ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาการที่จะหาสินทรัพย์ดีๆ ที่มีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอให้แก่ผู้ลงทุนไม่ใช่เรื่องง่าย เห็นได้ชัดจากตราสารหนี้ของรัฐบาลทั่วโลกมูลค่าประมาณ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่ให้ผลตอบแทนติดลบ (Negative Yield) ด้วยนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งชาติทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากได้ยากขึ้น ขณะเดียวกันนโยบายการจ่ายเงินปันผลก็ถูกพิจารณาอีกครั้งหลังจากที่หลายๆ บริษัทในหลายๆ ภาคอุตสาหกรรมเริ่มลดการจ่ายเงินปันผล ซึ่งนโยบายนี้ดูจะเป็นปัญหาต่อเนื่องอีกหลายปี "แล้วนักลงทุนจะจัดการกับปัญหาเรื่องสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้น้อยลงนี้อย่างไร?" วันนี้อเบอร์ดีนมีแนวคิดการปรับสัดส่วนการลงทุนที่น่าสนใจมาแนะนำเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน
ยูโร ไฮ ยิลด์ เป็นสินทรัพย์สำหรับการลงทุนประเภทหนึ่งที่นักลงทุนมักมองข้าม ทั้งที่เป็นกองทุนที่ผลการดำเนินงานโดดเด่นตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อช่วงทศวรรษที่ 1990 ซึ่งเติบโตสูงและเร็วมากๆ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันกองทุนประกอบไปด้วยตราสารหนี้กว่า 700 รายการ ซึ่งจดทะเบียนมีมูลค่าถึง 360 พันล้านยูโร มีหลายบริษัทที่มีชื่อเสียงได้ออกสารหนี้ ยูโร ไฮ ยิลด์ นี้ เช่น เทสโก้ เวอร์จิ้นมีเดีย เทมส์วอร์เตอร์ เดเบนแฮมส์ จากัวร์แลนด์โรเวอร์ เฟียต เฮาส์ออฟเฟรเซอร์ และ ซีโอ-โอพี กรุ๊ป แต่ในขณะเดียวกันธุรกิจส่วนใหญ่ที่ออกตราสารหนี้ในกลุ่มนี้อาจจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จักมากนัก แต่ถึงกระนั้นสินค้าและบริการของบริษัทเหล่านี้ก็สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน
และอะไรคือปัจจัยที่ทำให้การลงทุนในยูโร ไฮ ยิลด์ น่าสนใจ
ผลการดำเนินงานในอดีตของยูโร ไฮ ยิลด์ สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
อัตราผลการจ่ายดอกเบี้ยของตราสารหนี้เป็นภาระสัญญาผูกพัน ไม่สามารถถูกปรับลดได้ ซึ่งต่างจากเงินปันผลของ
บริษัทที่อาจมีการปรับเปลี่ยนได้อย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าบางบริษัทที่ลงทุนจะผิดนัดชำระหนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เงินทั้งหมดต้องสูญเสียไป เพราะเฉลี่ยแล้ว 30-40% ของทรัพย์สินทั้งหมดสามารถถูกชดเชยกลับมาได้
การลงทุนในตราสารหนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวน
สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ลงทุนในตราสารหนี้จะไม่ได้รับผลตอบแทนแค่เพียงในรูปของอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยทบต้นอีกด้วย
อายุเฉลี่ยของยูโร ไฮ ยิลด์ ถือว่าสั้น และไม่ได้รับผลกระทบต่อความเสี่ยงของอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวน ถึงอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่มูลค่าก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก
ยูโร ไฮ ยิลด์ ไม่ได้ลงทุนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เหมือนสหรัฐอเมริกา อาทิเช่น น้ำมัน แก๊ส สินค้าโภคภัณฑ์ หรือลงทุนในตลาดเกิดใหม่
การผิดนัดชำระหนี้คือความเสี่ยงใหญ่สุดของสินทรัพย์ประเภท ไฮ ยิลด์ แต่อเบอร์ดีนเชื่อว่าอัตราการผิดนัดชำระหนี้จะอยู่ในระดับต่ำตลอดช่วง 3 – 4 ปีนับต่อจากนี้ การไหลเวียนของเครดิตในยุโรปยังคงล่าช้ากว่าในสหรัฐอเมริกา และยุโรปเองยังคงได้รับประโยชน์จากปัจจัยเหล่านี้
น้ำมัน ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงส่งผลดีต่อบริษัทในยุโรปอย่างเห็นได้ชัด ต้นทุนด้านราคาลดลง (มีกำไรเพิ่มขึ้น) และผู้บริโภคที่มีเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดอุปสงค์ต่อสินค้าและบริการของธุรกิจเหล่านั้นที่เพิ่มขึ้น
อัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินยูโรที่อ่อนลงก็ส่งผลดีต่อการปรับตัวของบริษัทสัญชาติยุโรปหลายบริษัทด้วยเช่นกัน ทำให้สินค้าและบริการมีความน่าสนใจต่อผู้บริโภคภายในประเทศ
นโยบายการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อเบอร์ดีนเชื่อว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงสนับสนุนเศรษฐกิจในทวีปยุโรปต่อไปในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้ระดับอัตราดอกเบี้ยและอัตราการผิดนัดชำระหนี้อยู่ในระดับต่ำ
เรายังคงระมัดระวังความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการลงทุนใน ไฮ ยิลด์ บอนด์ แต่ทุกวันนี้เราก็สามารถกระจายความเสี่ยงผ่านการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายประมาณ 125 บริษัท ที่อเบอร์ดีนเรามีทีมงานผู้จัดการกองทุนและนักกฎหมายมืออาชีพที่พร้อมทุ่มเทให้กับการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของธุรกิจที่จะไปลงทุนเพื่อช่วยลดโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการลงทุนผ่านกองทุนเปิด อเบอร์ดีน ยูโร ไฮ ยิลด์ บอนด์ ให้ประสบความสำเร็จ
ติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่ บลจ. อเบอร์ดีน หรือผู้สนับสนุนการขาย หรือดาวน์โหลดผ่านทางเว็บไซต์ของ บลจ.
ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
การลงทุนในกองทุน ไฮ ยิลด์ บอนด์ มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน ซึ่งมีความแตกต่างจากการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป แม้ว่าผู้ลงทุนจะเคยมีประสบการณ์ในการลงทุนหรือทำธุรกรรมในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมาก่อน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจถึงลักษณะความเสี่ยงและเงื่อนไขเฉพาะตัวของกองทุนรวมนี้และขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากบลจ. อเบอร์ดีน หรือผู้สนับสนุนการขาย ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
คุณโรเบิร์ต เพนนาโลซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) จำกัด รับมอบรางวัลกองทุนรวมยอดเยี่ยม ประจำปี 2566 ประเภทกองทุนหุ้นไทย กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ (ABSM) จากดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในงานประกาศรางวัล Money & Banking Awards 2023 ที่จัดขึ้นโดยวารสารการเงินธนาคาร ณ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยกองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ (ABSM) เป็นกองทุนเรือธงของ บลจ.อเบอร์ดีน ที่ลงทุนในหุ้น
อเบอร์ดีนเสิร์ฟ 2 กองทุน RMF ลดภาษี ส่งท้ายปี จัดพอร์ตกระจายลงทุนหุ้นเด่น ทั้งไทยและตปท.
—
บลจ.อเบอร์ดีน ส่งกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 กองทุน ชู "กองทุนเปิ...
อลิอันซ์ อยุธยา เปิด 3 กองทุนต่างประเทศ เพิ่มทางเลือกลูกค้ายูนิตลิงค์ หวังเติบโตพอร์ทประกันควบลงทุน 42% ภายในสิ้นปีนี้
—
บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต...