จากประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในเทคโนโลยีอาร์แอฟไอดี ไอเดนทิไฟได้นำประสบการณ์ดังกล่าว มาพัฒนาโซลูชั่นอาร์เอฟไอดีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในบริหารรถหางลาก ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลากหลายที่ใช้ในการบริหารรถหัวลาก แต่ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ใช้บริหารรถหางลาก เนื่องจากว่า รถหางลากไม่มีแหล่งจ่ายพลังงานเหมือนรถหัวลาก จึงไม่สามารถใช้เทคโนโลยี GPS ได้ นอกจากนั้นหางลากมีการใช้งานในลักษณะกลางแจ้ง ทำให้เทคโนโลยีบาร์โค้ดใช้งานไม่ได้เช่นกัน เมื่อไม่มีเทคโนโลยีใดมาช่วยในการบริหารจัดการหางลากได้ ทำให้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะบริษัทที่ให้บริการโลจิสติกส์ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในทรัพย์สินเหล่านี้ค่อนข้างสูง ดังนั้นทางบริษัทอาร์เอฟไอดีจำกัด จึงได้พัฒนาโซลูชั่น เพื่อช่วยในการบริหารจัดการทรัพย์สินดังกล่าว
โซลูชั่นที่พัฒนาขึ้นมานั้น จะทำให้กระบวนการบริหารรถเข้าออกรวมถึงรถหางลาก เป็นระบบไร้เอกสาร (Paperless) ข้อมูลการเข้า/ออกของรถดังกล่าวสามารถบันทึกเข้าสู่ระบบด้วยไม่ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ทำการจดบันทึก ทำให้ลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็นและค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นระบบดังกล่าวทำให้ทราบจำนวนรถหางลากในลักษณะ Real time จากเดิมที่ทางโรงงานไม่สามารถที่จะทราบได้เลยว่า มีหางลากจำนวนเท่าไรอยู่ในโรงงาน ระบบดังกล่าวทำให้โรงงานทราบถึงจำนวนหางลากที่มี และอยู่ที่ไหนบ้าง และยังช่วยในการวิเคราะห์ทำให้ทราบว่า หางลากแต่ละคันมีความถี่ในการใช้งานมากน้อยต่างกันอย่างไร รุ่นไหนที่มีความถี่สูงสุด และรุ่นไหนที่มีความถี่ต่ำสุด หรือไม่ได้ใช้เลย เพื่อประเมินการจัดซื้อและจัดหาหางลากในอันดับต่อไป
รถขนส่งทุกคัน ทั้งหัวลากและหางลากจะมีการติด RFID Tag โดย Tag ทุกอันมีการผูกข้อมูลรายละเอียดของรถแต่ละคันในระบบ และมีการติดตั้งเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีในจุดต่าง ๆ ได้แก่ ทางเข้าออกโรงงาน จุด Load สินค้า และจุดชั่งน้ำหนัก เป็นต้น เมื่อรถหัวลากและหางลากเข้าผ่านเครื่องอ่านที่ทางเข้า ระบบจะทำการบันทึกว่าหางลากดัวกล่าวได้ถูกนำกลับมาที่โรงงานแล้ว และพร้อมใช้งานสำหรับการขนส่งในรอบต่อไป เมื่อหางลากดังกล่าวถูกนำไปจอดที่ประตู Load เพื่อ Load สินค้า เครื่องอ่านที่ประตู Load จะทำการบันทึกว่า หางลากดังกล่าวจอดที่ประตู Load ใด ในขั้นตอนนี้ นอกจากแสดงสถานะของหางลากแล้ว ระบบยังแจ้งให้ทราบว่า ประตู Load สินค้าใดมีการใช้งาน และประตูใดยังไม่มีการใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารประตู Load สินค้า เมื่อทำการ Load สินค้าเสร็จสิ้นหางลากดังกล่าว ก็จะถูกหัวลากขนส่งผ่านทางออกโรงงาน เพื่อไปส่งสินค้าตามปลายทางที่กำหนด ทันทีที่ผ่านประตูออกโรงงาน ระบบจะทำการบันทึกว่า หางลากดังกล่าวได้ถูกส่งออกจากโรงงานด้วยรถหัวลากคันใด
จะเห็นได้ว่า กระบวนการทำงานทั้งหมดตั้งแต่รถหางลากเข้าจนถึงออกจากโรงงาน ไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการบันทึกข้อมูลอีกต่อไป ระบบจะทำการบันทึกข้อมูลให้ ยิ่งกว่านั้นข้อมูลที่ถูกบันทึกเข้าสู่ระบบยังมีความแม่นยำสูง ลดความผิดพลาดการบันทึกข้อมูลโดยคนได้ เมือมีข้อมูลที่ถูกต้อง ระบบก็สามารถทำการวิเคราะห์เพื่อให้ทราบถึงลักษณะการใช้งานของหางลากแต่ละประเภทได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
สรุป
ไอเดนทิไฟ ได้นำเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในบริหารนรถหางลาก ทำให้กระบวนการทำงานดังกล่าวเป็นแบบไร้เอกสาร (Paperless) ช่วยในการลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นระบบดังกล่าวยังช่วยในการวางแผนการใช้งานรถหัวลากและหางลาก
สามารถดูรายละเอียดจาก https://www.youtube.com/watch?v=N9mmCNI3NSw&feature=youtu.be
