นายวรเทพ รางชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2558 ของบริษัทเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 45 เมื่อ เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาเป็นผลมาจากการผลิตเต็มกำลังการผลิตและการบริหารต้นทุน การผลิตที่มีประสิทธิภาพ การลงทุนในสินทรัพย์อุตสาหกรรมรวมถึงการปรับลดลงของราคา พลังงานในตลาดโลก นอกจากนี้รายได้อื่นซึ่งคิดเป็นจำนวนเงิน 90 ล้านบาท ยังส่งผลให้กำไร เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามเนื่องจากความต้องการภายใน ประเทศ และราคาขายที่ปรับตัวลดลงจากอุปสงค์ที่ลดลงของธุรกิจหลัก ส่งผลให้ยอดขายสุทธิ ลดลง ร้อยละ 2 ปูนซีเมนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทยังได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหิน และอัตราค่าไฟที่ลดลง นอกจากนี้การดำเนินงานและการลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดหา ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ต้นทุน ในการผลิตลดลง ทำให้บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น ไว้ได้ในอัตราร้อยละ 44 ทั้งที่ปัจจัย ภายนอกไม่เอื้ออำนวย กำไรสำหรับปีได้ปรับลดลง ในอัตราร้อยละ 10 อยู่ที่ 4,600 ล้านบาท เนื่องจากค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายทางการเงินที่สูงขึ้น รวมทั้งรายได้ที่ลดลงจากบริษัทในกลุ่ม แม้จะได้รับการชดเชยจากรายได้อื่นซึ่งไม่ใช่รายได้หลัก ของบริษัทแล้วก็ตาม (คิดเป็นร้อยละ 1.2) อย่างไรก็ตาม กระแสเงินสดของบริษัทปรับตัวดีขึ้น ในอัตราร้อยละ 6 จากการบริหารเงื่อนไขการชำระเงินของลูกค้าและคู่ค้าให้เกิดความสมดุลกัน รวมทั้งการบริหารสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ
"การลงทุนหลักของบริษัทในปีนี้ประกอบด้วย การก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์แห่งใหม่ ในประเทศ กัมพูชาซึ่งมีกำลังการผลิต 5,000 ตันต่อวัน การขยายกำลังการผลิตของหม้อบดปูนซีเมนต์ ที่ โรงงานสระบุรี รวมถึงโครงการอินทรีสมาร์ท ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้เทคโนโลยีดิจิตอลที่ทันสมัย ในการบริหารจัดการองค์กร (SAP HANA) ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากการเริ่มใช้งาน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558"
"ในขณะที่สถานการณ์ความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศลดลงในไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 เนื่องจากความต้องการที่ลดลงตามฤดูกาลของกิจกรรมการก่อสร้าง ส่วนภาพรวมก็ยังได้รับ ผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทำให้กระทบกับการส่งออก ประกอบกับราคาพืชผล การเกษตรตกต่ำ หนี้สินภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น และความล่าช้าของโครงการก่อสร้าง สาธารณูปโภค ขนาดใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อความต้องการของตลาดที่ลดลงในอัตราร้อยละ 2 ตลอดปี 2558 นอกจากนี้ปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับราคาพลังงาน ที่ลดต่ำลง ส่งผลให้ราคาขายปรับตัวลดลงในอัตราร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในส่วนของตลาด ปูนซีเมนต์ตามแนวชายแดนทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ และลาว ยังคงมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่อง และบริษัทก็ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในสามประเทศนี้ไว้ได้ โดยได้ มีการเพิ่มการส่งออกปูนเม็ดจากปีที่แล้วในอัตราร้อยละ 47 เพื่อช่วยแบ่งเบาสภาวะ ปูนซีเมนต์ ล้นตลาดภายในประเทศ
"บริษัทคาดว่าตลาดปูนซีเมนต์จะเติบโตแบบปานกลางในไตรมาสแรกของปี 2559 และคงไม่ได้ เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วจนกว่าจะมีการเริ่มก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภค ขนาดใหญ่ ของรัฐบาล ส่วนปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ยังคงล้นความต้องการของตลาดภายในประเทศ โดยเฉพาะจากการเพิ่มกำลังการผลิตของผู้ผลิตรายใหม่ ดังนั้นนโยบายหลักของบริษัทคือ ดำเนินการผลิตด้วย ต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ พร้อมทั้งรักษาคุณภาพและส่วนแบ่งการตลาด โดยการสร้างสรรค์ คุณค่าสูงสุดให้กับลูกค้าของเรา" นายวราเทพ สรุป
ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2558 กำไรของบริษัทในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 45 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาเป็นผลมาจากการผลิตเต็มกำลังการผลิตและการบริหารต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ การลงทุนในสินทรัพย์อุตสาหกรรมรวมถึงการปรับลดลงของราคาพลังงาน ในตลาดโลก นอกจากนี้รายได้อื่นซึ่งคิดเป็นจำนวนเงิน 90 ล้านบาทยังส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
การจัดหาเงินสดในปี 2558 ค่อนข้างเข้มแข็ง คือ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงาน เติบโตขึ้นในอัตราร้อยละ 6 เนื่องมาจากการบริหาร เงินทุนหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ
คณะกรรมการเสนอการจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้นในอัตรา 15 บาท ต่อหุ้นจากกำไรของบริษัทในปี 2558 โดยที่เป็นเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 8 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้ชำระเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 และ เงินปันผลงวดสุดท้ายจำนวน 7 บาทต่อหุ้น จะดำเนินการชำระได้ภายในเดือน พฤษภาคม 2559 หลังจากได้รับอนุมัติจากการประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายน 2559
