สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ร่วมธนาคารพัฒนาเอเชีย (The Asian Development Bank – ADB) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (The Organisation for Economic Co-operation and Development - OECD) ผนึกพลังจัดงานประชุมสัมมนา "ASEAN International Conference 2016 : Digital Transformation in Government and the Public Sector And Southeast Asian Government at a Glance Initiative" ระหว่างวันที่ 14 – 16 กันยายน 2559 ณ โรงแรม สวิสโซเทล นายเลิศ ปาร์ค กรุงเทพฯ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ด้านการบริการของภาครัฐที่มุ่งสู่การบริการในรูปแบบดิจิทัล ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐของไทย ประเทศสมาชิกอาเซียน และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินนโยบายของรัฐในรูปแบบรัฐบาลดิจิทัล ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการสร้างความแน่นแฟ้นของเครือข่ายธรรมาภิบาลอาเซียน เพื่อการดำเนินงานด้านวิชาการร่วมกันต่อไปในอนาคต
          นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากความร่วมมือของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) โดยจัดประชุมสัมมนา "ASEAN International Conference 2016 : Digital Transformation in Government and the Public Sector And Southeast Asian Government at a Glance Initiative" ระหว่างวันที่ 14 – 16 กันยายน 2559 นับเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศระหว่างตัวแทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนนี้ สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลงที่หน่วยงานภาครัฐทั่วโลกกำลังปรับเปลี่ยนการให้บริการภาครัฐจากแบบระบบปิด ขั้นตอนและกฎระเบียบมากมาย ใช้เอกสารที่เป็นกระดาษ ไปสู่การให้บริการผ่านทางระบบออนไลน์ ซึ่งรัฐบาลไทยก็มีความพยายามที่จะก้าวไปสู่การบริการภาครัฐด้วยระบบดิจิทัล ด้วยการประกาศใช้พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 เพื่อปรับปรุงการบริการภาครัฐโดยเปิดเผยข้อมูลการให้บริการไว้อย่างชัดเจน ทั้งเอกสารที่ต้องใช้ ระยะเวลาและขั้นตอนการให้บริการ พร้อมนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดำเนินการ โดยให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มช่องทางการให้บริการ เน้นการให้ข้อมูลที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้สะดวก ลดการลดจำนวนเอกสารที่ต้องยื่น ลดรอคิวและการไปติดต่อด้วยตนเอง ถือเป็นจุดเปลี่ยนการบริการภาครัฐแบบเดิม ขจัดความล่าช้า ไปสู่การให้บริการที่เร็วขึ้น สะดวกขึ้น เสียค่าใช้จ่ายลดลง ประชาชนและมีความโปร่งใส
          อีกทั้ง ยังได้ จัดทำระบบบูรณาการศูนย์กลางบริการภาครัฐเพื่อภาคธุรกิจ (Biz Portal System) เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจสามารถขอเริ่มต้นธุรกิจ ยื่นแบบฟอร์มและเอกสารหลักฐานผ่านทางออนไลน์ได้เบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว โดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อที่หน่วยงานต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งช่วยลดระยะเวลาดำเนินการและเพิ่มความสะดวกมากขึ้น และกำลังขยายผลเชื่อมโยงระบบด้านอื่น ๆ ต่อไปด้วย
          "การประชุมที่จัดขึ้นนี้ จะเน้นให้เห็นถึงเส้นทางที่เป็นไปได้สำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ รวมถึงผลประโยชน์และการแก้ไขปัญหาทันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลทางบวกต่อหนทางแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระดับดิจิทัลของรัฐบาลจากประเทศที่เข้าร่วมประชุม" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
          ด้าน นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า จากความร่วมมือร่วมใจของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และธนาคารโลก (World Bank) ที่ร่วมกันสนับสนุนดิจิทัลดีเอ็นเอแห่งชาติ (National Digital DNA) โดยทั่วภูมิภาค ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง โดยการเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้มีส่วนช่วยแสดงความคิดเห็นในการแสวงหามาตรการที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติของรัฐบาลที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่บทบาทใหม่ด้วย
          ในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการก่อตั้งอาเซียน ASEAN 2025 สำหรับการดำรงไว้ซึ่งความสงบสุข และเสถียรภาพของภูมิภาคผ่านการสร้างความเข้มแข็งของประชาธิปไตยและธรรมาภิบาลดังที่องค์ประกอบที่ A.2.2. ของแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน พ.ศ. 2568 ระบุไว้ว่า "การปลูกฝังวัฒนธรรมเรื่องธรรมาภิบาลเป็นกระแสหลักในนโยบายและระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ ของประชาคมอาเซียน"
          สำหรับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) นั้นเป็นหน่วยงานสำคัญในการปลูกฝังวัฒนธรรมเรื่องธรรมาภิบาลโดยการส่งเสริมการหารือและความเป็นภาคีเครือข่ายระหว่างรัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมและก่อให้เกิดความคิด แนวความคิด ตลอดจนวิธีการใหม่ ๆ ในการส่งเสริมความโปร่งใส ความร่วมรับผิดชอบ การมีส่วนร่วม และประสิทธิภาพในการปกครองด้วย
                    
                                                                                                                                        
                                                                                        
                            
                            Empowering a New Generation: AIT Welcomes 30 Outstanding Women Scholars from Pakistan
                        
                            ยูนิฟาร์ส ระดมทุน 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พัฒนาเทคโนโลยีควบคุมแบคทีเรีย เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน
                        
                            UniFAHS Raises USD 1.4 Million in Seed Funding to Scale Bacteriophage Technology for Sustainable Agriculture
                        
                            EXIM BANK จับมือ ADB และ JICA สนับสนุนเงินกู้ร่วม 3,900 ลบ. ให้กลุ่มบริษัท EA จัดหารถโดยสารไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
                        
                            EXIM Thailand Joins Hands with World Leading Financial Institutions in Financing Monsoon Wind Power for Construction of ASEAN Largest Wind Power Plant to Drive Green Economy
                        
                            'ซีเค พาวเวอร์' ประสบความสำเร็จในระดับอาเซียน คว้ารางวัล ASEAN CG Scorecard มุ่งดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืน