บมจ. บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ เริ่มซื้อขายใน mai 11 ก.ค. นี้

08 Jul 2016
บมจ. บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ (BTW) ผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็ก พร้อมเข้าซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์mai 11 ก.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,835 ล้านบาท
บมจ. บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ เริ่มซื้อขายใน mai 11 ก.ค. นี้

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ (BTW) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างในวันที่ 11 กรกฎาคม 2559 โดย BTWประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) มีบริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นบริษัทแกนซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็ก (Steel Fabrication) สำหรับงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมหนักทั้งในและต่างประเทศเช่น อุตสาหกรรมเหมืองแร่ ก๊าซและปิโตรเลียม และพลังงาน ทั้งนี้บริการของบริษัทแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่งานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ (Modularization) และงานแปรรูปชิ้นงานเหล็ก (Parts Fabrication)

BTW มีทุนชำระแล้ว 378 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน156 ล้านหุ้น เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2559 ในราคาหุ้นละ 3.75 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 585 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,835 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายโชติก รัศมีทินกรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ (BTW) เปิดเผยว่า BTW มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าด้วยการส่งมอบชิ้นงานที่มีคุณภาพและตรงตามกำหนดเวลา บริษัทฯ มีการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานในระดับสากล ทั้งนี้ การนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า และสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต โดย BTW จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ปรับปรุงพื้นที่โรงงานสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์ ชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

นอกจากนี้ BTW ยังมีบริษัทย่อยอีก 3 แห่ง ซึ่งยังไม่ได้เริ่มดำเนินธุรกิจ ได้แก่ บริษัท บีที แอนด์ อาวล์ โซลาร์ 1 จำกัด บริษัท โกลบอล คลีน เอ็นเนอร์จี จำกัด ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจด้านพลังงานในอนาคต และบริษัท เบสท์เทค อินดัสตรีส์ จำกัด เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตของธุรกิจให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็กด้วย

BTW มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวศาตวินท์ ถือหุ้น 51.59% ครอบครัวรัศมีทินกรกุล ถือหุ้น27.78% และนางสุจิตรา มนต์เสรีนุสรณ์ ถือหุ้น 0.66% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 10.53 เท่า คำนวณจากผลกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (1 เม.ย. 2558-31 มี.ค. 2559) ซึ่งเท่ากับ 269.22 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.36 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.btwealthindustries.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th