กลุ่มบริษัทภิรัชบุรี ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ก้าวสู่ความสำเร็จอีกขั้นการพิชิตความท้าทายด้านวิศวกรรมในโครงการส่วนขยายศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค สถานที่จัดงานแสดงสินค้า นิทรรศการและการประชุมชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย
โดยกลุ่มบริษัทภิรัชบุรีทำงานร่วมกับบริษัทออเรคอน (Aurecon) บริษัทที่ปรึกษาด้านงานวิศวกรรมที่มีผลงานออกแบบโครงการก่อสร้างที่มีความพิเศษเชิงโครงสร้างมากมายทั่วโลก รวมถึง สนามกีฬาเวมบลีย์ (Wembley Stadium) ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยความท้าทายที่สำคัญของโครงการส่วนขยาย ไบเทค นั้น คือโครงสร้างหลังคาเหล็กในส่วนพื้นที่โถงแสดงสินค้าและนิทรรศการ (อีเว้นท์ฮอลล์ 100) ด้วยความยาวพิเศษมากกว่า 108 เมตร และสูงถึง 25 เมตร จึงจำเป็นต้องออกแบบอาคารดังกล่าวแบบไร้เสาเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้พื้นที่จัดงานสำคัญต่างๆได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งงานคอนเสิร์ตเวิล์ดทัวร์ระดับโลก งานเพื่อความบันเทิงต่างๆ ตลอดจนงานแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่
"การก่อสร้างอาคารไร้เสาที่มีขนาดพื้นที่รวมกว่า 9,000 ตารางเมตร นับเป็นงานที่ท้าทายมาก เราต้องสร้างหลังคาให้มีความแข็งแรงทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของ
ไบเทคได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นที่มาในการใช้โครงสร้างหลังคาซุปเปอร์ ทรัส แบบใช้สายเคเบิลยึดโยง (cable-stayed Super Truss) ที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทย โดยโครงการนี้ถือเป็นการใช้ศักยภาพและประสบการณ์การทำงานวิศวกรรมระดับโลกของออเรคอนมาปรับใช้ให้เข้ากับการออกแบบของวิศวกรไทยและการปฏิบัติงานของผู้รับเหมาไทยจนเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่ พวกเราภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก" นายธิติ อาริยะกุล ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท ออเรคอน คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
โครงหลังคาซุปเปอร์ ทรัส (Super Truss) นวัตกรรมล่าสุดนี้ ทำให้โครงการไบเทคมีพื้นที่รวมทั้งหมด 70,000 ตารางเมตร เป็นผู้นำในด้านศูนย์แสดงสินค้า นิทรรศการและการประชุมในภูมิภาคเอเชีย
โครงการไบเทคให้บริการพื้นที่จัดงานที่หลากหลายทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยครบครัน ทั้งระบบการเชื่อมต่อและการเข้าถึงที่มีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปฏิบัติงานมืออาชีพให้บริการบนพื้นที่จัดงานระดับเฟริสต์คลาสที่สามารถรองรับการจัดงานได้ทุกขนาด โครงการไบเทคยังมีจุดเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบางนา ผู้จัดงานและผู้เยี่ยมชมงานสามารถเดินทางไปยังย่านธุรกิจและโรงแรมต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังมีบริการร้านอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย จึงทำให้ไบเทคเป็นสถานที่งานแสดงสินค้าและการประชุมแบบครบวงจรที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มผู้จัดงานต่างๆ
ดร.ประสาน ภิรัช บุรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทภิรัชบุรี กล่าวว่า "โครงการส่วนขยายดังกล่าว จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมการประชุมนานาชาติและการจัดนิทรรศการ หรือ ไมซ์ ในภูมิภาคอาเซียน และเป็นการเพิ่มศักยภาพของเราในการช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าให้สามารถสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่สำคัญผ่านการจัดประชุมและงานแสดงสินค้ารวมถึงการจัดงานคอนเสิร์ตระดับโลก สิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ ทำให้ไบเทคเป็นโครงการที่สามารถให้บริการผู้จัดงานแสดงสินค้าและกลุ่มที่มีบาบาทสำคัญในอุตสาหกรรมไมซ์ได้เพิ่มมากขึ้น ด้วยพื้นที่ใหม่ที่มีความทันสมัยผนวกกับบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพในปัจจุบัน นั้นเป็นเพียงก้าวแรกของไบเทคในฐานะผู้นำการให้บริการสถานที่จัดงานชั้นนำระดับภูมิภาค"
