“มูลนิธิศึกษาพัฒน์” เตรียมขยายผล “การเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ด้วยปัญญา” เปิดเวทีโชว์ความสำเร็จการพัฒนา “เด็ก-ชุมชน-ธุรกิจ” ด้วย “Constructionism”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          มูลนิธิศึกษาพัฒน์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดงานสัมมนาวิชาการนานาชาติ "Constructionism 2016" ครั้งแรกในเอเชีย เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำเสนอผลงานการพัฒนาต้นทุนมนุษย์ด้วยศาสตร์ Constructionism หรือ การเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ด้วยปัญญา โดยมีบุคลากรด้านการศึกษาจากทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ร่วมสัมมนากับนักการศึกษาของไทย ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และฮ่องกง เพื่อนำเสนอแนวคิด และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน ณ ดรุณสิกขาลัย โรงเรียนนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้
          การจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Constructionism หรือ การจัดการเรียนการสอนแบบสร้างสรรค์ด้วยปัญญา เกิดขึ้นจากแนวคิดของ ศาสตราจารย์ Seymour Papert แห่ง Massachusetts Institute of Technology (MIT) บนความเชื่อที่ว่า "มนุษย์ทุกคนสามารถสร้างการเรียนรู้ด้วยตนเองอยู่ตลอดเวลา" ดังนั้นการจัดการศึกษาที่แท้จริงคือการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมผู้เรียนให้สร้างการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ ที่ประกอบไปด้วยปัจจัย 4 ประการได้แก่ ความเป็นเจ้าของ ทำด้วยใจ เรียนรู้ร่วมกัน และเรียนรู้วิธีเรียน ผ่าน 3 กระบวนที่หมุนเวียนในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่องคือ ฝึกการคิดและจินตนาการ เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ และรับฟังมุมมองความคิดเห็นที่แตกต่างจากเพื่อนและครู
          นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ประธานมูลนิธิศึกษาพัฒน์ และผู้อำนวยการโครงการพัฒนาการเรียนรู้แบบ Constructionism ในประเทศไทย เปิดเผยว่าการจัดการประชุม Constructionism ไม่เคยจัดที่อื่นนอกจากกลุ่มประเทศยุโรปและเอมริกา แต่เมื่อสองปีที่แล้วเราได้ส่งคนไทยไป 17 คน แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้นำเอาหลักคิดของ Constructionism มาใช้พัฒนาคนได้ทุกภาคส่วนของสังคมตั้งแต่ชาวไร่ชาวนาผู้ยากจน เช่นชุมชนบ้านสามขามีคุณภาพชีวิตที่ขึ้น เมื่อนำไปใช้ในหลายๆ โรงเรียนก็มีผลสัมฤทธิ์ต่างๆ ดีขึ้นได้รับรางวัลมากมาย ส่วนภาคเอกชนเมื่อนำแนวทางการบริหารจัดการพัฒนาทุนมนุษย์ดังกล่าวไปใช้ก็สามารถประหยัดเงินได้นับพันล้านบาท หรือนำไปใช้กับธุรกิจด้านขายปลีกก็พบว่าประหยัดเงินไปได้สองเท่าในระยะเวลา 5 ปี
          "กว่า 20 ปีที่เรานำการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Constructionism ไปใช้ พบว่าสามารถทำให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้น ผ่านวิธีการที่ให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติ เด็กของเราจะคิดเป็นและทำเป็น ไม่ใช่แค่ท่องจำหรือฟังจดจำจากการสอนบนกระดานดำ เพราะหลักของ Constructionism สร้างให้เด็กเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง สร้างให้คนเป็นนวัตกร เมื่อเขาโตขึ้นจะสามารถเรียนรู้เพื่อรู้หรือ learning how to learn ซึ่งจะทำให้เขาคิดต่อไปเองได้ อย่างที่โรงเรียนดรุณสิกขาลัยก็เป็นฐานของการขยายผลการดำเนินงานออกไปที่อื่นๆ เพิ่มขึ้น แต่การเปลี่ยนทัศนคติของผู้ใหญ่ในการจัดการเรียนการสอนรูปแบบเดิมมาเป็นรูปแบบใหม่นั้นยังเป็นเรื่องยากซึ่งจะต้องใช้เวลา และที่สำคัญคือผู้บริหารของสถานศึกษาต้องเป็นผู้นำในเรื่องดังกล่าวจึงจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงกับการศึกษาของไทยได้" นายพารณระบุ
          ภายในงานได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองของการนำแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนแบบสร้างสรรค์ด้วยปัญญามาร่วมแลกเปลี่ยนกัน สำหรับประเทศไทยได้นำเอากรณีศึกษาของ ดรุณสิกขาลัย โรงเรียนนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ มานำเสนอซึ่งพบว่าเด็กนักเรียนมีความชื่นชอบและสนุกที่จะเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง โดยจะมีคุณครูเป็นผู้ที่ อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ นำหลักและทฤษฎีต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับการจัดการเรียนรู้ที่สามารถทำให้ผู้เรียนสามารถสร้างสรรค์องค์ความรู้ต่างๆ ขึ้นได้ด้วยตนเอง
ด้านกรณีศึกษาจาก ประเทศคอสตาริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบที่นำกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบ Constructionism ไปใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1987 กับการจัดการเรียนรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ได้ร่วมนำเสนอแนวคิดของการขับเคลื่อนการจัดการเรียนการสอนในลักษณะนี้ว่าการปฏิรูปการจัดการเรียนการสอนในลักษณะนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายต่อความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งจะต้องดึงพลังความมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคมเข้ามาทั้งภาครัฐ เอกชน กระทรวง มูลนิธิร่วมมือกัน โดยจะต้องไม่มีเรื่องของการเมืองเข้ามาข้องเกี่ยว
          "ความเข้าใจของครูส่งผลต่อความเข้าใจของเด็ก ดังนั้นการขับเคลื่อนการเรียนรู้แบบ Constructionism ให้ประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องมีการอบรมครูอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันประเทศคอสตาริกามีโรงเรียนกว่า 2,500 แห่งที่นำแนวคิดนี้ไปใช้ และทำให้เกิดการปฏิวัติการศึกษาและสร้างความเท่าเทียมกันให้เกิดขึ้นในประเทศได้" Leda Munoz ผู้แทนจากมูลนิธิ Omar Dengo ประเทศคอสตาริกา กล่าว
          นางสาวอัจฉรา เตชะสินธุ์ธนา ครูระดับประถมศึกษา กล่าวถึงการจัดการเรียนการรู้แบบสร้างสรรค์ด้วยปัญญาว่า เป็นการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ เพราะหลายครั้งเรามักจะคิดและวางแผนการทำงานอยู่เพียงในหัวของเราเพียงอย่างเดียว โดยไม่เคยนำออกมาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม แต่เมื่อไรก็ตามที่เราลงมือทำ ก็จะเป็นการเอาความคิดเหล่านั้นตีความออกมาเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นสิ่งที่ทำและเข้าใจว่าความคิดนั้นมีความสับสนอยู่ตรงไหน
          "การเรียนรู้แบบนี้เป็นการเรียนรู้ที่เปิดกว้างมาก สำคัญว่าเราได้มองเห็นความคิดของตัวเราเองและลงมือปฏิบัติ เมื่อเกิดผลขึ้นก็สามารถมองย้อนกลับไปหาตัวเองได้ว่าผลหรือสิ่งที่ทำนั้นดีหรือไม่ดี มีปัญหาตรงไหน แล้วจะพัฒนาต่อไปได้อย่างไร สิ่งที่เด็กๆ จะได้รับจาก Constructionism หลักๆ ก็คือ คิดเป็น คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ ผ่านการลงมือทำ แล้วก็การทำงานร่วมกันเพื่อที่จะแบ่งปันให้กับคนอื่น ที่สำคัญคือความรู้ที่เขาได้รับจากการเรียนรู้แบบนี้ ไม่ใช่ความรู้มือสองที่ได้จากการที่ใครมาพูดหรือบรรยายให้ฟัง แต่เป็นความรู้มือหนึ่งที่เขาได้จากการลงมือทำเอง ซึ่งหมายความว่าเขาจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ และความรู้นี้จะติดตัวเขาไปเป็นความเข้าใจที่จะสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง" คุณครูอัจฉรากล่าว
          ปัจจุบัน "มูลนิธิศึกษาพัฒน์" ได้เผยแพร่และต่อยอดกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ด้วยปัญญาสู่ภาคสังคมผ่าน "โครงการจัดการหนี้สิน" เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมผ่าน "โครงการพัฒนาบุคลากรแบบ Constructionism" ที่เน้นสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้บุคลากรในองค์กรมีความสามารถในการเรียนรู้ เกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน และสามารถคิดค้นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรได้ และพร้อมที่จะขยายผลการออกไปสู่สถาบันการศึกษาและทุกภาคส่วนในสังคมไทยเพื่อพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้และทุนมนุษย์ของคนไทยให้สูงขึ้น
“มูลนิธิศึกษาพัฒน์” เตรียมขยายผล “การเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ด้วยปัญญา” เปิดเวทีโชว์ความสำเร็จการพัฒนา “เด็ก-ชุมชน-ธุรกิจ” ด้วย “Constructionism”
“มูลนิธิศึกษาพัฒน์” เตรียมขยายผล “การเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ด้วยปัญญา” เปิดเวทีโชว์ความสำเร็จการพัฒนา “เด็ก-ชุมชน-ธุรกิจ” ด้วย “Constructionism”

ข่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี+มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าวันนี้

กลุ่มบริษัทบางจาก จับมือ KX - Knowledge Exchange เปิดพื้นที่ให้สตาร์ตอัป เร่งสปีดนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต ผ่าน TECHBITE ENERGY

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก พร้อมด้วย ดร. เคตะ โอโนะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาระบบนิเวศน์นวัตกรรม KX Knowledge Xchange ศูนย์นวัตกรรมแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมต้อนรับผู้เข้าร่วมโครงการสตาร์ตอัป 10 ทีมด้านพลังงานและความยั่งยืน ลงสนามสร้างสรรค์นวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต ในกิจกรรมเปิดตัวโครงการ "TECHBITE ENERGY by Bangchak Group & KX" ณ สำนักงาน

ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอา... มจธ. ยกทัพงานวิจัยโชว์นวัตกรรมพลังงานยั่งยืนระดับเอเชีย ในงาน ASEW 2025 — ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและเป้าหมาย Net Zero ที่ทั่วโลกให้ความ...

"ไข่ปลาคาเวียร์จากพืช" นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต ฝีมือนักศึกษา มจธ. คว้าเหรียญทองระดับชาติ พร้อมลุยต่อตลาดโลก

ท่ามกลางกระแสความต้องการอาหารแห่งอนาคตที่ใส่ใจทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อม กลุ่มนักศึกษาไทยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้สร้างนวัตกรรมโปรตีนทางเลือกใหม่ที่น่าจับตามองอย่าง "ส...

ภายใต้หัวข้อ "Unlock Your Next Level: ทาง... GMI จัดงาน Open House 2025 ครั้งที่ 3 — ภายใต้หัวข้อ "Unlock Your Next Level: ทางลัดสู่การเติบโต เริ่มต้นที่ ป.โท บริหารธุรกิจ" บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการ...

ศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนมูลนิธิโครงการหลว... มจธ.ขอเชิญส่งบทความเข้าร่วมงานประชุมวิชาการความรู้และการวิจัยเพื่อสังคมที่เท่าเทียม : KRIS2025 — ศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนมูลนิธิโครงการหลวงและโครงการตามพร...

นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์... อินฟอร์มาร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดการประชุมนานาชาติ "Future Move Forum" — นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมลงนามบั...