กรมประมงเตือนประชาชนระวังหมึกสายวงน้ำเงิน หมึกทะเล...มีพิษร้ายแรงถึงตาย !!

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กรมประมงเตือนประชาชนระวังพิษร้ายจากหมึกสายวงน้ำเงิน เผยขณะนี้มีรายงานพบหมึกชนิดนี้ปะปนกับร้านขายหมึกสายชนิดอื่นๆ ย้ำประชาชน พ่อค้าแม่ค้า สังเกตให้ดีก่อนตัดสินใจนำไปจำหน่ายหรือ รับประทาน หากได้รับพิษเข้าไปในร่างกายอันตรายอาจทำให้เสียชีวิตได้ภายในไม่กี่นาที
          นายมีศักดิ์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า หมึกสายวงน้ำเงิน หรือหมึกสายบลูริง (Blue-ringed octopus: Hapalochlaena spp.) มีรายงานพบในประเทศไทยทั้งทางฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน แต่พบในปริมาณที่ไม่มากนัก เป็นหมึกสายที่มีขนาดเล็กโดยลักษณะลำตัวจะคล้ายถุงลมท้ายแหลมมีความยาวประมาณ 4 เซนติเมตรเท่านั้นเอง หมึกสายวงน้ำเงินจะมีลายวงแหวนชนิดเรืองแสงสีฟ้าจางๆ ขนาดเล็กกระจายอยู่บนลำตัวและส่วนหนวด ความยาวของหนวดจะมากกว่าความยาวลำตัว 1.5 – 2.5 เท่า อาศัยอยู่ตามพื้นท้องทะเลที่เป็นทราย ในระดับความลึกประมาณ 20-40 เมตร ชอบซ่อนพรางตัวเพื่อหลบเลี่ยงผู้ล่าและซุ่มรอเหยื่อ เวลาเคลื่อนที่จะใช้หนวดเดินโดยไม่มีการพ่นน้ำเพื่อพุ่งในการเคลื่อนที่ หมึกสายวงน้ำเงิน ไม่ใช่สัตว์ที่ดุร้าย เมื่อโดนกระทบกระทั่งหมึกชนิดนี้ก็มักจะพรางตัวโดยการทำตัวให้แบน และเปลี่ยนสีให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม แต่หากรู้สึกว่าถูกคุกคามจนรู้สึกไม่ปลอดภัยไม่ว่าจะพรางตัวอย่างไรแล้วก็จะเปลี่ยนจากการตั้งรับเป็นการจู่โจมกัดพร้อมกับปล่อยพิษได้เสมอ หมึกชนิดนี้มีการผสมพันธุ์เพียงครั้งเดียวตลอดวงจรชีวิต โดยเพศเมียจะวางไข่ติดกับวัสดุใต้น้ำ ไข่จะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2 สัปดาห์ ลูกหมึกจะดำรงชีวิตตามหน้าดิน           
          นายมนตรี สุมณฑา นักวิชาการประมงชำนาญการ สถานีประมงทะเลจังหวัดระนอง กล่าวเพิ่มเติมว่า 
          หมึกสายวงน้ำเงินเป็นสัตว์ที่มีพิษแรงมาก พิษของหมึกวงน้ำเงินเป็นพิษชนิดที่มีความรุนแรงมาก สามารถฆ่าคนได้อย่างง่ายดาย โดยพิษของมันจะถูกสร้างโดยแบคทีเรียกลุ่ม Bacillus และ Pseudomonas ที่อาศัยอยู่ในต่อมน้ำลาย (Salivary gland)ปาก หนวด ลำไส้ รวมทั้งต่อมหมึก ประกอบด้วยสารพิษ 2 ชนิด คือ Maculotoxin (มีลักษณะคล้ายคลึงกับ Tetrodotoxin ที่พบในปลาปักเป้า มีพิษต่อระบบประสาท) และHepalotoxin เป็นสารพิษชนิดร้ายแรงไม่มียาแก้พิษ ต้องช่วยในลักษณะเดียวกับปลาปักเป้า นั่นคือช่วยหายใจและรักษาตามอาการ หากพ้น 24 ชั่วโมง ได้อาการจะดีขึ้นตามลำดับ พิษของหมึกชนิดนี้ เกิดจากผลผลิตของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในต่อมน้ำลายของมัน ซึ่งสามารถส่งต่อผ่านจากแม่ไปยังลูกๆ ของมันได้อีกด้วย พิษชนิดนี้ออกฤทธิ์ขัดขวางการทำงานของระบบประสาท เมื่อถูกปลาหมึกสายวงน้ำเงินกัด ขั้นแรก จะมีอาการคลื่นไส้ ตาพร่าเลือน ขั้นต่อมาจะทำให้มองไม่เห็นและประสาทสัมผัสก็จะไม่ทำงาน ไม่สามารถจะพูดหรือกลืนน้ำลายได้ และขั้นสุดท้ายประมาณ 10 นาทีต่อมา ก็จะเป็นอัมพาตและหยุดหายใจได้เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ดังนั้นต้องรีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจในระหว่างที่ระบบประสาทยังสามารถทำงานได้ปกติ 
          นายมีศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับโอกาสที่คนทั่วไปจะโดนหมึกชนิดนี้กัดนั้นน้อยมาก เนื่องจากหมึกชนิดนี้ยังไม่มีการพบว่าเข้ามาแถบหาดทรายชายฝั่งน้ำตื้น อีกทั้งยังไม่มีนิสัยไล่กัดนักดำน้ำ และที่สำคัญทางกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่อนุญาตให้มีการนำเข้าหมึกสายชนิดนี้ตามบัญชีแนบท้ายพระราชกฤษฎีกาห้ามมิให้นำสัตว์น้ำบางชนิดเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2547 โดยมีประกาศครอบคลุมถึงหอยงวงช้างและปลาหมึกทุกชนิดใน Class Cephalophoda ดังนั้นยิ่งยากที่พวกเราจะมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับเจ้าหมึกชนิดนี้นอกเสียจากว่าอาจตกได้กลางทะเลและไม่รู้ว่ามีพิษแล้วอาจไปจับตัวหมึกจนโดนหมึกชนิดนี้กัด โดยปกติหมึกสายวงน้ำเงินหรือหมึกสายอื่นๆ จะไม่สามารถจับได้โดยการตกเหมือนหมึกกล้วย แต่อาจจะจับได้โดยการใช้เครื่องมืออวนลาก หรือลอบหมึกสาย ซึ่งชาวประมงกลุ่มนี้ต้องระมัดระวังหมึกชนิดดังกล่าวเป็นพิเศษ สำหรับในประเทศไทยนั้นยังไม่มีข้อมูลผู้ถูกหมึกสายชนิดนี้กัด 
          สุดท้ายนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภครวมถึงพ่อค้า แม่ค้า จึงขอเตือนให้ทุกท่านเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกซื้อหมึกมารับประทาน โดยให้สังเกตลักษณะภายนอกของหมึกก่อนที่จะเลือกซื้ออย่างละเอียด หากท่านใดพบเห็นหมึกชนิดนี้ขอให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสและห้ามนำมารับประทานโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งรีบแจ้งสำนักงานประมงจังหวัดใกล้บ้านเพื่อให้เข้าไปตรวจสอบโดยเร็ว หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมประมง โทร. 02 562 0600
กรมประมงเตือนประชาชนระวังหมึกสายวงน้ำเงิน หมึกทะเล...มีพิษร้ายแรงถึงตาย !!
 
กรมประมงเตือนประชาชนระวังหมึกสายวงน้ำเงิน หมึกทะเล...มีพิษร้ายแรงถึงตาย !!
 
กรมประมงเตือนประชาชนระวังหมึกสายวงน้ำเงิน หมึกทะเล...มีพิษร้ายแรงถึงตาย !!

ข่าวมีศักดิ์ ภักดีคง+อธิบดีกรมประมงวันนี้

กรมประมง...ส่งหัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ฟอร์มทีมบูรณาการงานพื้นที่ เร่งแก้ปัญหาประมง - เสริมสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำ

นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากการปฏิรูปภาคการประมงของไทยในยุคปัจจุบันที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความยั่งยืนโดยชุมชน ควบคู่ไปกับความมั่นคงในการประกอบอาชีพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องเกษตรกรชาวประมง ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมประมง โดยการขับเคลื่อนของนายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง ได้ผลักดันโครงการต่างๆ ในพื้นที่มากมาย ในทุกมิติ ทั้งด้านการส่งเสริมและการแก้ปัญหาประมง อาทิ การเพาะ

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง... มอบพันธุ์ปลากะพงขาว — ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง และผู้บริหารกระทรวงเกษตร...

กรมประมงได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี พ.ศ. ... กรมประมงคว้า 3 รางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 63 — กรมประมงได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี พ.ศ. 2563 จำนวน 3 รางวัล ใน 2 สาขา คือ สาขาบริการภาครัฐ จำนวน 1 รางวัล ...

กรมประมง จัดพิธีปล่อยพันธุ์ปลาไทย 38 ล้าน 5 แสนตัว ทั่วประเทศ

นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว...

ขอเชิญชวนร่วมอุดหนุนเกษตรกร เลือกซื้อกุ้ง... โออาร์ ร่วมกับ กรมประมง เปิด “พื้นที่ปันสุข” ให้เกษตรกรจำหน่ายกุ้งก้ามกรามที่ พีทีที สเตชั่น — ขอเชิญชวนร่วมอุดหนุนเกษตรกร เลือกซื้อกุ้งก้ามกรามสดในราคาพิ...

กรมประมง...เตรียมปิดทะเลอันดามัน 3 เดือน ในฤดูปลามีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ เริ่ม 1 เม.ย.- 30 มิถุนายน 63

กรมประมง เตรียมประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามัน ประจำปี 2563 ในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา...