รัฐมนตรีเกษตรฯ ลงพื้นที่อีสาน ติดตามความก้าวหน้าการรับซื้อยาง 45 บาท/กก. ภาพรวมเกษตรกรพอใจ มอบกยท.ติดตามประเมินผลโครงการ หลังเกษตรกรขอขยายโควต้าเพิ่ม วอนชาวสวนยางใช้พื้นที่สวนยางสร้างได้เสริม

29 Jan 2016
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ติดตามการซื้อขายยางพาราตามนโยบายรัฐบาลสหกรณ์กองทุนสวนยางนาแต้ จำกัด ต.นาแต้ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็ได้รับฟังประเด็นปัญหาของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งก็พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อนโยบายที่เข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตามได้เน้นย้ำเกษตรกรชาวสวยยางว่าปัญหายางพาราเป็นเรื่องที่สะสมยาวนาน ไม่มีการควบคุม การวางแผนบริหารจัดการให้มีความยั่งยืน ดังนั้น การดำเนินการต่อจากนี้รัฐบาลจะเร่งเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนโรงงานแปรรูปยาง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์แปรรูปยางใช้ในประเทศ และส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศให้มากขึ้นกว่าการส่งออกเป็นยางดิบขั้นต้น ซึ่งในปี 59 นี้จะต้องมีความชัดเจนให้ได้ เพราะในแต่ละปีเราผลิตยางดิบได้ประมาณปีละ 4 ล้านตัน แต่มีการใช้ภายในประเทศเพียง 5 แสนตันเท่านั้นเอง

ขณะเดียวกัน เกษตรกรชาวสวนยางอย่าพึ่งราคายางเพียงอย่างเดียว ต้องสร้างรายได้เสริมในสวนยางที่รัฐมีโครงการให้กู้วงเงิน 1 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 เพื่อทำการเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะให้เกษตรกรสามารถใช้พื้นที่สวนยางเพิ่มรายได้ด้วย

สำหรับข้อเสนอจากชาวสวนยางที่ให้พิจารณาเพิ่มจุดรับซื้อยางนั้น ก็จะรับไปพิจารณา ในพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้และเกษตรกรสะดวก เพราะส่วนใหญ่จุดรับซื้แค่อนข้างจะเพียงพอและใช้จุดที่เกษตรกรมีการชื้อขายกันมาก่อนแล้วเพื่อความสะดวกของเกษตรกรเองแต่หากจำเป็นจริงๆก็จะขยายให้ได้ตามความจำเป็นเพราะการตั้งจุดรับซื้อต้องใช้ทุนมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือในการตรวจคุณภาพยาง เจ้าหน้าที่ ทาง กยท.ก็ต้องไปตรวจสอบ

ส่วนเรื่องที่เกษตรกรขอขยายโควต้ารับซื้อนั้น ก็พบว่า วันนี้เท่าที่เราลงมาดูในพื้นที่รับทราบปัญหาจากเกษตรกรชาวสวนยางว่ามีความต้องการอยากได้โควต้ามากขึ้น ก็จะประเมินโครงการนำร่องจำนวน 1 แสนตันนี้ก่อน ซึ่งถือเป็นการนำตลาดยางด้วย อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมาย กยท.ติดตามประเมินผล เพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการต่างๆก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเปิดกรีดยางในเดือน พค.ก็จะนำเข้าพิจารณาของบอร์ดการยางฯ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้บริหารการยางฯนี้ต้องขอเรียนว่า ตัวผู้ว่าฯจำเป็นจะต้องมีการสรรหาจาการสมัครและในขณะนี้เราเปิดรับสมัครมา 3 รอบ ซึ่งก็ยังไม่ได้บุคคลที่เหมาะสม จำเป็นต้องเปิดสมัครครั้งที่ 4 ซึ่งก็คงจะต้องมีการปรับลดข้อกำหนดต่างๆลงบ้าง อย่างไงก็อาจมีการล้าช้าออกบ้าง ซึ่งหากมาการสรรหาก็จะเป็นไปตามขบวนการส่วนการบริหารภายในอันนี้ก็ต้องเห็นใจหน่อยเพราะการยางแห่งประเทศไทยนี้พึ่งเกิดพึ่งจะมีมาเพียงไม่กี่เดือนนี้เอง เจ้าหน้าที่ก็มาจากสามหน่วยงานด้วยกันก็มารวมตัวกันเป็นการยาง ระเบียบหรือกฎหมายพึ่งเริ่มก็ต้องขอเวลา

ด้านนายประเสริฐ จันทโสม ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางนาแต้ จำกัด ต.นาแต้ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสหกรณ์ฯ มีสมาชิกจำนวน 188 ราย พท.ของสมาชิกรวม 3,560 ไร่ ผลิตยางได้เฉลี่ย 200 ไร่/ปี ทุนจดทะเบียน 18 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมาได้รวบรวมยางพาราแผ่นดิบ และยางก้อนถ้วนจากสมาชิกประมาณ 300 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท สำหรับการดำเนินงานรับซื้อยางพาราตามนโยบายรัฐบาลนั้น ทางสหกรณ์ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาอุปสรรคที่พบ คือ ปริมาณยางที่รัฐบาลรับซื้อนั้นยังน้อยไป เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ผลิตได้มากกว่า 150 กก.และช่วงเวลาที่เข้าโครงการอยู่ในช่วงที่เกษตรกรเริ่มปิดกรีดแล้ว อย่างไรก็ตามทางสหกรณ์ฯ ยินดีที่จะรับซื้อยางปริมาณส่วนเกินจากเกษตรกรที่ไม่สามารถร่วมโครงการได้ กลุ่มโฆษกและวิเคราะห์ข่าว กองเกษตรสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โทร 02-2810859 แฟกซ์ [email protected]/kasetthai