว
          ล่าสุด บริษัทยังได้เซ็นสัญญาซื้อกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า กับ GOLDWIN ขนาดการผลิตพลังงานไฟฟ้ารวม 8.965 เมกะวัตต์ เพื่อนำไปใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เฟส 2 ขนาด 10 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และได้รับสินเชื่อจาก ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ Exim bankแล้ว โดยมีความคืบหน้าค่อนข้างมาก คาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้า เชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการไฟฟ้าพลังงานลม อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เฟส 1 ขนาด 10 เมกะวัตต์ ที่ได้รับรู้รายได้เชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
          นายสุเมธ ระบุด้วยว่า ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ บริษัทจะเซ็นสัญญาเข้าซื้อกิจการ บริษัท เอชบีอาร์อี (HBRE) กลุ่มทุนเวียดนาม เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม บริเวณจังหวัดดักลัก (Daklak) ซึ่งเป็นที่ราบสูงตอนกลางของประเทศ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA)แล้ว 28 เมกะวัตต์ และจะได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 62 เมกะวัตต์ รวมเป็น 90 เมกะวัตต์ มีอัตราผลตอบแทน (IRR) ประมาณ 11% คาดว่าจะขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ไตรมาส 4/59 เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นการเริ่มลงทุนในเวียดนามจากกำลังการผลิตทั้งหมดของโครงการ 210 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ โครงการไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก หลังจากที่รัฐบาลเวียดนามประกาศรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังสามารถจำหน่ายไฟฟ้าไปยังประเทศอื่นๆ ได้ ด้วย
          ขณะที่ความคืบหน้าโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เกาหลีใต้นั้น เมื่อปลายปีทีผ่านมา บริษัทได้เข้าถือหุ้น ร่วมกับ "บริษัท ฮานชิน เอนเนอร์ยี่" ผู้ผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ ขนาดกำลังการผลิต 33 เมกะวัตต์ สัดส่วน 30% ซึ่งส่งผลให้มีบริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 10 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้น ล่าสุดโครงการนี้จะได้อัตราการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากเดิม หลังเกาะเจจู ประกาศเป้าหมายปี 2530 เป็นเกาะพลังงานสะอาด ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทให้มีรายได้เพิ่มเติมมากขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะเจรจาเข้าถือหุ้นเพิ่มเป็นสัดส่วน 50% เพื่อดำเนินโครงการโครงไฟฟ้า พลังงานลมอื่นๆเพิ่มเติม
          นายสุเมธ กล่าวมั่นใจว่า ปี 2562 จะสามารถขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์จากพลังงานลมได้จำนวน 1,000 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้บริษัทกำลังเร่งดำเนินงานอย่างหนักเพื่อทั้งเข้าซื้อกิจการและการพัฒนาโครงการด้วยตนเอง โดยบริษัทจะเน้นการพัฒนาโครงการในต่างประเทศเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกันหากนโยบายรัฐบาลมีความชัดเจน บริษัทก็พร้อมที่จะเข้าดำเนินโครงการในประเทศเพิ่มเติม
IFEC เนื้อหอม เบอร์ 1 กังหันลมโลกสนใจร่วมทุน
 

ข่าวอินเตอร์เนชั่นแนล+โรงไฟฟ้าพลังงานลมวันนี้

แร็กแท็ก (RAGTAG) ช็อปสินค้าแฟชั่นลักชัวรี่มือสองจากญี่ปุ่น เปิดตัวสาขาแรกในไทยอย่างเป็นทางการที่ One Bangkok

แร็กแท็ก (RAGTAG) เป็นช็อปสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมและลักชัวรี่มือสอง ที่มุ่งเน้นอยากให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม ซึ่งเปิดดำเนินการจนประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดสาขาแรกปี 2528 ในย่านฮาราจูกุ โตเกียว ปัจจุบันมีการขยายช็อปต่างๆออกไปถึง 24 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ทินแพนแอลลี่ (Tin Pan Alley CO. LTD) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเวิลด์กรุ๊ป ผู้นำในธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้าแฟชั่นของญี่ปุ่น สหกรุ๊ป นำโดย บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)ได้ร่วมทุนกับ

บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแ... บมจ. เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล "AAI" ร่วมงาน "Pet Expo Championship 2025" ผลตอบรับสุดฮอต — บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ม...

FTI เติมเต็มคุณภาพชีวิตเด็ก สานต่อภารกิจส... FTI เติมเต็มคุณภาพชีวิตเด็ก สานต่อภารกิจส่งมอบน้ำสะอาดผ่าน "โครงการเปลี่ยนไส้กรองน้ำ" — FTI เติมเต็มคุณภาพชีวิตเด็ก สานต่อภารกิจส่งมอบน้ำสะอาดผ่าน "โครงกา...

เมื่อเทคโนโลยีด้านการรับและการจ่ายเงินล้ำ... "JAS" เปิดตัวพาร์ทเนอร์ "Omise" ระบบชำระเงินสมัครดูพรีเมียร์ลีกที่ "Monomax" ไว้วางใจ — เมื่อเทคโนโลยีด้านการรับและการจ่ายเงินล้ำหน้าไปไกล ทำให้การสมัครแพ...

พร้อมเข้าเทรดเร็วๆนี้! บริษัท โรงพยาบาลมุ... ไอพีโอ HANN รพ. มุกดาหารอินเตอร์ฯ กระแสตอบรับแรง! นักลงทุนแห่จองซื้อหุ้นเกลี้ยง 160 ล้านหุ้น — พร้อมเข้าเทรดเร็วๆนี้! บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั...