มูลนิธิเอสซีจีเปิดเวที Young Thai Artist Award พื้นที่โชว์ของสำหรับคนรักศิลปะ

06 Jun 2016
ถ้าจะพูดถึงเวทีการประกวดศิลปะสำหรับเยาวชนในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา เชื่อว่าหนึ่งในเวทีที่อยู่ในใจของศิลปิน ตลอดจนน้องๆ คนรักศิลปะ คงจะไม่พ้นโครงการรางวัลยุวศิลปินไทย หรือ Young Thai Artist Award เวทีการประกวดศิลปะสำหรับเยาวชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นเวทีที่บุกเบิกกรุยทางในเรื่องสนับสนุนและพัฒนาความสามารถด้านศิลปะของเยาวชนลำดับต้นๆ เปิดมิติใหม่ให้เยาวชนในวงการศิลปะของไทยได้มีพื้นที่แสดงผลงานให้แพร่หลายอย่างกว้างขวาง ถือได้ว่าเป็นปฐมบทในการสร้างศิลปินเลือดใหม่ในการรังสรรรค์ผลงานศิลปะเพื่อจรรโลงสังคม

"ด้วยเชื่อมั่นในคุณค่าของคน มูลนิธิเอสซีจี จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยเน้นที่เด็กและเยาวชน และตระหนักเสมอมาว่าเยาวชนแต่ละคนนั้นมีความสามารถที่แตกต่างกันจึงควรได้รับการสนับสนุนพัฒนาศักยภาพของตนอย่างเต็มกำลัง เช่นเดียวกับความสามารถด้านศิลปะ จึงได้ริเริ่มโครงการรางวัลยุวศิลปินไทย มาตั้งแต่ปี 2547เพื่อให้เวทีแห่งนี้เป็นโอกาสสานฝันให้เยาวชนผู้รักงานศิลป์จากทั่วประเทศได้ส่งผลงานสร้างสรรค์เข้าประชันเชิงชั้นด้านศิลปะถึง 6 สาขาได้แก่ สาขาศิลปะ 2 มิติ ศิลปะ 3 มิติ ภาพถ่าย ภาพยนตร์ วรรณกรรม และการประพันธ์ดนตรี ถือเป็นเวทีเจียระไนเพชรน้ำงามสร้างศิลปินรุ่นเยาว์ให้เติบโตบนเส้นทางศิลปะ และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพวงการศิลปะไทยให้ก้าวไปสู่การยอมรับในระดับสากล"สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าว

เป็นเวลากว่า 12 ปีที่โครงการรางวัลยุวศิลปินไทยได้บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ศิลปินรุ่นใหม่ให้เติบโตบนเส้นทางสายศิลปะ แสดงศักยภาพสู่สาธารณชนและเติบใหญ่เป็นต้นศิลป์ยืนตระหง่านประดับวงการศิลปะทั้งไทยและต่างประเทศ อย่าง นัท กรีรัฐ สุนิศทรามาศ ช่างภาพชื่อดังแห่งมหานครนิวยอร์ค ที่เคยโชว์ของกับเวทีนี้กล่าวถึงการเดินทางบนถนนศิลปะระดับโลกว่า "จุดเริ่มต้นของความสนใจในศิลปะของผมมีมาตั้งแต่สมัยเด็กช่วงที่เรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แล้วเดินเข้าไปชมงานในหอศิลป์ ผมเห็นรูปวาดพู่กันของอาจาย์ถวัล ดัชนี มันดูทรงพลัง มันมีคุณค่า ทำให้ผมหยุดดูอยู่เป็นเวลานานอย่างมีความสุข ผมคิดว่าผมหลงรักศิลปะตั้งแต่ตอนนั้น สำหรับผม เวที Young Thai Artist Award เป็นเวทีการประกวดศิลปะระดับเยาวชนที่ได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพ ผมจึงสนใจที่จะส่งผลงานให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ดู หลังการตัดสินผมได้รับรางวัลดีเด่น สาขาภาพถ่าย ปี 2551 ซึ่งเป็นรางวัลที่ผมภาคภูมิใจ ทำให้ผมมั่นใจในผลงานของตัวเอง และกล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าผลงานของเราดี มีคุณค่า ทำให้ครอบครัวสนับสนุนการเดินทางไปเรียนต่อในต่างประเทศ โครงการนี้จึงเป็นเหมือนแสงสว่างที่ทำให้เรามองเห็นอนาคต มีความมั่นใจในการสร้างผลงาน มีกำลังใจในทางเดินที่เราเลือกเป็นศิลปิน ระหว่างเรียนผมยังได้มีโอกาสโชว์ผลงานตามแกลลอรี่ต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ปัจจุบันผมทำงานเป็นช่างภาพให้กับนิตยสารต่างๆ ทั้งทางฝั่งอเมริกาและยุโรป มีโอกาสทำงานกับโมเดลเอเจนซี่ดังๆ ระดับโลกหลายแห่ง"

ด้านนุชี่ อนุชา บุญยวรรธนะ ผู้กำกับภาพยนตร์สายเลือดใหม่ของวงการแผ่นฟิล์ม ผู้เคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยม สาขาภาพยนตร์ ปี 2547จากเวทีนี้ก็เล่าถึงประสบการณ์การเดินทางสู่ความสำเร็จว่า "ตัวเองมีความสนใจในเรื่องศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ทั้งวาดรูป เล่นดนตรี และพับกระดาษ แต่ก็ยังไม่แน่ชัดนักว่าอยากสร้างงานศิลปะแขนงไหน จนมาเริ่มสนใจในศิลปะการทำภาพยนตร์ ทำให้ตัดสินใจเข้าเรียนในสายนี้ และมีโอกาสส่งผลงานภาพยนตร์สั้นเรื่อง "ตามสายน้ำ" เข้าร่วมประกวดโครงการ Young Thai Artist Award และได้รับรางวัล ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจมาก รวมถึงผลงานดังกล่าวยังได้มีโอกาสไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์สั้นที่ฮ่องกง ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส มากไปกว่านั้นยังได้รับการจัดจำหน่ายในรูปแบบดีวีดีที่ประเทศไทย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งในยุคนั้นถือว่าเป็นภาพยนตร์ของนิสิตนักศึกษาที่ประสบความสำเร็จมาก หลังจากนั้นก็คลุกคลีอยู่ในแวดวงโฆษณาและทำหนังของตัวเอง จนล่าสุดภาพยนตร์ยาวเรื่องแรก เรื่อง อนธการ (The Blue Hour) ได้รับการคัดเลือกให้ฉายที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน และยังได้รับ 2 รางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแฟนเทเชีย เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเฟสท์ (กรุงเบลเกรด) อีกด้วย โดยส่วนตัวคิดว่าการสร้างผลงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตของศิลปินทุกคน เราจำเป็นต้องมีเวทีเพื่อแสดงผลงาน เพื่อที่จะได้มีโอกาสเรียนรู้ รับทราบถึงผลตอบรับว่าแนวคิดและวิธีการที่เราเลือกใช้ส่งผลอย่างไรกับผู้ชม Young Thai Artist Award เปิดโอกาสให้เราได้ฟังความเห็น คำวิจารณ์จากทั้งผู้ชม เพื่อน และศิลปินรุ่นพี่จากหลากหลายสาขา จึงเป็นโอกาสดีที่อยากจะชวนน้องๆ ส่งผลงานเข้ามาร่วมประกวด เพราะการศึกษา พินิจ พิเคราะห์ผลงานศิลปะ โดยเฉพาะผลงานของตนเองเป็นส่วนสำคัญมากในการพัฒนาเอกลักษณ์ของศิลปินในอนาคต"

ด้าน กรีรัฐ สุนิศทรามาศ กล่าวเสริมชักชวนน้องๆ ให้ส่งผลงานเข้าประกวดในปีนี้ว่า "อยากจะเชิญชวนน้องๆ ทุกคนที่มีความสนใจในงานศิลปะ มาร่วมส่งผลงานเข้าประกวดกันเยอะๆ การที่เราเอาผลงานไปแสดงให้ผู้อื่นได้ชมนั้นถือเป็นความสำเร็จแล้ว รางวัลเป็นเพียงส่วนประกอบ ผลงานที่สร้างขึ้นมา แต่ไม่มีโอกาสให้คนอื่นได้ชม ผมว่ามันเป็นเรื่องน่าเศร้ามากกว่า เพราะฉะนั้นมาโชว์ของกันนะครับ"โครงการรางวัลยุวศิลปินไทย หรือ Young Thai Artist Award เวทีของคนโชว์ของ ถือเป็นใบเบิกทางที่จะทำให้คนรู้จักคุณ เห็นผลงานของคุณ และชื่นชมผลงานของคุณ และเป็นก้าวย่างที่สำคัญทำให้คุณมีโอกาสเป็นศิลปิน ซึ่งในปีนี้เปิดพื้นที่ให้คนโชว์ของ ประลองเชิงชั้นศิลปะ พร้อมกันแล้วทั่วประเทศ ใครมีความสามารถทั้งทัศนศิลป์ คีตศิลป์ วรรณศิลป์ ไม่ควรพลาด สนใจร่วมพิสูจน์สามารถของตัวเองติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.scgfoundation.org หรือโทร 025865214 สนใจติดตามความเคลื่อนไหวโครงการฯ คลิก www.facebook.com/YoungThaiArtistAward