Drama Club เอกตราสร้างคนเก่ง ค้นหาความถนัดและความฝัน จากละครเวที

21 Jun 2016
การแสดงละครเวทีภาคภาษาอังกฤษ เรื่อง "Blood Brothers A Joker's Tale" ของชมรม Drama Club แผนกมัธยม โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา ได้มีนักเรียนร่วมแสดงกว่า 34 คน และทีมงานเบื้องหลังซึ่งเป็น ครูไทย ครูต่างชาติ ศิษย์เก่าและนักเรียนอีกหลายสิบคน ได้เปิดทำการแสดงไปแล้ว สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมและผู้ปกครองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการแสดงมายากลที่ผสมผสานไปกับการแสดงละครเวทีเป็นภาษาอังกฤษ จากละครเวทีเรื่องนี้ทำให้ได้พบเพชรเม็ดงามของโรงเรียน ที่ได้รับบทบาทการแสดงเป็นแม่มด คาลิปโซ่ ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญ อีกทั้งยังเป็นรองประธานชมรม Drama Club อีกด้วย เพชรเม็ดนี้ คือ นางสาววันอิศริยาภรณ์ เพชรวานิชสกุล นักเรียนระดับชั้นม. 5 โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา
Drama Club เอกตราสร้างคนเก่ง ค้นหาความถนัดและความฝัน จากละครเวที

นางสาววันอิศริยาภรณ์ เพชรวานิชสกุล เล่าว่า "ชมรม Drama Club แผนกมัธยมโรงเรียนสารสาสน์เอกตรา จัดแสดงละครเวทีปีละ 1 เรื่อง ซึ่งนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้น ม.1 – ม. 6 จะได้มีโอกาสแสดงร่วมกัน โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนได้ใช้ทักษะศิลปะการแสดงรอบด้าน และในปีนี้ทาง Drama Club ได้จัดทำการแสดงประจำปีขึ้นมาอีกครั้ง ในชื่อชุดการแสดง Blood Brothers A joker's Tale"ในส่วนของการแสดง นางสาววันอิศริยาภรณ์ เพชรวานิชสกุล ได้แสดงเป็น คาลิปโซ ซึ่งคาแร็คเตอร์ในปีที่ผ่านมา คือเป็นผู้ทำนายอนาคต และถ้าหากใครมีเรื่องเดือดร้อนก็จะมาขอความช่วยเหลือจากเรา แต่ในปีนี้ได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้เรากลับมารู้อนาคต เราจึงต้องกลับมาช่วยเหลืออีกครั้ง

สำหรับพล็อตเรื่อง Blood Brothers A joker's Tale เป็นเรื่องของเด็กชายสองคนชื่อมาร์คัสและเบญจมิน ได้เกิดค่ำคืนเดียวกันในช่วง จันทรุปราคา ซึ่งครอบครัวของเด็กชายทั้งสอง ได้รับการฝึกฝนเวทมนต์และในที่สุดถูกฆ่าตายเพื่อแย่งชิงพลัง แต่เด็กชายสองคนนี้กลับหนีรอดมาได้ และได้รับการช่วยเหลือจากแม่มด ซึ่งเรื่องนี้ได้ถูกเก็บเป็นความลับ จากนั้นเด็กชายทั้งสองได้กรีดเลือดตัวเองและจับมือกัน เมื่อเลือดเข้าสู่ร่างกายกันและกัน เด็กชายทั้งสองถือว่าพวกเขาคือคน ๆเดียวกัน หลังจากนั้นพระมหากษัตริย์ ได้ตามหาตัวเด็กผู้ชายที่เกิดในช่วงจันทรุปราคา เพราะเชื่อว่าหากได้รับพลังจากเด็กชายที่เกิดในช่วงนี้ จะทำให้พระมหากษัตริย์มีพลังมากที่สุดในโลก"