สำหรับโครงการส่วนขยายไบเทค เฟส 2 จะมีพื้นที่สำหรับจัดงานทั้งหมด 37,800 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ 32,000 ตารางเมตร และมีพื้นที่สำหรับการจัดงานประชุมและคอนเวนชั่นขนาด 5,800 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ 3 ห้อง ห้องคอนเวนชั่นฮอล์ล 3 ห้อง และห้องประชุม 12 ห้อง รวมทั้งพื้นที่อำนวยความสะดวกด้านธุรกิจ พื้นที่จำหน่ายสินค้าและร้านอาหาร สามารถรองรับการจอดรถภายในอาคารได้กว่า 2,600 คัน และลานจอดเฮลิคอปเตอร์ โครงการไบเทค เฟส 2 เป็นโครงการที่มีพื้นที่จอกรถใต้ดินขนาดสามชั้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หรือเทียบเท่ากับสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกจำนวน 94 สระ
โครงการไบเทค เฟส 2 จะเสร็จสมบูรณ์ปลายปีพ.ศ. 2559 และจะสามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ ในประเทศไทย และส่งเสริมให้ไบเทคก้าวขึ้นเป็นศูนย์จัดแสดงสินค้าและการประชุมครบวงจรชั้นนำที่น่าสนใจที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
โดยกลุ่มบริษัทภิรัชบุรีทำงานร่วมกับบริษัทออเรคอน (Aurecon) บริษัทที่ปรึกษาด้านงานวิศวกรรมที่มีผลงานออกแบบโครงการก่อสร้างที่มีความพิเศษเชิงโครงสร้างมากมายทั่วโลก รวมถึง สนามกีฬาเวมบลีย์ (Wembley Stadium) ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยความท้าทายที่สำคัญของโครงการส่วนขยาย ไบเทค นั้น คือโครงสร้างหลังคาเหล็กในส่วนพื้นที่โถงแสดงสินค้าและนิทรรศการ (อีเว้นท์ฮอลล์ 100) ด้วยความยาวพิเศษมากกว่า 108 เมตร และสูงถึง 25 เมตร จึงจำเป็นต้องออกแบบอาคารดังกล่าวแบบไร้เสาเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้พื้นที่จัดงานสำคัญต่างๆได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งงานคอนเสิร์ตเวิล์ดทัวร์ระดับโลก งานเพื่อความบันเทิงต่างๆ ตลอดจนงานแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่
"การก่อสร้างอาคารไร้เสาที่มีขนาดพื้นที่รวมกว่า 9,000 ตารางเมตร นับเป็นงานที่ท้าทายมาก เราต้องสร้างหลังคาให้มีความแข็งแรงทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของ
ไบเทคได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นที่มาในการใช้โครงสร้างหลังคาซุปเปอร์ ทรัส แบบใช้สายเคเบิลยึดโยง (cable-stayed Super Truss) ที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทย โดยโครงการนี้ถือเป็นการใช้ศักยภาพและประสบการณ์การทำงานวิศวกรรมระดับโลกของออเรคอนมาปรับใช้ให้เข้ากับการออกแบบของวิศวกรไทยและการปฏิบัติงานของผู้รับเหมาไทยจนเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่ พวกเราภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก" นายธิติ อาริยะกุล ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท ออเรคอน คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
โครงหลังคาซุปเปอร์ ทรัส (Super Truss) นวัตกรรมล่าสุดนี้ ทำให้โครงการไบเทคมีพื้นที่รวมทั้งหมด 70,000 ตารางเมตร เป็นผู้นำในด้านศูนย์แสดงสินค้า นิทรรศการและการประชุมในภูมิภาคเอเชีย
