กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ดันยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนา (R&D) มุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป ซึ่งมีมูลค่าส่งออก1 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และชิงความได้เปรียบโดยเน้นสร้างผู้ประกอบการให้นำเอาเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ การเชื่อมโยงงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ฯลฯ พร้อมโชว์ตัวอย่างเอสเอ็มอีพันธุ์ใหม่คิดค้น "ข้าวเหนียวมูลฮาลาลพร้อมทาน" เตรียมเจาะตลาดมุสลิมและคนรักสุขภาพ โดยเน้นนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการถนอมอาหารแบบไม่ใช้สารกันเสีย และใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ทั้งนี้ ไทยส่งออกอาหารฮาลาล 200,000 ล้านบาท คาดว่าใน 3 ปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20
นายประสงค์ นิลบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า การวิจัยและพัฒนา(Research&Development) เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ซึ่งประเทศไทยเปลี่ยนผ่านจากการเน้นภาคเกษตรกรรม ไปสู่อุตสาหกรรมเบา พัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมหนัก และกำลังก้าวสู่ยุคแห่งการสร้างสรรค์ทางนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีเพื่อสร้างเอสเอ็มอีและโอทอปที่ทำให้อุตสาหกรรมไทยเพิ่มระดับความสามารถ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูปซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของไทย โดยในปี 2558 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารรวมกว่า 1 ล้านล้านบาท (ที่มา:ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) ซึ่งมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์สินค้าอาหารไทยประกอบไปด้วยอุตสาหกรรมอาหารสำคัญ ประกอบด้วย ข้าว น้ำตาลทราย ปลาทูน่ากระป๋อง และมันสำปะหลัง แต่ปัจจุบันความสามารถในการแปรรูปวัตถุดิบให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงนั้นยังคงถูกจำกัดอยู่ในวงแคบ เช่นขาดการสนับสนุนด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็นต้น ดังนั้นกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงพยายามในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมในอุตสาหกรรมภาคการผลิตโดยใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสนับสนุนอย่างชัดเจน
นายประสงค์ กล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงได้กำหนดแนวทางในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการผลิตในกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและโอทอป โดยเน้นการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มบนฐานองค์ความรู้ จากการวิจัยและพัฒนา ความคิดสร้างสรรค์ และภูมิปัญญา ตลอดจนการส่งเสริมการนำเอาเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานขั้นสูงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ การเชื่อมโยงงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป การพัฒนาสถานที่ผลิตให้ได้มาตรฐานสากล การส่งเสริมนวัตกรรมอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์และเทคโนโลยี การพัฒนาศัพยภาพเอสเอ็มอีด้วยระบบดิจิทัล การพัฒนาศักยภาพสถานประกอบการอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป และโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา เป็นต้น
นายประสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูปในยุคปัจจุบัน ผู้ประกอบการไม่สามารถผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองตลาดภายในประเทศได้อย่างเดียว แต่ต้องพิจารณามองหาตลาดใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มตลาดอาหารฮาลาลซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อสูง มีมูลค่าตลาดทั่วโลกประมาณ 1.2ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยรัฐบาลตั้งเป้าให้อุตสาหกรรมอาหารฮาลาลไทยส่งออกติดอันดับ TOP 5 ของโลก ภายในปี 2563 ผ่านยุทธศาสตร์สำคัญ คือ การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพธุรกิจสินค้าและบริการฮาลาล การเสริมสร้างศักยภาพการผลิตสินค้าและบริการฮาลาล การพัฒนาศักยภาพการวิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์ฮาลาลฯ โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมีบทบาทในการมุ่งเน้นกระชับความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งสิ่งที่ต้องเร่งจัดการให้เร็วที่สุดคือ ความร่วมมือในการปรับปรุงกระบวนการขอรับการตรวจรับรองฮาลาลให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีหันมาให้ความสนใจขอรับเครื่องหมายฮาลาลให้มากขึ้นและยึดมั่นในระเบียบข้อบังคับตามบทบัญญัติของหลักศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาอาหารฮาลาลในรูปแบบต่างๆ อาทิ การพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด การพัฒนามาตรฐานการผลิต การส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่าย ฯลฯ ตั้งเป้าภายในปีนี้พัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มอาหารฮาลาล ไม่ต่ำกว่า 185 ราย ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีบริษัทที่ได้รับรองมาตรฐานอาหารฮาลาล 5,000 บริษัท มีผลิตภัณฑ์ที่ขอรับการรับรองฮาลาลสูงกว่า 100,000 รายการ (ข้อมูลของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย) มีมูลค่าการส่งออกอาหารฮาลาล 200,000 ล้านบาท คาดว่าใน 3 ปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20
ด้านนายกัมพล สิริประภาพรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท สิริไฟน์ฟู้ดส์เฮลตี้ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เข้าร่วมโครงการ การพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป โครงการพัฒนาสถานประกอบการเป้าหมายเพื่อเข้าสู่ AEC โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป โครงการสร้างเครือข่ายระดับประเทศในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ พร้อมกับการสร้างความเชื่อมั่นด้วยคุณภาพของวัตถุดิบ ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีและมีคุณภาพ ด้วยการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย ซึ่งแต่เดิมผลิตภัณฑ์จะมีเพียง ข้าวสวยพร้อมทานในรูปแบบของข้าวขาวหอมมะลิ ข้าวกล้องหอมมะลิ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งหลังจากได้เข้าโครงการของ กสอ. แล้วจึงเห็นว่าควรพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและนอกประเทศมากยิ่งขึ้น จึงได้มุ่งเน้นพัฒนาต่อยอดมาเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวผัดพริกไทยดำ ข้าวผัดแกงเขียวหวาน และข้าวผัดต้มยำ แบบสามารถบริโภคได้ทันที ภายใต้ชื่อ อรุณสวัสดิ์ โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้บริโภคอาหารฮาลาลอินทรีย์ (Organic Halal Food) และผู้ทานมังสวิรัติ เป็นต้น ซึ่งนอกจากนี้ทางบริษัท ยังได้พัฒนาข้าวเหนียวมูลพร้อมทาน (Ready to eat) โดยนำเอานวัตกรรมการถนอมอาหารแบบไม่ใช้สารกันเสียมาใช้ และลดปริมาณน้ำตาลลงกว่าข้าวเหนียวมูลปกติถึงครึ่งนึง แต่ได้ความหวานในระดับปกติตามแบบข้าวเหนียวมูลทั่วไปที่วางขาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทจะไม่ใช้วัตถุกันเสีย แต่จะใช้เทคนิคพิเศษในขั้นตอนการผลิตเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพและรสชาติของอาหารไว้ โดยไม่จำเป็นต้องเก็บรักษาในตู้เย็น
นายกัมพล กล่าวต่อว่า บริษัทให้ความสำคัญต่อคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัททุกชิ้นได้รับมาตรฐาน GMP HACCP โดยเฉพาะมาตรฐานฮาลาล เพื่อการเจาะตลาดมุสลิม ซึ่งถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ แค่เฉพาะในอาเซียนมีชาวมุสลิมมากว่า 300 ล้านคน ดังนั้นการได้มาตรฐานฮาลาลจึงเปรียบเสมือนเป็นประตูด่านแรกที่สามารถเปิดสู่ประเทศมุสลิม ซึ่งประเทศไทยมีจุดแข็งด้านการผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูป แต่ปัญหาคือประเทศไทยไม่ใช่ประเทศมุสลิม ดังนั้นการที่จะทำให้ประเทศมุสลิมเชื่อมั่นในสินค้าของเรา จึงถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย สำหรับแนวทางการตลาดในอนาคต บริษัทได้วางแผนไว้ว่าภายในระยะเวลา 3 ปี จะทำให้ข้าวผัดสำเร็จรูปพร้อมทานเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ และบุกตลาดอาหารฮาลาลอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นตลาดอาหารฮาลาลที่มีกำลังซื้อสูง แม้มาเลเซียมีประชากรราว 30 ล้านคน แต่ประชากรส่วนใหญ่มีรายได้สูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับโครงสร้างประชากรส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยทำงาน มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบขึ้นทำให้ชาวมาเลย์ส่วนใหญ่ไม่นิยมทำอาหารรับประทานเองและต้องการสินค้าอาหารที่สะดวกสบายในการรับประทาน จึงนับเป็นโอกาสของสินค้าอาหารฮาลาลของไทย ที่จะเข้าไปขยายตลาดในมาเลเซียซึ่งยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมาก นายกัมพล กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลได้ที่กองพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา 2 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2367 8194 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr
"พลอยลภัสร์" เปิดตัวภาพยนตร์ "สำรับ สลับศตวรรษ My Century" ผนึกพลังสร้างสรรค์ ถ่ายทอดเสน่ห์อาหารไทย ผ่านภาพยนตร์ก้าวไกลสู่เวทีสากล
"ดีพร้อม" โชว์ความสำเร็จสร้าง Hidden Gems ยกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนฯ ตอกย้ำเสน่ห์อาหารไทย รังสรรค์ 93 เมนู เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 140 ล้านบาท
เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย และ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี
กระทรวงอุตฯ ชูผลสำเร็จ 1 ทศวรรษ "Angel Fund" ดีพร้อม-เดลต้า ปั้น "ผู้ประกอบการอัจฉริยะ" 237 ราย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจทะลุ 1,000 ล้านบาท พร้อมรุก 3 กลยุทธ์ใหม่ ดันดีพเทคดาวรุ่งสู่ตลาดอุตสาหกรรม
"ธนกร" สั่งการ "ดีพร้อม" Quick Big Win อัดฉีดสินเชื่อ "เงินไว by DIPROM" ดอกเบี้ย 50 สตางค์ กระตุ้นสั้น โค้งสุดท้ายปลายปี ดีมานด์พุ่ง!! 30%
"ดีพร้อม" ปลุกพลังสร้างสุข ดัน SMEs เข้าร่วมกิจกรรม เลิกเหล้า-บุหรี่ ออมเงิน ได้ผลกว่า 17 ล้าน ขึ้นแท่น วิสาหกิจต้นแบบ SHAP ประจำปี 2567
"ดีพร้อม" เสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยสายแฟชั่น ดึงซอฟต์พาวเวอร์ เสริมอัตลักษณ์ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมชี้ 3 เทรนด์ที่ต้องเร่งปรับตัวตาม
ดีพร้อมจัดใหญ่ 'มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย: Thai Vibe by DIPROM' โชว์ซอฟต์พาวเวอร์อาหารและแฟชั่นไทย สร้างอนาคตใหม่ให้ SMEs คาดดึงคน 30,000 รายเข้างาน กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับ วว. / THACCA เชิญชวนร่วมกิจกรรมการเชื่อมโยงสู่เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางการตลาด ฟรี!!