นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา Managing Director และ Chief Investment Officer กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า อาเซียนเป็นภูมิภาคที่นักลงทุนสถาบันทั่วโลกไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กต้องจับตา เพราะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก ถึงกว่า 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ทีเดียว ด้วยประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน และส่วนใหญ่ยังมีอายุเฉลี่ยแค่ 29 ปี ซึ่งเป็นปัจจัยด้านแรงงานที่สำคัญในภาคเศรษฐกิจ ขณะที่คนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อสูง ก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คาดว่าในปี 2030 จะมากกว่า 400 ล้านคน นอกจากนี้ยังเป็นภูมิภาคที่มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าต่อเนื่องกว่า 1.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ สะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นอย่างดี อีกทั้งการรวมกลุ่มเป็น "ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" ยิ่งช่วยให้ภูมิภาคแห่งนี้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ
หากพิจารณาเป็นรายประเทศ ก็จะพบจุดแข็งทางธุรกิจที่ต่างกันไป อย่างเช่น มาเลเซียในวันนี้ มิใช่ประเทศที่มีแค่น้ำมันเท่านั้น แต่กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สิงคโปร์ มีความโดดเด่นทางด้านการเงินการธนาคาร ในฐานะศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย อินโดนีเซีย มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ พร้อมกับป็นผู้บริโภครายใหญ่ของอาเซียน และฟิลิปปินส์ ยังเป็นแหล่งรวมงาน Business Process Outsourcing (BPO) ที่สำคัญของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานด้านคอลเซ็นเตอร์และงานบริการด้านไอที จาก
บริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ทำให้สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล เป็นต้น ลักษณะเด่นเหล่านี้สามารถหลอมรวมเป็นพลังในการลงทุนได้ โดยกองทุนจะเฟ้นหาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในแต่ละประเทศ เข้าสู่พอร์ตกองทุนด้วยตัวเอง ด้วยวิธีวิเคราะห์เป็นรายบริษัท (Bottom-up) และพิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจ (Top-Down) พร้อมกัน ให้มารวมเป็นพอร์ตกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียน (B-ASEAN)
นายพีรพงศ์ ย้ำว่าหลักสำคัญสำหรับธุรกิจกองทุน เพื่อให้ประสบความสำเร็จนั้น ประกอบด้วย 3P ได้แก่ ปรัชญาการลงทุน (Philosophy) เน้นผลตอบแทนในระยะยาวอย่างสม่ำเสมอ ลงทุนอย่างรอบคอบ ไม่เสี่ยงมากจนเกินควร กระบวนการลงทุน (Process) ต้องมีหลักการคัดเลือกตราสารลงทุนโดยมุ่งปัจจัยพื้นฐานที่ดี ความสามารถทำกำไรชัดเจน และสามารถลงทุนได้ในระยะยาว รวมทั้งจับจังหวะเข้าซื้อขายที่ดี นั่นคือ Good Stock + Good Trade = Good Performance
นอกจากนี้ บุคลากร (People) มีการทำงานกันเป็นทีมเวิร์ค จัดสรรบุคคลากรที่สนใจและชำนาญตามชนิดของหลักทรัพย์/ตราสารที่จะลงทุน โดยเฉพาะ B-ASEAN ยังได้แบ่งนักวิเคราะห์รับผิดชอบเป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรมในแต่ละประเทศ พร้อมทั้งได้เดินทางไป Company Visit พบปะกับผู้บริหารของบริษัทด้วยตนเองอีกด้วย
"ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี เรายืนหยัดปรัชญาที่มุ่งเน้นลงทุนหุ้นในระยะยาว มิได้หวังเพียงผลกำไรในระยะสั้น สไตล์การลงทุนในหุ้นของค่ายเรานั้นไม่เคยเปลี่ยน เราเน้นความต่อเนื่องของการเลือก Theme ในการลงทุนระยะยาว โดยพิจารณาและคาดการณ์ปัจจัยแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในสังคมและโครงสร้างเศรษฐกิจในอนาคต ทำความเข้าใจในรายตัวหุ้น เพื่อให้มั่นใจว่าได้ลงทุนกับบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดีและมีธุรกิจที่สอดคล้องไปกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระยะยาว สไตล์การลงทุนที่เด่นชัดสะท้อนให้เห็นได้จากความสำเร็จของกองทุนหุ้นของเรา และในวันนี้เราพร้อมแล้ว ที่จะขยายโอกาสไปสู่การลงทุนในภูมิภาคอาเซียน"
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียน (B-ASEAN) พร้อมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 23 – 29 มีนาคมนี้ ในราคาหน่วยละ 10 บาท (บวกค่าธรรมเนียมการเสนอขาย 1% ของมูลค่าซื้อ) กำหนดมูลค่าซื้อขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งต่อไป 500 บาท
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่กองทุนบัวหลวง โทร. 02-674-6488 กด 8 หรือสาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ หรือบัวหลวงโฟน 1333 หรือตัวแทนขายหน่วยลงทุน ทั้ง บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง และ บมจ.หลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน
กองทุนบัวหลวงเสนอขาย 'TRIGGER1-22B' ครั้งแรก ครั้งเดียว วันที่ 14-16 ก.ค. นี้ จับจังหวะลงทุนช่วงหุ้นปรับฐาน เพื่อพิชิตเป้าหมายผลตอบแทน 5% ใน 6 เดือน
กองทุนบัวหลวงเดินหน้าจ่ายปันผล B-CHINE-EQ ต่อในปีนี้ มองเศรษฐกิจจีนแกร่ง ช่วงปรับฐานเป็นจังหวะดีเข้าลงทุน
กองทุนบัวหลวง IPO 'TRIGGER 3-22' วันที่ 15-17 มี.ค. นี้ หวังจับจังหวะลงทุน เพื่อเป้าหมายผลตอบแทน 8% ใน 12 เดือน
1 - 8 มี.ค. นี้ กองทุนบัวหลวงเสนอขาย B-SIP ลงทุนผ่านกองทุนของ Pictet AM ตอบโจทย์การลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของโลก
กองทุนบัวหลวงเปิดขาย B-GTO อีกครั้ง 19 ก.พ. นี้ พร้อมสนับสนุนผู้ลงทุนเพิ่มโอกาสลงทุนบริษัททั่วโลกที่ได้ประโยชน์จากนวัตกรรม
กองทุนบัวหลวง ประกาศข่าวดี 'B-CHINE-EQ' เตรียมจ่ายปันผล 0.30 บาท 15 ม.ค. นี้ ชี้หุ้นจีนยังน่าสนใจลงทุนระยะยาว
กองทุนบัวหลวงเปิดขาย 'TRIGGER 6-21' ทริกเกอร์ฟันด์กองที่ 2 รับตลาดหุ้นฟื้นตัว ตั้งเป้าหมายลงทุน 6 เดือน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทน 5%
กองทุนบัวหลวงเชื่อมั่นการเติบโตของหุ้นจีนใน B-CHINE-EQ พร้อมแนะนำนักลงทุนควรเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นจีนมากขึ้นในพอร์ตการลงทุน
กองทุนบัวหลวง ประกาศจ่ายเงินปันผล 'BSIRICG’ ครั้งที่ 20 หน่วยลงทุนละ 0.55 บาท ตอกย้ำความตั้งใจบริหารกองทุน เพื่อผลตอบแทนที่สม่ำเสมอสำหรับการลงทุนในระยะยาว