โครงการไบเทคให้บริการพื้นที่จัดงานที่หลากหลายทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยครบครัน ทั้งระบบการเชื่อมต่อและการเข้าถึงที่มีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปฏิบัติงานมืออาชีพให้บริการบนพื้นที่จัดงานระดับเฟริสต์คลาสที่สามารถรองรับการจัดงานได้ทุกขนาด โครงการไบเทคยังมีจุดเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบางนา ผู้จัดงานและผู้เยี่ยมชมงานสามารถเดินทางไปยังย่านธุรกิจและโรงแรมต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังมีบริการร้านอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย จึงทำให้ไบเทคเป็นสถานที่งานแสดงสินค้าและการประชุมแบบครบวงจรที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มผู้จัดงานต่างๆ
ดร.ประสาน ภิรัช บุรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทภิรัชบุรี กล่าวว่า "โครงการส่วนขยายดังกล่าว จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมการประชุมนานาชาติและการจัดนิทรรศการ หรือ ไมซ์ ในภูมิภาคอาเซียน และเป็นการเพิ่มศักยภาพของเราในการช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าให้สามารถสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่สำคัญผ่านการจัดประชุมและงานแสดงสินค้ารวมถึงการจัดงานคอนเสิร์ตระดับโลก สิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ ทำให้ไบเทคเป็นโครงการที่สามารถให้บริการผู้จัดงานแสดงสินค้าและกลุ่มที่มีบาบาทสำคัญในอุตสาหกรรมไมซ์ได้เพิ่มมากขึ้น ด้วยพื้นที่ใหม่ที่มีความทันสมัยผนวกกับบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพในปัจจุบัน นั้นเป็นเพียงก้าวแรกของไบเทคในฐานะผู้นำการให้บริการสถานที่จัดงานชั้นนำระดับภูมิภาค"
สำหรับโครงการส่วนขยายไบเทค เฟส 2 จะมีพื้นที่สำหรับจัดงานทั้งหมด 37,800 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ 32,000 ตารางเมตร และมีพื้นที่สำหรับการจัดงานประชุมและคอนเวนชั่นขนาด 5,800 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ 3 ห้อง ห้องคอนเวนชั่นฮอล์ล 3 ห้อง และห้องประชุม 12 ห้อง รวมทั้งพื้นที่อำนวยความสะดวกด้านธุรกิจ พื้นที่จำหน่ายสินค้าและร้านอาหาร สามารถรองรับการจอดรถภายในอาคารได้กว่า 2,600 คัน และลานจอดเฮลิคอปเตอร์ โครงการไบเทค เฟส 2 เป็นโครงการที่มีพื้นที่จอกรถใต้ดินขนาดสามชั้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หรือเทียบเท่ากับสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกจำนวน 94 สระ
โครงการไบเทค เฟส 2 จะเสร็จสมบูรณ์ปลายปีพ.ศ. 2559 และจะสามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ ในประเทศไทย และส่งเสริมให้ไบเทคก้าวขึ้นเป็นศูนย์จัดแสดงสินค้าและการประชุมครบวงจรชั้นนำที่น่าสนใจที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
บมจ. เออาร์ไอพี เปิดงาน "COMMART UNBOX" 27 - 30 พ.ย. 2568 มหกรรมสินค้าไอทีส่งท้ายปี ณ ไบเทค บางนา
TM จัดโปรโมชั่นส่งท้ายปี 68 ลดราคาสินค้าผู้สูงอายุและเพื่อสุขภาพ สูงสุดถึง 20% เฉพาะซื้อในงานThailand Friendly Design Expo 2025
TM จัดโปรโมชั่นส่งท้ายปี 68 ลดราคาสินค้าผู้สูงอายุและเพื่อสุขภาพ สูงสุดถึง 20% เฉพาะซื้อในงานThailand Friendly Design Expo 2025
SNPS ร่วมเสวนา "Green to Blue" เปิดมุมมองความงามยั่งยืน บนเวที COSMEX 2025
SNPS ร่วมจัดแสดงสินค้างาน In-Cosmetics Asia 2025 โชว์นวัตกรรมธรรมชาติระดับโลก เสริมศักยภาพความร่วมมือสู่อนาคตที่ยั่งยืน
กรมทรัพย์สินทางปัญญาหนุนธุรกิจอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ในงาน "Licensing Show ASEAN 2025" ดันทรัพย์สินทางปัญญาไทยสู่ตลาดโลก
เฮอร์บาไลฟ์ ประเทศไทย ร่วมยกระดับส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพและโภชนาการในงานประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 18
สจล. เปิดระบบสมัครเรียนต่อแบบใหม่ "iFolio" เป็นมหาวิทยาลัยแรกของประเทศ
'amco ANTI SLIP' วิศวกรรมแผ่นกันลื่นแอมโค ส่งมอบความปลอดภัยที่ยั่งยืนสู่อุตสาหกรรมไทย ในงาน SISTAM 2025