นอกจากนี้ นางสาววันอิศริยาภรณ์ เพชรวานิชสกุล ยังได้ร่วมออกแบบท่าเต้นให้กับเพื่อนๆ นักแสดงในชมรม Drama Club และช่วยดูแลงานเบื้องหลังด้วย "โดยทีมงาน นักแสดง จะต้องใช้เวลาในช่วงเช้าและหลังเลิกเรียน ซ้อมการแสดง ซึ่งทุกคนจะต้องทำงานแข่งกับเวลา และต้องแบ่งเวลาให้กับการเรียน และการแสดงให้ลงตัวที่สุด ซึ่งการแสดงในครั้งนี้ทุกคนมีความตั้งใจฝึกซ้อม อาจจะมีอุปสรรคบ้าง มีเครียดบ้าง แต่พวกเราไม่ท้อเพราะเราได้รับกำลังใจที่ดีจากทุก ๆ ฝ่าย ทั้งครู เพื่อนนักเรียนที่ร่วมแสดง และพี่ ๆ ศิษย์เก่าที่เข้ามาร่วมการแสดงด้วยนั่นเอง"

ทางด้าน นายอิสระ รายรัตน์ ศิษย์เก่าโรงเรียนสารสาสน์เอกตรา อดีตประธานชม Drama Club นักเขียนบท ผู้กำกับการแสดงและเป็น 1 ในนักแสดงหลัก รัมเพิล สติลสกิน กล่าวว่า "การได้เข้ามาอยู่ที่ชมรม Drama Club ทำให้ผมได้ค้นพบความสามารถ ความถนัดที่ซ่อนอยู่ในตัวผม ผมชอบศิลปะการแสดง ผมชอบให้มีปัญหาเข้ามา เพื่อจะได้เรียนรู้หาวิธีแก้ไข ชอบการทำงานร่วมกัน เพราะได้ฟังหลายๆ ความเห็นจากผู้อื่น ยอมรับคำแนะนำของผู้อื่น ทำให้งานทุกอย่างเดินหน้าได้อย่างลงตัวและงานนี้ยังทำให้ผมใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่น ซึ่งผมจะมีวิธีการแก้ปัญหาให้เกิดความสมดุลให้มากที่สุด ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมชอบเป็นนักบริหาร ดังนั้นเมื่อผมได้เรียนรู้เรื่องการกำกับการแสดง การเขียนบทละคร รวมถึงการบริหารทีมงานนักแสดง จนงานทุกอย่างสำเร็จลุล่วงแล้ว ต่อไปผมจะมุ่งมั่นเรียนทางด้านการบริหารจัดการด้วยเพราะจากการทำงานในครั้งนี้ ทำให้ผมประทับใจ ที่ได้จัดการแก้ปัญหาให้กับส่วนรวม จนตอนนี้ผมได้ค้นพบอาชีพในฝันของผมแล้ว "

อาจารย์บุษรารัตน์ เกิดเพิ่มพูล รองผู้อำนวยการโรงเรียนสารสาสน์เอกตราแผนกมัธยม กล่าวว่า "ในทุกๆ ปี เราจะมีการแสดงละครเวทีภาษาอังกฤษของชมรมDrama Club เพื่อฝึกฝนทักษะรอบด้านของศิลปะการแสดง ทั้งการร้อง การเต้น การเขียนบท และที่สำคัญการแสดงยังเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด จึงทำให้พบว่านักเรียนของโรงเรียนสารสาสน์เอกตราหลายคนที่ได้ร่วมกิจกรรมแสดงละคร Drama Club จะค้นพบตัวเองว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร นอกจากนี้ปีนี้ ชมรม Drama Club ได้ร่วมมือกับ Extra Symphonic Band เป็นวงดนตรีที่ได้รับรางวัลระดับอาเซียนมาแล้ว ซึ่งแรกเริ่มมีเพียงแค่สมาชิก 16 คน เท่านั้น แต่ต่อมา อาจารย์พิสุทธ์ ยงค์กมล ผู้อำนวยการโรงเรียนสารสาสน์เอกตรา ได้มีนโยบายสนับสนุนกิจกรรมดนตรี เพื่อให้นักเรียนฝึกความสามัคคี มีระเบียบวินัย และความรับผิดชอบโดยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เมื่อ 2 ชมรมนีได้มาร่วมมือกัน จึงทำให้เกิดผลงานที่ดีที่สุดสำหรับโรงเรียนสารสาสน์เอกตรา"