โซลูชั่นที่พัฒนาขึ้นมานั้น จะทำให้กระบวนการบริหารรถเข้าออกรวมถึงรถหางลาก เป็นระบบไร้เอกสาร (Paperless) ข้อมูลการเข้า/ออกของรถดังกล่าวสามารถบันทึกเข้าสู่ระบบด้วยไม่ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ทำการจดบันทึก ทำให้ลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็นและค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นระบบดังกล่าวทำให้ทราบจำนวนรถหางลากในลักษณะ Real time จากเดิมที่ทางโรงงานไม่สามารถที่จะทราบได้เลยว่า มีหางลากจำนวนเท่าไรอยู่ในโรงงาน ระบบดังกล่าวทำให้โรงงานทราบถึงจำนวนหางลากที่มี และอยู่ที่ไหนบ้าง และยังช่วยในการวิเคราะห์ทำให้ทราบว่า หางลากแต่ละคันมีความถี่ในการใช้งานมากน้อยต่างกันอย่างไร รุ่นไหนที่มีความถี่สูงสุด และรุ่นไหนที่มีความถี่ต่ำสุด หรือไม่ได้ใช้เลย เพื่อประเมินการจัดซื้อและจัดหาหางลากในอันดับต่อไป
รถขนส่งทุกคัน ทั้งหัวลากและหางลากจะมีการติด RFID Tag โดย Tag ทุกอันมีการผูกข้อมูลรายละเอียดของรถแต่ละคันในระบบ และมีการติดตั้งเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีในจุดต่าง ๆ ได้แก่ ทางเข้าออกโรงงาน จุด Load สินค้า และจุดชั่งน้ำหนัก เป็นต้น เมื่อรถหัวลากและหางลากเข้าผ่านเครื่องอ่านที่ทางเข้า ระบบจะทำการบันทึกว่าหางลากดัวกล่าวได้ถูกนำกลับมาที่โรงงานแล้ว และพร้อมใช้งานสำหรับการขนส่งในรอบต่อไป เมื่อหางลากดังกล่าวถูกนำไปจอดที่ประตู Load เพื่อ Load สินค้า เครื่องอ่านที่ประตู Load จะทำการบันทึกว่า หางลากดังกล่าวจอดที่ประตู Load ใด ในขั้นตอนนี้ นอกจากแสดงสถานะของหางลากแล้ว ระบบยังแจ้งให้ทราบว่า ประตู Load สินค้าใดมีการใช้งาน และประตูใดยังไม่มีการใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารประตู Load สินค้า เมื่อทำการ Load สินค้าเสร็จสิ้นหางลากดังกล่าว ก็จะถูกหัวลากขนส่งผ่านทางออกโรงงาน เพื่อไปส่งสินค้าตามปลายทางที่กำหนด ทันทีที่ผ่านประตูออกโรงงาน ระบบจะทำการบันทึกว่า หางลากดังกล่าวได้ถูกส่งออกจากโรงงานด้วยรถหัวลากคันใด
จะเห็นได้ว่า กระบวนการทำงานทั้งหมดตั้งแต่รถหางลากเข้าจนถึงออกจากโรงงาน ไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการบันทึกข้อมูลอีกต่อไป ระบบจะทำการบันทึกข้อมูลให้ ยิ่งกว่านั้นข้อมูลที่ถูกบันทึกเข้าสู่ระบบยังมีความแม่นยำสูง ลดความผิดพลาดการบันทึกข้อมูลโดยคนได้ เมือมีข้อมูลที่ถูกต้อง ระบบก็สามารถทำการวิเคราะห์เพื่อให้ทราบถึงลักษณะการใช้งานของหางลากแต่ละประเภทได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
สรุป
ไอเดนทิไฟ ได้นำเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในบริหารนรถหางลาก ทำให้กระบวนการทำงานดังกล่าวเป็นแบบไร้เอกสาร (Paperless) ช่วยในการลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นระบบดังกล่าวยังช่วยในการวางแผนการใช้งานรถหัวลากและหางลาก
สามารถดูรายละเอียดจาก https://www.youtube.com/watch?v=N9mmCNI3NSw&feature=youtu.be
"กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง" ฟื้นตัว ! ฐานะติดลบต่ำสุดในรอบ 3 ปี เชื่อมั่นชำระหนี้เงินกู้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมเดินหน้าตามนโยบาย Quick Big Win ดูแลราคาพลังงานเพื่อประชาชน
งานมหกรรมเมืองและสถาปัตยกรรมนานาชาตินครเซี่ยงไฮ้ ประจำปี 2568 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเมืองโลก
เจ้าสัว ฟู้ดส์ฯ หรือ CHAO ตอกย้ำความสำเร็จด้านความยั่งยืน คว้าประกาศนียบัตร 'Supplier Sustain Award 2025' ในงาน Makro HoReCa 2025
Bedrock Analytics ผ่านการรับรอง ISO 9001 และ ISO 27001 ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความปลอดภัยข้อมูลมาตรฐานระดับโลก
กสิกรไทยประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุน
เคทีซีคว้ามาตรฐาน ISO ต่อเนื่อง ยกระดับความมั่นคงไซเบอร์ เสริมเกราะข้อมูลลูกค้ายุคดิจิทัล
ไฮเออร์ ติดโผ Forbes World's Best Employers ปีที่ 9 ควบ Top Employer China 2025 สะท้อนพลังองค์กรแห่งอนาคต ที่คนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในโลก
เปิดมุมมอง "อนิวรรต ศรีรุ่งธรรม" ผู้บริหารรุ่นใหม่ พลิกโฉมธุรกิจทองคำไทยด้วยเทคโนโลยี
สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี