นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในระยะนี้หลายพื้นที่มีฝนตกกระจาย และฝนตกหนักบางพื้นที่ จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณที่มีฝนตกหนักส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร ตาก จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกในระยะนี้ไปจนถึงช่วงวันที่ 2 – 4 มิถุนายน 2559 เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้มีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกลดลง แต่ช่วงวันที่ 5 - 7 มิถุนายน 2559 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปภ. จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมืออันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก โดยตรวจสอบท่อ ทางระบายน้ำมิให้มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย นอกจากนี้ ในช่วง 1 – 2 วันที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครและจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางมีฝนตกในช่วงกลางคืนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ซึ่งสภาพถนนที่เปียกลื่น และมีน้ำท่วมขังผิวการจราจร ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง จึงขอให้ผู้ขับขี่ใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูง เพื่อป้องกันรถเสียหลักลื่นไถลออกนอกเส้นทาง ก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้ร่วมใช้เส้นทาง
นายฉัตรชัยฯ กล่าวต่อไปว่า แม้หลายพื้นที่จะมีฝนตก แต่ส่วนใหญ่ฝนตกบริเวณใต้เขื่อน จึงไม่สามารถเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อน โดยเฉพาะเขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนน้อยกว่าปริมาณน้ำที่ระบายออก โดยปัจจุบัน (2 มิถุนายน 2559) มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 38 จังหวัด 243 อำเภอ 1,271 ตำบล 10,165 หมู่บ้าน แบ่งเป็น จังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภค 12 จังหวัด จังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำเพื่อการเกษตร 8 จังหวัด และจังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภคและ น้ำเพื่อการเกษตร 18 จังหวัด อีกทั้งมีแนวโน้มเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงระหว่างปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม 2559 จึงขอความร่วมมือ ให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด กักเก็บน้ำและสำรองน้ำไว้อุปโภคบริโภค ส่วนเกษตรกรให้วางแผนการเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ เพื่อป้องกันผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th
                            
                            NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
                        
                            เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
                        
                            SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
                        
                            มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
                        
                            NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
                        
                            ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
                        
                            NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
                        
                            NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง
                        
                            ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์