ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของไทยนับเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่น่าจับตามองสำหรับผู้เล่นในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต้องการรุกตลาดหลังการขายโดยอ้างอิงจากผลการวิจัยการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ของบริษัทอิปซอสส์ บิสสิเนส คอนซัลติ้ง โดยคุณนที เรืองจิระชูพร หัวหน้าคณะที่ปรึกษาทางธุรกิจประจำประเทศไทย อ้างอิงถึงผลการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือรวมกัน มีปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคลคิดเป็นร้อยละ 36 จากจำนวนรถยนต์ส่วนบุคคลที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมดในประเทศไทย "ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราส่วนการเติบโตของรถยนต์ส่วนบุคคลเติบโตสูงที่สุด คิดเป็นกว่าร้อยละ 9 ของอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยในปี 2554 ถึง 2558 ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการเติบโตของการค้าแนวชายแดน โดยมีปัจจัยบวกจากการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone) ทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน" คุณนทีกล่าว
บริษัทอิปซอสส์ บิสสิเนส คอนซัลติ้ง ให้ความเห็นว่า ผู้เล่นรายใหญ่ในกลุ่มยานยนต์ ล้วนพยายามทำรายได้และสร้างกำไรสูงสุดจากตลาดหลังการขาย อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประกอบรถยนต์ดังกล่าวอาจจะไม่ได้เป็นผู้ได้ประโยชน์หลักจากการเติบโตของรถยนต์ที่หมดระยะประกัน (รถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป) คุณชูเกียรติ วงศ์ทวีรัตน์ ผู้จัดการอาวุโส – บริษัทอิปซอสส์ บิสสิเนส คอนซัลติ้ง ชี้ให้เห็นถึงข้อได้เปรียบของอู่ซ่อมรถยนต์อิสระ ที่มีอยู่ทั่วประเทศและมีการให้บริการที่หลากหลาย คุณชูเกียรติ อธิบายเพิ่มเติมว่า "จากจำนวนอู่ที่มีมากกว่า 10,000 แห่งกระจายทั่วประเทศ ทั้งอู่อิสระที่ได้รับการจดทะเบียนและเป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันรถยนต์ และอู่อิสระที่ไม่ได้จดทะเบียน ทำให้อู่อิสระเหล่านี้เป็นช่องทางที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ที่เล็งเห็นถึงโอกาสและต้องการสร้างความได้เปรียบ ในการเข้าถึงลูกค้าสำหรับตลาดหลังการขาย" โดยคุณนทีเชื่อมั่นว่า โรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ควรมีการรับรู้และตื่นตัวต่ออิทธิพลโดยตรงของอู่อิสระเหล่านี้รวมไปถึง
ช่างที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการเลือกชิ้นส่วนต่างๆในตลาดหลังการขาย รวมถึงการสร้างแบรนด์เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างสินค้าชนิดเดียวกันและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดหลังการขาย "จากผลการศึกษาของ จะเห็นได้ว่าลูกค้ามีความเชื่อถือคำแนะนำของเจ้าของอู่หรือช่างซ่อมเป็นอย่างมาก ในการเลือกชิ้นส่วนต่างๆรวมไปถึง
แบรนด์ โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่จะคำนึงคุณภาพของอะไหล่เป็นหลัก และพิจารณาประกอบกับคำแนะนำของช่าง" คุณนที กล่าว
ผลการศึกษาอุตสาหกรรมยานยนต์จากบริษัทอิปซอสส์ ได้เน้นย้ำความสำคัญของช่องทางการจัดจำหน่ายและการกระจายอะไหล่รถยนต์ ซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ต้องการจะชิงความได้เปรียบเทียบ
ท่ามกลางกระแสการเติบโตของอุตสาหกรรยานยนต์ในไทยโดยเฉพาะตลาดหลังการขาย โดยทางบริษัทอิปซอสส์เพิ่มเติมว่าผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่หรือยี่ป๊วะจัดเป็นพันธมิตรที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มองถึงโอกาสการเติบโตในตลาดหลังการขายผ่านช่องทางตลาดอู่รถยนต์อิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นอกกรุงเทพมหานคร
สำหรับรายงานฉบับเต็มของ Thailand Automotive Aftermarket สามารถดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ipsosconsulting.com/ASEAN-Automotive
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนไทยกำลังเผชิญกับโจทย์ใหญ่หลายด้าน ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ นับตั้งแต่เริ่มต้นการผลิตในประเทศ
CHANGAN เดินหน้ากลยุทธ์ 'In Thailand, For Thailand' สานต่อความสำเร็จและความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม
ด่วน! กรมพัฒน์ฯ จัดหนัก เปิดคอร์สอัพสกิลทักษะยานยนต์ไฟฟ้า โลจิสติกส์ 3 กลุ่มหลักสูตร 13 รุ่น อบรม ต.ค. - ธ.ค. 68 รับจำนวนจำกัด!
แอ็กซอลตา สานต่อพันธกิจเพื่อสังคม จัดอบรม "โครงการไตรภาคี รุ่นที่ 13" พัฒนาทักษะเยาวชนสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ระดับสากล
ยามาฮ่าขับเคลื่อนโรงงานสู่มาตรฐานยุคใหม่ ปรับโฉมพื้นที่ผลิต เสริมความปลอดภัย เพิ่ม Co-Working Space ยกระดับคุณภาพชีวิต และประสิทธิภาพการทำงาน
สยามกลการ กับ เควายบีประเทศญี่ปุ่น ผนึกกำลังก่อตั้ง "สยาม เควายบี เซลส์" รุกตลาดโช้คอัพและระบบช่วงล่างในประเทศไทยอย่างเต็มตัว
บีโอไอ จับมือ Midea ผู้นำเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ เร่งใช้ชิ้นส่วนในประเทศ เชื่อมโยงซัพพลายเชนโลก
MOU แห่งอนาคต! มจพ.-ม.นครพนม ร่วมขับเคลื่อน EV ไทย
NEW MG IM6 ผ่าน Euro NCAP ระดับ 5 ดาว บทพิสูจน์ผู้นำรถ Premium Intelligent e-SUV มาตรฐานระดับสากล