กิจกรรมของธุรกิจในกลุ่มบริษัทฯ
ปูนซีเมนต์
ความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศลดลงในไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 เนื่องจากความต้องการ ที่ลดลงตามฤดูกาลของกิจกรรมการก่อสร้าง ส่วนภาพรวมก็ยังได้รับผลกระทบจาก เศรษฐกิจโลก ที่ชะลอตัวทำให้กระทบกับการส่งออก ประกอบกับราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ หนี้สินภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น และความล่าช้าของโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อความต้องการของตลาดที่ลดลงในอัตราร้อยละ 2 ตลอดปี 2558 นอกจากนี้ปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับราคาพลังงานที่ลดต่ำลง ส่งผลให้ราคาขายปรับตัวลดลงในอัตราร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในส่วนของตลาดปูนซีเมนต์ ตามแนวชายแดนทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ และลาว ยังคงมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่อง และบริษัทก็ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในสามประเทศนี้ไว้ได้ โดยได้มีการเพิ่มการส่งออกปูนเม็ดจากปีที่แล้วในอัตราร้อยละ 47 เพื่อช่วยแบ่งเบาสภาวะ ปูนซีเมนต์ล้นตลาดภายในประเทศ
คอนกรีตผสมเสร็จและอะกรีเกต
บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด ซึ่งประกอบด้วย อินทรีคอนกรีตและอินทรีอะกรีเกต ยังคงมีการขยายตัวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อินทรีคอนกรีตมียอดขายที่เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเพราะได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ และการขยายตัวของหน่วยผลิตของบริษัท (Foot Print Expansion) อย่างไรก็ตาม รายได้ของคอนกรีตลดลงในอัตราร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเนื่องจากราคาขายที่ลดลง
อินทรีอะกรีเกตมียอดขายที่เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 36.2 เนื่องจากการปรับปรุงโรงงานที่สุพรรณบุรีได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว รวมทั้งหน่วยงานอินทรีอ่างทองมีการดำเนินการผลิตครบระยะเวลาหนึ่งปี
ทั้งนี้การปรับปรุงโรงงานส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นทั้งจากลูกค้าภายใน (อินทรีคอนกรีต) และภายนอก ดังนั้นรายได้จากการขายของอินทรีอะกรีเกตจึงเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
คอนวูด (ธุรกิจวัสดุทดแทนไม้)
ยอดขายของ บริษัท คอนวูด จำกัด ในปี 2558 ลดลงร้อยละ 8.3 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วเนื่องจากโครงการก่อสร้างใหม่ชะลอตัวลงอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมากจากภาวะซบเซาของตลาด ส่งผลให้รายได้จากการขายลดลงร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ชุดนาโนคัลเลอร์ และคอนวูดเดค-ที-ล็อค ซึ่งมียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าในการใช้ตกแต่งให้มีความสวยงามจากสีสรรของผลิตภัณฑ์และติดตั้งง่าย จึงทำให้ประหยัดเวลาและสะดวกในการติดตั้ง
อินทรีอีโคไซเคิล (ธุรกิจบริหารจัดการของเสียอย่างครบวงจร)
บริษัท อินทรี อีโคไซเคิล จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวงที่ก่อตั้งขึ้นล่าสุด เพื่อดำเนินกิจการสานต่อจากธุรกิจเดิมที่ชื่อ จีโอไซเคิล บริษัทให้บริการด้านการบริหารจัดการของเสียอย่างครบวงจรผ่านวิธีการเผาร่วมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเตาเผาปูนซีเมนต์ของบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล
อินทรีซุปเปอร์บล๊อก (ผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา)
ยอดขายของบริษัท อินทรี ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายที่จะเติบโตในส่วนของสินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น ทับหลังสำเร็จรูป และผนังสำเร็จรูปเสริมแรงที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดประเภทนี้ เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดทำให้ต้องมีการปรับลดราคาลงเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งส่งผลต่อรายได้จากการขายที่ลดลงในอัตราร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปีก่อน
กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง LBM ในเครือปูนอินทรีเปิดวิสัยทัศน์ "Innovating Sustainable Building Solutions" ขับเคลื่อนแนวทางวัสดุก่อสร้าง ตอบโจทย์เทรนด์ก่อสร้างยุคใหม่สู่ความยั่งยืน
บริษัท คอนวูด จำกัด ภูมิใจคว้ารางวัล "อุตสาหกรรมสีเขียว" ระดับที่ 4 ปี 2568 จากกระทรวงอุตสาหกรรม
KKP ลงนามความร่วมมือกับ ปูนอินทรี และ เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ หนุนอสังหาฯ ไทย ลดการปล่อยคาร์บอน ปรับตัวสู่ความยั่งยืน
INSEE LBM เปิดตัวนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างเพื่ออนาคต ตอกย้ำแนวคิดความยั่งยืนในงาน "สถาปนิก'68"
พฤกษา ผนึก ปูนซีเมนต์นครหลวง ปลดล็อกนวัตกรรมก่อสร้างสีเขียว ตอบโจทย์บ้านคุณภาพยุคใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ความร่วมมือครั้งสำคัญ ปูนซีเมนต์นครหลวง ร่วมกับ เอสวีแอล กรุ๊ป ปิดดีลใหญ่ ขนส่งปูนซีเมนต์สู่ภาคใต้
ปูนซีเมนต์นครหลวง จับมือ เอสวีแอล กรุ๊ป ปิดดีลใหญ่ เสริมแกร่งโลจิสติกส์ ขนส่งปูนซีเมนต์สู่ภาคใต้
บี.กริม เพาเวอร์ ลงนาม MOU ปูนซีเมนต์นครหลวง ร่วมพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนประเทศด้วยพลังงานสะอาด