วันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2559) พล.อ. อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้เกียรติเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานในการกำกับดูแลการประกอบกิจการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีแนวท่อส่ง ก๊าซธรรมชาติทั้งบนบกและในทะเล ยาวมากกว่า 4,000 กิโลเมตร โดยมีโครงการขนส่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ 2 โครงการที่เพิ่งจะดำเนินการขนส่ง ได้แก่ โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 4 (ระยอง-แก่งคอย) และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาตินครสวรรค์ และยังมีโครงการขนส่งก๊าซธรรมชาตินครราชสีมา ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณไม่เกินเดือนตุลาคม 2559 นอกจากนั้นแล้ว ยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 จากระยองไปยังไทรน้อย-โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ/ใต้ และระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกจากสถานีควบคุมความดันก๊าซฯ ราชบุรี–วังน้อย ที่ 9 ไปยังจังหวัดราชบุรี
"ความร่วมมือระหว่าง สำนักงาน กกพ. และ ธพ. ในวันนี้ ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง ในการเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลกิจการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ อันจะส่งผลให้เกิดความคล่องตัวในการประกอบกิจการ ลดความซ้ำซ้อนในขั้นตอนการดำเนินงาน รวมทั้งผู้ประกอบการสามารถกำหนดระยะเวลาในการดำเนินโครงการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันของทั้งสองหน่วยงานในเรื่องอื่นๆ ต่อไป"
ด้าน นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ จะมีการกำหนดขอบเขตของการกำกับดูแลของทั้งสองหน่วยงาน รวมทั้งขั้นตอนการออกใบอนุญาตกิจการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่าการประกอบกิจการพลังงานและกฎหมาย ว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง โดย กกพ. จะมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลระบบโครงข่ายก๊าซธรรมชาติ ประกอบด้วย การประกอบกำหนดเขตสำรวจ การประกาศกำหนดเขตระบบโครงข่ายก๊าซธรรมชาติ การกำหนดเงินค่าทดแทน การวางระบบโครงข่ายก๊าซธรรมชาติ การจัดเครื่องหมายแสดงระบบโครงข่ายก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าบริการและมาตรฐานคุณภาพการให้บริการ ซึ่งเนื้อหาสาระของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ ได้กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงานไว้อย่างชัดเจน และได้กำหนดให้มีการสนับสนุนแลกเปลี่ยนข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองดูแล การเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างสองหน่วยงาน รวมถึงการดำเนินการร่วมกันของสองหน่วยงานในการกำกับดูแลกิจการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ เพื่อเป็นการลดการทับซ้อนกันของการพิจารณาอนุญาต รวมไปถึงลดขั้นตอนที่เกินจำเป็น อันจะทำให้เกิดความชัดเจนในขั้นตอนการปฏิบัติงาน และช่วยร่นระยะเวลาดำเนินการ สำหรับทั้งหน่วยงานอนุญาตและผู้ประกอบกิจการให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งภายในปี 59 นี้ จะการมีประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการในการกำหนดเครื่องหมายในเขตระบบโครงข่ายก๊าซธรรมชาติและเขตระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ เพื่อใช้ปฏิบัติร่วมกันต่อไป
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันกิจการขนส่งก๊าซธรรมชาติ ทางท่อ มีหน่วยงานกำกับดูแลร่วมกันสองหน่วยงาน คือ กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) และสำนักงาน กกพ. โดย ธพ. มีหน้าที่กำกับดูแลด้านความปลอดภัย (หรือ safety) ของระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง และ กกพ. มีหน้าที่กำกับดูแลด้านความมั่นคง (หรือ security) และความเป็นธรรมในการประกอบกิจการ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการพลังงาน
เนื่องจากขั้นตอนการพิจารณาอนุญาตประกอบกิจการของทั้งสองหน่วยงานยังมีความคาบเกี่ยวกัน ทั้งสองหน่วยงาน จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการอนุญาตและการกำกับดูแลในภาพรวม จึงได้ร่วมกันแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแนวทางการปฏิบัติงานในการกำกับดูแลการประกอบกิจการที่เกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติทางท่อ โดยมีอธิบดีกรมธุรกิจพลังงานเป็นประธานคณะทำงานขึ้น โดยให้คณะทำงานจัดทำร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อกำหนดเป็นแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันในการกำกับดูแลการประกอบกิจการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติงานในการกำกับดูแลการประกอบกิจการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และมีความชัดเจนในขั้นตอนการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงาน และให้การปฏิบัติงานเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจรัฐ พร้อมทั้งลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เกินความจำเป็น
การกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานในการกำกับดูแลการประกอบกิจการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อร่วมกันระหว่างกรมธุรกิจพลังงานและสำนักงาน กกพ. จะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการกำกับดูแลระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ รวมถึงเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อของผู้ประกอบกิจการยิ่งขึ้น
ภาพข่าว: สัมมนาพลังงานอาเซียน
บีไอจี ผนึก กกพ. เปิดมิติใหม่การจัดการพลังงานภาครัฐ ด้วย Carbon Management Platform สู่เป้าหมาย Net Zero
กกพ. ชู 34 ผลงานเด่น! ขับเคลื่อนชุมชนรอบโรงไฟฟ้าเข้มแข็งยั่งยืน ผ่านเวทีประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้า 2567
สถาบันปิดทองหลังพระ ร่วมมือสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน จัดทำโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร บ้านโป่งลึก บางกลอย
PCC ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการทดสอบซื้อขายไฟฟ้าแสงอาทิตย์ มูลค่า 3.2 ลบ.
EGCO Group พร้อมยื่นกว่า 10 โครงการโซลาร์ ชิงเค้ก RE Big Lot รอบ 2
บี.กริม แอลเอ็นจี ประกาศความสำเร็จ นำเข้า LNG ล็อตแรก 6.5 หมื่นตัน รุกจำหน่ายโรงไฟฟ้าในเครือ บี.กริม
TSE พร้อมมาก! ประมูลโรงไฟฟ้ากกพ. เฟส 2