ธนาคารคันบาวซา (KBZ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือบริษัทคันบาวซา ประเทศเมียนมา ประกาศเปิดสำนักงานในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ทำให้คันบาวซาเป็นธนาคารเมียนมาแห่งแรกที่มีที่ทำการในต่างประเทศ
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารคันบาวซาได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้เปิดสำนักงานขึ้นในกรุงเทพมหานครได้ และในวันนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะประกาศการเริ่มต้นของบริการการเงินครั้งใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จในการเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของเมียนมา ที่สามารถเปิดสำนักงานให้บริการได้ทั้งในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก
"เรามุ่งมั่นที่จะเปิดให้บริการทางการเงินและคำปรึกษาอื่น ๆ กับลูกค้ารายย่อยและกลุ่มธุรกิจเมียนมาในประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมถึงธุรกิจสัญชาติไทยที่สนใจจะเข้าสู่ตลาดเมียนมาด้วย เราหวังว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายเหล่านี้จะใช้โอกาสดังกล่าวมอบความไว้วางใจให้ธนาคารเราได้นำประสบการณ์ในตลาดการเงินเมียนมามาช่วยดำเนินธุรกิจให้เกิดผลตอบแทนสูงสุด ตลอดจนร่วมพัฒนาการค้าทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศให้ยั่งยืนต่อไปด้วย" นาย ถั่น โช กรรมการผู้จัดการอาวุโสของธนาคารคันบาวซา กล่าว ซึ่งเขาเชื่อว่าการเปิดที่ทำการแห่งใหม่ในประเทศไทยครั้งนี้จะเกิดผลดีต่อประชาคมธุรกิจอาเซียนโดยรวม
ทั้งนี้ เมื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีของไทย ได้พบกับนายตินจ่อ ประธานาธิบดีของเมียนมา ที่กรุงเนปยีดอ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ก็มีการประกาศว่าทั้งสองประเทศเตรียมยกระดับการค้าทวิภาคีขึ้นจากเดิมอีกเท่าตัว มาอยู่ที่มูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2560 และการตั้งสำนักงานของธนาคารคันบาวซาครั้งนี้ก็จะช่วยให้เป้าหมายนั้นเป็นจริงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นายถั่น โช กล่าวเพิ่มด้วยว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีมายาวนานเปิดโอกาสให้มีการทำงานร่วมกันอย่างกว้างขวางในหลายภาคส่วนของภูมิภาค โดยธนาคารเราก็เป็นสถาบันการเงินชั้นนำของเมียนมาที่สั่งสมประสบการณ์ทำงานมายาวนาน และมีความพร้อมที่จะเป็นตัวแทนประเทศในการทำงานเคียงข้างองค์กรธุรกิจอื่น ๆ ในระดับสากล"
นอกจากนี้ ธนาคารคันบาวซายังจะใช้โอกาสนี้มุ่งแสวงหาโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ด้านการเงินกับประชากรเมียนมาในประเทศไทย ซึ่งมีอยู่มากถึงราว 3 ล้านคน และหวังว่าในที่สุดแล้วจะได้ลูกค้าใหม่จากกลุ่มประชากรดังกล่าวเมื่อพวกเขาเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด
นายถั่น โช กล่าวว่า ในการที่จะเปิดสำนักงานขึ้นครั้งนี้ ธนาคารคันบาวซาต้องผ่านมาตรการเข้มงวดมากมาย ตลอดจนต้องเปิดเผยขั้นตอนการทำงานที่โปร่งใส เพื่อให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบการ รวมถึงขั้นตอนการประเมินธุรกิจในตลาด ข้อมูลผู้ถือหุ้น รางวัลที่ได้รับ และข้อมูลการลงทุนที่ผ่านมา โดยทั้งหมดต้องเป็นไปตามแนวทางที่ธนาคารแห่งประเทศไทยวางไว้
กลุ่มบริษัทคันบาวซาได้พิสูจน์แล้วว่าประวัติการประกอบกิจการในอุตสาหกรรมการเงินเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ดังจะเห็นได้จากการประกาศเกียรติคุณเมื่อปี 2557 ที่ศูนย์ธุรกิจรับผิดชอบของเมียนมา (MCRB) ประกาศให้กลุ่มบริษัทคันบาวซาเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีความโปร่งใสที่สุดในประเทศ และด้วยการสนับสนุนของธนาคารกลางเมียนมาและสถานทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ธนาคารจึงประสบความสำเร็จ ได้รับความเชื่อถือและการยอมรับจากภาคการเงิน
สำนักงานแห่งใหม่จะบริหารโดยนายเซยา เซน ตัต ซึ่งเพิ่งได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย และจะมุ่งเน้นการวิจัยตลาด การประสานงานกับภาคเอกชน และการให้ข้อมูลกับลูกค้า รวมถึงข้อมูลมาตรการทางธุรกิจสำหรับการประกอบกิจการในไทยและเมียนมาด้วย
ธนาคารคันบาวซามีแผนที่จะขยายการให้บริการไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน โดยเพิ่งได้รับใบอนุญาตประกอบการในสิงคโปร์ไปเมื่อไม่นานมานี้
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารคันบาวซาได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้เปิดสำนักงานขึ้นในกรุงเทพมหานครได้ และในวันนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะประกาศการเริ่มต้นของบริการการเงินครั้งใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จในการเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของเมียนมา ที่สามารถเปิดสำนักงานให้บริการได้ทั้งในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก
"เรามุ่งมั่นที่จะเปิดให้บริการทางการเงินและคำปรึกษาอื่น ๆ กับลูกค้ารายย่อยและกลุ่มธุรกิจเมียนมาในประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมถึงธุรกิจสัญชาติไทยที่สนใจจะเข้าสู่ตลาดเมียนมาด้วย เราหวังว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายเหล่านี้จะใช้โอกาสดังกล่าวมอบความไว้วางใจให้ธนาคารเราได้นำประสบการณ์ในตลาดการเงินเมียนมามาช่วยดำเนินธุรกิจให้เกิดผลตอบแทนสูงสุด ตลอดจนร่วมพัฒนาการค้าทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศให้ยั่งยืนต่อไปด้วย" นาย ถั่น โช กรรมการผู้จัดการอาวุโสของธนาคารคันบาวซา กล่าว ซึ่งเขาเชื่อว่าการเปิดที่ทำการแห่งใหม่ในประเทศไทยครั้งนี้จะเกิดผลดีต่อประชาคมธุรกิจอาเซียนโดยรวม
ทั้งนี้ เมื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีของไทย ได้พบกับนายตินจ่อ ประธานาธิบดีของเมียนมา ที่กรุงเนปยีดอ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ก็มีการประกาศว่าทั้งสองประเทศเตรียมยกระดับการค้าทวิภาคีขึ้นจากเดิมอีกเท่าตัว มาอยู่ที่มูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2560 และการตั้งสำนักงานของธนาคารคันบาวซาครั้งนี้ก็จะช่วยให้เป้าหมายนั้นเป็นจริงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นายถั่น โช กล่าวเพิ่มด้วยว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีมายาวนานเปิดโอกาสให้มีการทำงานร่วมกันอย่างกว้างขวางในหลายภาคส่วนของภูมิภาค โดยธนาคารเราก็เป็นสถาบันการเงินชั้นนำของเมียนมาที่สั่งสมประสบการณ์ทำงานมายาวนาน และมีความพร้อมที่จะเป็นตัวแทนประเทศในการทำงานเคียงข้างองค์กรธุรกิจอื่น ๆ ในระดับสากล"
นอกจากนี้ ธนาคารคันบาวซายังจะใช้โอกาสนี้มุ่งแสวงหาโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ด้านการเงินกับประชากรเมียนมาในประเทศไทย ซึ่งมีอยู่มากถึงราว 3 ล้านคน และหวังว่าในที่สุดแล้วจะได้ลูกค้าใหม่จากกลุ่มประชากรดังกล่าวเมื่อพวกเขาเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด
นายถั่น โช กล่าวว่า ในการที่จะเปิดสำนักงานขึ้นครั้งนี้ ธนาคารคันบาวซาต้องผ่านมาตรการเข้มงวดมากมาย ตลอดจนต้องเปิดเผยขั้นตอนการทำงานที่โปร่งใส เพื่อให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบการ รวมถึงขั้นตอนการประเมินธุรกิจในตลาด ข้อมูลผู้ถือหุ้น รางวัลที่ได้รับ และข้อมูลการลงทุนที่ผ่านมา โดยทั้งหมดต้องเป็นไปตามแนวทางที่ธนาคารแห่งประเทศไทยวางไว้
กลุ่มบริษัทคันบาวซาได้พิสูจน์แล้วว่าประวัติการประกอบกิจการในอุตสาหกรรมการเงินเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ดังจะเห็นได้จากการประกาศเกียรติคุณเมื่อปี 2557 ที่ศูนย์ธุรกิจรับผิดชอบของเมียนมา (MCRB) ประกาศให้กลุ่มบริษัทคันบาวซาเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีความโปร่งใสที่สุดในประเทศ และด้วยการสนับสนุนของธนาคารกลางเมียนมาและสถานทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ธนาคารจึงประสบความสำเร็จ ได้รับความเชื่อถือและการยอมรับจากภาคการเงิน
สำนักงานแห่งใหม่จะบริหารโดยนายเซยา เซน ตัต ซึ่งเพิ่งได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย และจะมุ่งเน้นการวิจัยตลาด การประสานงานกับภาคเอกชน และการให้ข้อมูลกับลูกค้า รวมถึงข้อมูลมาตรการทางธุรกิจสำหรับการประกอบกิจการในไทยและเมียนมาด้วย
ธนาคารคันบาวซามีแผนที่จะขยายการให้บริการไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน โดยเพิ่งได้รับใบอนุญาตประกอบการในสิงคโปร์ไปเมื่อไม่นานมานี้
BAM เปิดงานใหญ่ BAM SYMPOSIUM : New Era of AMC 2025 เวทีประวัติศาสตร์ของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ไทย สู่ยุคใหม่แห่งการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
NITMX แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล และธนาคารกรุงไทย ขยายการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินระหว่างไทย-จีน ผ่านพร้อมเพย์
กสิกรไทย ผนึกกำลัง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ อบก. Kubix และ Orbix Technology เปิดตัวโครงการนำร่องทดสอบการแปลงคาร์บอนเครดิตเป็นโทเคนดิจิทัล ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้กรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย
"กอช." ผนึกกำลังหน่วยงานพันธมิตร ขยายช่องทางการจำหน่าย และชำระเงิน "สลาก กอช."ครอบคลุมทุกช่องทาง
"กอช." ผนึกกำลังหน่วยงานพันธมิตร ขยายช่องทางการจำหน่าย และชำระเงิน "สลาก กอช." ครอบคลุมทุกช่องทาง
SCB WEALTH ผนึกทีม Holistic ผ่าทางรอดเศรษฐกิจไทยย้ำรัฐเร่งเครื่อง 3S หนุนโตยั่งยืน มองบาทอ่อนสั้น-แข็งยาว ชี้โอกาสลงทุนหุ้นค้าปลีก ท่องเที่ยว ก่อสร้างรับอานิสงส์ Quick Big Win
ทีทีบี มุ่งสร้างความปลอดภัยทางการเงินให้ลูกค้ายุคดิจิทัล ย้ำ! บัญชีม้าโทษหนัก เตือนคนไทยรู้เท่าทัน ป้องกันก่อนตกเป็นเหยื่อ
3 หน่วยงานกำกับดูแล เดินหน้าโครงการ Responsible Voices สำหรับ Finfluencer รุ่นที่ 2 ส่งเสริมการให้ข้อมูลการเงิน การลงทุน และประกันภัย อย่างมีความรับผิดชอบ