กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มิถุนายน 2559 เกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทันในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ระดับน้ำท่วมสูง 5 – 20 เซนติเมตร โดยศูนย์ ปภ. เขต 3 ปราจีนบุรี ได้นำรถบรรทุกเครื่องสูบน้ำระยะไกลสนับสนุนการระบายน้ำออกจากพื้นที่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้ (23 มิ.ย.59) ด้านกระทรวงมหาดไทย ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อกำหนดแนวทางการ บูรณาการการปฏิบัติงาน การประสานงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขังแก่ประชาชน
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากภาวะฝนตกหนักเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 มิถุนายน 2559 ในพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมบางปู ถนนสุขุมวิท อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทันต่อเนื่องถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2559 โดยในเขตประกอบการเสรี ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 20 เซนติเมตร บริเวณถนนพัฒนา 1 และเขตอุตสาหกรรมทั่วไป ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 5 – 15 เซนติเมตร โรงงานปิดทำการชั่วคราว จำนวน 15 แห่ง จากทั้งหมด 350 แห่ง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยหน่วยทหารจากกรมพลาธิการทหารบก นายอำเภอเมืองสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและ ให้การช่วยเหลือประชาชน โดยนำรถทหารและรถบรรทุกของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เข้า – ออกภายในเขตนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี ได้นำรถบรรทุกเครื่องสูบน้ำระยะไกลสนับสนุนปฏิบัติการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้วประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันนี้ (23 มิ.ย.59)
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า จากกรณีฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังจากการระบายน้ำไม่ทัน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน 2559 ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีหน่วยงาน เข้าร่วมประชุม ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา กรุงเทพมหานคร กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา กรมชลประทาน การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง และจังหวัดในเขตปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร ซึ่งจะได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการบูรณาการการปฏิบัติงาน การประสานงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง รวมถึงแนวทางการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม ทั้งนี้ ปภ. ได้จัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน กรณีน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นหน่วยงานกลางในการประสาน การปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบและสนับสนุนการปฏิบัติงานของกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักและน้ำท่วมขัง สามารถติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย1784 เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th
NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์