สศท.9 แจงพื้นที่เขตความเหมาะสมปลูกข้าว คาบสมุทรสทิงพระ แนะ เกษตรกรศึกษาพืชทางเลือกรอบด้าน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 ศึกษาเขตความเหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว บนคาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา ระบุ เกษตรกรที่ปลูกข้าวในเขต S1 และ S2 มีผลผลิตเฉลี่ย 716.04 กก./ไร่ รายได้สุทธิ 515.70 บาท/ไร่ ส่วนเกษตรกรที่ปลูกข้าวในเขต S3 และ N พบว่า มีผลผลิตเฉลี่ย 507.04 กก./ไร่ รายได้สุทธิ -423.31 บาท/ไร่ ย้ำ หากเกษตรกรต้องการปลูกพืชทางเลือกอื่น ต้องศึกษาพืชทางเลือกใหม่ที่มีลู่ทางการตลาด ดิน และข้อมูลต้นทุนการผลิตอย่างรอบด้าน
          นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 (สศท.9) ได้ศึกษาเขตความเหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว บนคาบสมุทร สทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่อำเภอระโนด สทิงพระ กระแสสินธุ์ และสิงหนคร เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนของการปลูกข้าวในพื้นที่ รวมทั้งศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนสำหรับสินค้าเกษตรทางเลือกชนิดอื่นๆ ที่เกษตรกรมีความสนใจเพื่อทดแทนการปลูกข้าวในพื้นที่นาที่ไม่เหมาะสม สำหรับเขตความเหมาะสมการปลูกข้าวของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวบนคาบสมุทรสทิงพระ มีการแบ่งพื้นที่ความเหมาะสมในการการปลูกข้าว ได้เป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย
          - เขตพื้นที่มีความเหมาะสมในการปลูกข้าวมาก (S1) เนื้อที่ 306,145 ไร่ มีการปลูกข้าว 171,395 ไร่ 
          - เขตพื้นที่มีความเหมาะสมในการปลูกข้าวปานกลาง (S2) เนื้อที่ 22,985 ไร่ มีการปลูกข้าว 5,672 ไร่
          - เขตพื้นที่มีความเหมาะสมในการปลูกข้าวน้อย (S3) เนื้อที่ 23,100 ไร่ มีการปลูกข้าว 798 ไร่
          - เขตพื้นที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าว (N) เนื้อที่ 387,491 ไร่ มีการปลูกข้าว 2,167 ไร่
          สำหรับเกษตรกรที่ปลูกข้าวในเขตที่มีความเหมาะสมมาก (S1) และมีความเหมาะสมปานกลาง (S2) มีผลผลิตเฉลี่ย 716.04 กก./ไร่ ผลตอบแทนเฉลี่ย 4,511.05 บาท/ไร่ ต้นทุนเฉลี่ย 3,995.35 บาท/ไร่ คิดเป็นต้นทุนเฉลี่ย 5.58 บาท/กก. มีรายได้สุทธิ 515.70 บาท/ไร่ ทั้งนี้ การจัดทำแนวทางการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสินค้าเกษตรที่สำคัญ ในเขตที่มีความเหมาะสมมาก (S1) และมีความเหมาะสมปานกลาง (S2) ต้องให้ความสำคัญเรื่องการลดต้นทุน รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
          ส่วนเกษตรกรที่ปลูกข้าวในเขตความเหมาะสมน้อย (S3) และเขตที่ไม่เหมาะสม (N) พบว่า มีผลผลิตเฉลี่ย 507.04 กก./ไร่ ผลตอบแทนเฉลี่ย 3,194.35 บาท/ไร่ ต้นทุนเฉลี่ย 3,617.67 บาท/ไร่ คิดเป็นต้นทุนเฉลี่ย 7.13 บาท/กก. มีรายได้สุทธิ -423.31 บาท/ไร่ อย่างไรก็ตาม การจัดทำแนวทางการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสินค้าเกษตรที่สำคัญในเขตความเหมาะสมน้อย (S3) และเขตไม่เหมาะสม (N) ต้องให้ความสำคัญโดยพิจารณาเป็นกรณี คือ หากเกษตรกรต้องการทำนาต่อไป ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการดิน ปรับปรุงโครงสร้างดินใหม่ การตรวจวิเคราะห์ดิน แต่หากเกษตรกรต้องการปลูกพืชทางเลือกอื่นเพื่อทดแทนการปลูกข้าว เกษตรกรต้องศึกษาพืชทางเลือกใหม่ที่มีลู่ทางการตลาด ดินมีความเหมาะสมกับพืชที่เกษตรกรเลือก รวมทั้งพิจารณาเรื่องข้อมูลต้นทุนการผลิต และรายได้สุทธิของพืชทางเลือก
          ด้านนายพลเชษฐ์ ตราโช ผู้อำนวยการ สศท.9 กล่าวเสริมว่า จากการศึกษาพืชทางเลือกของเกษตรกรบนคาบสมุทรสทิงพระ พบว่า เกษตรกรได้มีการปลูกพืชทางเลือกที่สำคัญได้แก่ ปาล์มน้ำมัน พืชไร่และพืชผัก โดยผลตอบแทนของเกษตรกรบนคาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา พบว่า
          ปาล์มน้ำมัน เกษตรกรมีรายได้สุทธิ 5,661.49 บาท/ไร่ พริกเขียวมัน มีรายได้สุทธิ 26,681.30 บาท/ไร่ คะน้า มีรายได้สุทธิ 11,935.93 บาท/ไร่ มะระ มีรายได้สุทธิ 10,180.48 บาท/ไร่ บวบ มีรายได้สุทธิ 9,881.61 บาท/ไร่ ถั่วฝักยาว มีรายได้สุทธิ 7,836.49 บาท/ไร่ กล้วยหอมทอง มีรายได้สุทธิ 61,807.47 บาท/ไร่ ดาวเรืองตัดดอก มีรายได้สุทธิ 55,514.57 บาท/ไร่ และหญ้าหวายข้อ มีรายได้สุทธิ 24,119.08 บาท/ไร่
          ทั้งนี้ สศท.9 ยังได้จัดทำแนวทางพัฒนาสินค้า รวม 3 ยุทธศาสตร์ 17 กลยุทธ์ และแนวทางพัฒนาพื้นที่ ขับเคลื่อนโดยอาศัยกระบวนการประชารัฐ คำนึงถึงความต้องการของเกษตรกรเป็นหลัก บนฐานกลไกของอุปสงค์และอุปทาน รวมทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่ ทรัพยากรน้ำ องค์ความรู้ แหล่งเงินทุน และโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ตลอดจนการร่วมบูรณาการทุกภาคส่วนภายในจังหวัด อันจะสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ให้แก่พื้นที่ต่อไป


ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่+สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรวันนี้

ต้นแบบแปลงใหญ่ 'ตะไคร้บ้านวงฆ้อง' จ.กำแพงเพชร รวมกลุ่มผลิตมาตรฐาน GAP สร้างรายได้ หนุนเศรษฐกิจชุมชน

นางเจนธิชา ชัยชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 นครสวรรค์ (สศท.12) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินหน้าขับเคลื่อนการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตร ตามแผนปฏิบัติราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 2570) โดยมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการผลิต การแปรรูป และการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากฐานเกษตรกรรมและฐานทรัพยากรชีวภาพ เพื่อเชื่อมโยงสู่ภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่อง รวมทั้งส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรให้เป็นพืชเศรษฐกิจตามความเหมาะสมของพื้นที่ นับเป็น

นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเ... ของดีเมืองสงขลา 'ส้มโอหอมควนลัง' GI เกษตรกรรวมกลุ่มผลิตส้มโอคุณภาพ ออกตลาด ต.ค. - พ.ย. นี้ — นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9...

นายชายศักดิ์ วุฒิศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักง... สศท.5 หนุน 'ผำ' อาหารแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง — นายชายศักดิ์ วุฒิศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชส...

นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำ... สศท.2 เกาะติดสถานการณ์ผลิตทุเรียนภาคเหนือตอนล่าง ปี 68 รวม 6 จังหวัด แตะ 55,000 ตัน เพิ่มขึ้น 12.47% — นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษ...