กระทรวงเกษตรฯ แถลงย้ำ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ทุกลำ มายื่นขอรับการตรวจสอบความถูกต้องของเรือและเครื่องมือทำการประมง มีกำหนดภายในวันที่ 15 กันยายน 2559 นี้เท่านั้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ตามที่ กรมประมงได้ประกาศให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ไปแล้วทุกลำมายื่นความประสงค์ขอนัดหมายเพื่อรับการตรวจสอบความถูกต้องในการทำประมง ตั้งแต่ 15 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ขณะนี้ (6 กันยายน2559) มีผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ มายื่นความประสงค์ขอรับการตรวจสอบเรือที่ใช้ทำการประมง และเครื่องมือทำการประมง จำนวนทั้งสิ้น 9,241 ลำ กรมประมงย้ำให้รีบมายื่นแสดงความประสงค์ขอนัดหมาย ณ ท่าเทียบเรือ 22 จังหวัดชายทะเล หรือศูนย์แจ้งเข้า –ออกในจังหวัดนั้นๆ
          พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า หลังจากที่กรมประมง มีประกาศลงวันที่ 4 สิงหาคม 2559 ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อ 1 เมษายน 2559 ทุกลำ มายื่นขอนัดหมายเจ้าหน้าที่เพื่อนำเรือและเครื่องมือทำการประมง และอุปกรณ์อื่นๆ ตามที่ระบุไว้ในพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มารับการตรวจสอบความถูกต้องว่าเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตไว้หรือไม่ โดยตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ ผ่านไปแล้ว 23 วัน (6 ก.ย.59) ผลปรากฏว่ามีผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์มายื่นขอนัดหมายเจ้าหน้าที่แล้วทั้งหมด 9,241 ลำ แบ่งเป็น เรือ 10 – 30 ตันกรอส จำนวน 4,389 ลำ และ เรือ 30 ตันกรอสขึ้นไป 4,600 ลำ ทั้งนี้ เรือประมงพาณิชย์ที่ผ่านการตรวจโดยกรมประมงเรียบร้อยแล้ว จะได้รับสติ๊กเกอร์ติดไว้เป็นหลักฐานที่ตัวเรือว่าได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว
          โดยผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ ขนาด 10 - 30 ตันกรอส สามารถยื่นแบบขอรับการตรวจได้ที่สำนักงานประมงจังหวัด 22 จังหวัดชายทะเลและสำนักงานประมงอำเภอ ส่วนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ ขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป สามารถยื่นเอกสารแก่เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออกในจังหวัดนั้นๆ และนัดหมายเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจเรือ โดยการดำเนินการทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ประการใด เพียงแต่ผู้ได้รับใบอนุญาตเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและนำมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเอกสารสำคัญประกอบด้วย
          1. ใบอนุญาตใช้เรือ: ที่ระบุหมายเลขทะเบียนเรือ ชื่อเรือ ชื่อสกุลเจ้าของเรือ วันหมดอายุ หมายเลขเครื่องยนต์ และยี่ห้อเครื่องยนต์ให้ชัดเจน
          2. ใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ต้นฉบับ ที่ได้รับจากกรมประมง ที่ระบุหมายเลขใบอนุญาต ประเภทของเครื่องมือทำการประมง ใบอนุญาตที่ติดภายในเรือประมง พร้อมบัตรอนุญาต เลขที่ QR-Code ซึ่งจะต้องตรงตามใบอนุญาตทำการประมงที่ประมงออกให้ โดย QR-Code ดังกล่าวจะต้องติดไว้กับเรือ
          3. เครื่องมือประมง โดยชนิดและจำนวนเครื่องมือต้องถูกต้องตามใบอนุญาต รวมทั้งขนาดของตาอวน ขนาดความยาว ของเครื่องมือต้องเป็นไปตามกฎหมายด้วย
          ส่วนในกรณีเรือขึ้นคานหรือไม่ได้ทำการประมง ให้นัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจ ณ คานเรือ อู่ต่อเรือ สถานที่ซ่อมบำรุง หรือสถานที่จอดเรือโดยเอกสารสำคัญที่ต้องนำมาแสดงเช่นเดียวกับการตรวจเรือที่ทำการประมง ส่วนกรณีเรือ 30 ตันกรอสขึ้นไป ต้องมีหนังสือยืนยันรับรองการปิดเครื่องติดตามเรือประมง VMS จากกกรมประมง และหากถอดอุปกรณ์ไปแล้วให้นำอุปกรณ์มาให้ตรวจ ส่วนเครื่องมือประมงให้นำภาพถ่ายเครื่องมือมาแสดงด้วย
          สำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ ที่ไม่นำเรือมาให้ตรวจในเวลาที่กำหนดโดยไม่มีเหตุผล อันสมควรนั้น ถือเป็นผู้ไม่ให้ความร่วมมือกับทางราชการ กรมประมงจะออกหนังสือเรียกผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ชี้แจงและนำเรือมาตรวจพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ภายในเวลา 15 วัน นับจากได้หนังสือเรียก ซึ่งหากพ้นกำหนดไม่มารายงานตัว จะมีความผิดมาตรา 162 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 50,000 บาท ถ้าเป็นนิติบุคคลปรับ 100,000 – 1,000,000 บาท ซึ่งจะปรับกับผู้ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ และกรมประมงจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าไม่มีเรือทำประมงจริง จะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ต่อไป
          จึงขอความร่วมมือผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการประมงพาณิชย์ ให้รีบมายื่นแบบขอรับการตรวจสอบ ภายในระยะเวลาที่กำหนด 15 กันยายน 2559 และนำเรือมาตรวจสอบความถูกต้องว่าเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตไว้หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้มีการนำสิทธิ์ของท่านไปลักลอบทำการประมงที่ผิดกฎหมาย และเพื่อความมั่นคง ยั่งยืนของทรัพยากรในท้องทะเลไทย
          สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์เฉพาะกิจตรวจเรือประมงพาณิชย์ กรมประมง โทร. 0 2561 1418 / โทร. 06 4158 7418 / โทร. 06 4158 7372 หรือ สำนักงานประมงจังหวัดชายทะเล 22 แห่ง หรือ website : http ://www.fisheries.go.th/inspector

 
 

ข่าวฉัตรชัย สาริกัลยะ+การประมงพาณิชย์วันนี้

ก.เกษตรฯ อนุญาตทำการประมงพาณิชย์รอบปีการประมง 2561 – 2562

เกษตรฯ เผยการอนุญาตทำการประมงพาณิชย์รอบปีการประมง 2561 – 2562 เพิ่มจากเดิมอีก 20 วัน ดีเดย์ 16 มี.ค.เริ่มรับใบอนุญาตใหม่ได้ "พลเอกฉัตรชัย" ยันเป็นผลจากมาตรการเข้มแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายส่งผลทรัพยากรสัตว์น้ำฝั่งทะเลไทยเพิ่มขึ้นพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมประมงได้รายงานผลการประชุมคณะกรรมการจัดสรรใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์รอบปีการประมง 2561 – 2562 โดยที่ประชุมได้มีมติหกำหนดวันการจับปลาทั้ง 3 ระดับ คือ ประมงหน้าดิน ประมงผิวน้ำ และประมงกะตัก บริเวณฝั่งทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน

กรมชลประทาน เตรียมมอบทุนการศึกษาโครงการกอ... พลเอกฉัตรชัยฯ ประชุมเตรียมมอบทุนต้นกล้าเกษตรคืนถิ่นฯ ให้บุตรเกษตรกร เป็นปีที่ 4 — กรมชลประทาน เตรียมมอบทุนการศึกษาโครงการกองทุนต้นกล้าเกษตรคืนถิ่นเพื่อควา...

"บิ๊กตู่" ปลื้มประมงปลดใบเหลือง IUU จัดพิ... รัฐบาลมอบเกียรติบัตร-เข็มเกียรติคุณ แก่ชาวประมง NGO เอกชน ภาครัฐ ร่วมปลดล็อคประมงไอยูยู — "บิ๊กตู่" ปลื้มประมงปลดใบเหลือง IUU จัดพิธีมอบใบประกาศ และเข็มเก...

นายจิราวุฒิ วินัยพานิช (ขวา) ผู้อำนวยการใ... ภาพข่าว: การบินไทยร่วมพิธีรับพระราชทานตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 — นายจิราวุฒิ วินัยพานิช (ขวา) ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริหารทั่วไป บร...

พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี มอ... ภาพข่าว: วันสตรีสากล ไทยประกันชีวิต — พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี มอบรางวัลสื่อสารมวลชนดีเด่น สาขาสื่อโฆษณา ด้านการคุ้มครองสิทธิและการส่ง...

“บิ๊กฉัตร” สั่งลุยซื้อเรือ ชง ครม. 22 ม.ค.นี้

รองนายกฯ ฉัตรชัย เห็นชอบหลักเกณฑ์จ่ายชดเชยการนำเรือประมงออกนอกระบบ เป้าหมายเรือออกนอกระบบล็อตแรก 570 ลำ วงเงิน 600 ล้านบาท เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา 22 ม.ค.นี้ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้ความเห็นชอบการประเมินราคา...

พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ให... ละคร “บาปรัก” รับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “สื่อสร้างสรรค์-ไม่นิ่งเฉยต่อความรุนแรงในครอบครัว” — พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมอบโล่รางวัล...