กอปภ.ก. รายงานสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย – ปริมาณฝนอยู่ในระดับน้อยและกระจายตัว พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย และมีแนวโน้มดีขึ้น พื้นที่ประสบภัยแล้งลดลง มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 26 จังหวัด ขณะที่ปริมาณฝนยังอยู่ในระดับน้อย ส่วนใหญ่ฝนตกกระจายบริเวณขอบประเทศด้านภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนส่วนใหญ่ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปกติ จึงขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด กักเก็บน้ำและสำรองน้ำไว้อุปโภคบริโภค เกษตรกรควรวางแผนการเพาะปลูกพืชให้สอดคล้องกับสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ป้องกันผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย และขอให้จังหวัดประกาศยุติสถานการณ์ภัย พร้อมประสานแจ้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อรวบรวมรายงานกระทรวงมหาดไทยต่อไป
          นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) อำนวยการติดตาม ซักซ้อมการเฝ้าระวัง และประเมินสถานการณ์ภัยแล้ง ครั้งที่ 20/2559 กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลายและมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากหลายพื้นที่มีฝนตกกระจายและฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยพื้นที่ประสบภัยแล้งลดลง ปัจจุบัน ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2559 มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 26 จังหวัด 189 อำเภอ 1,014 ตำบล 8,274 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 11.04 ของหมู่บ้านทั่วประเทศ แยกเป็น จังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภค 8 จังหวัด จังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำเพื่อการเกษตร 6 จังหวัด และจังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร 12 จังหวัด รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง เน้นการเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ โดยเร่งขุดลอกคูคลองหนองบึง และแจกจ่ายน้ำเติมน้ำในภาชนะกลางสำหรับให้ประชาชนใช้อุปโภคบริโภค รวมถึงปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่เหนือเขื่อนช่วงที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย ทั้งนี้ จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์กรมหาชน) พบว่า แม้ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม 2559 แล้ว แต่ยังมีปริมาณฝนน้อย ส่วนใหญ่ฝนตกบริเวณขอบประเทศด้านภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ ของประเทศยังคงประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 16 – 18 มิถุนายน 2559 บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา จึงได้ประสานให้จังหวัดเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่ดังกล่าว สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ พบว่า เขื่อนส่วนใหญ่ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปกติและเริ่มมีน้ำไหลเข้าเขื่อนบ้างแล้ว แต่เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนที่ใช้การได้ของแต่ละเขื่อนอยู่ในเกณฑ์น้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่ยังคงต้องระบายน้ำออกสำหรับจัดสรรให้ประชาชนใช้ในกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จึงต้องมีการบริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุมและสอดคล้องกับปริมาณฝน เพื่อจัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อการใช้งานของประชาชนในทุกกิจกรรม รวมถึงสำรองน้ำสำหรับผลักดันน้ำเค็มในช่วงเกิดพายุลมแรงในอ่าวไทยและน้ำทะเลหนุนสูง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปา จึงขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด กักเก็บน้ำและสำรองน้ำไว้อุปโภคบริโภค ส่วนเกษตรกรควรวางแผนการเพาะปลูกพืชให้สอดคล้องกับสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในพื้นที่ สำหรับพื้นที่มีฝนตกไม่สม่ำเสมอ ให้เลื่อนการทำการเกษตรออกไปจนกว่าจะมีฝนตกตามฤดูกาลปกติ เพื่อป้องกันผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ ท้ายนี้ ขอให้จังหวัดที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) และภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้ยุติลง ให้จังหวัดประกาศยุติสถานการณ์ภัย พร้อมประสานแจ้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อรวบรวมรายงานกระทรวงมหาดไทยต่อไป

0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th


ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+พื้นที่ประสบภัยแล้งวันนี้

กทม. ยกระดับแผนปฏิบัติการป้องกันรับมือฝุ่น PM2.5 เข้มตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น ลดผลกระทบสุขภาพประชาชน

นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. รักษาราชการแทน ผอ.สสล. กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการป้องกันและรับมือปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สสล. ได้บูรณาการความร่วมมือและการยกระดับปฏิบัติการแบบ Single Command โดย กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบวันต่อวัน และบูรณาการข้อมูล hotspot

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หร... NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ — บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เดินหน้าสนับสนุนการยกร...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย C... ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม! — ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ระดับจังหวัด 13 พ.ค. นี้ พร้อมย้...

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกั... NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง — กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้...