ไม่ว่าเมื่อไหร่ เพลงพิเศษจากปลายปากกาของ “บอย โกสิยพงษ์” ถ่ายทอดออกมาโดย “Room39”
ทุกวันนี้คนเรามักมีความกังวลและคอยเป็นห่วงใยหลายๆเรื่องอยู่ตลอดเวลา เมื่อ "บอย โกสิยพงษ์" ได้รับโอกาสให้แต่งเพลงที่พูดถึงเรื่องความเป็นห่วง ความกังวลนี้ โดยที่จริงๆแล้วชีวิตของเรามีทางเลือกที่จะไม่ต้องกังวล และเราสามารถส่งต่อทางเลือกนี้ให้กับคนที่เรารักและเป็นห่วงได้อีกด้วย หลังจากนั้นบอย โกสิยพงษ์ก็นำโจทย์นี้มาคิดอยู่สองสามคืนและได้ผลลัพธ์ว่าจะแต่งเพลงนี้ออกมาในรูปแบบ "นิทานเพลง"
บอย โกสิยพงษ์ ได้เล่าถึงที่มาของเพลงนี้ว่า"เพลงนี้แต่งขึ้นมาในแบบของการเล่านิทานโดยมีคู่รักอยู่คู่หนึ่ง นางเอกโดนคำสาปที่ทำให้การใช้มือเท้าสายตาและสมองไม่ทำงานสอดคล้องกัน พระเอกก็อาสาเป็นคน
ที่ช่วยเธอทำหน้าที่เหล่านั้นเอง ซึ่งในแง่ของการถ่ายทอด วง Room39 ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย โดย แว่นใหญ่ รับบทนักเล่าเรื่อง ทอม รับบทพระเอกผู้แสนทุ่มเทเพื่อความรัก ส่วน มน ก็รับบท นางเอกผู้น่าสงสารแต่กลับเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดที่มีคนที่รักเธอเช่นนี้ และในแง่ของดนตรี ผมได้เริ่ม พัฒนาเพลงนี้ด้วยแรงบันดาลใจจากเพลงที่เป็นหนึ่งใน icon ของยุค 90 set a drift on memory bliss จาก วง pm dawn ซึ่งเสน่ห์ของเพลงนี้ ทางวงได้ sample riff guitar ของเพลงยอดนิยมที่สุดจากยุค 80, true โดยวง spandauballet ซึ่งถ้าใครที่เติบโตมาในยุคเหล่านั้นย่อมต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี"
ในส่วนของ Room39 ได้เล่าถึงความรู้สึกที่ได้มาถ่ายทอดเพลงนี้ว่า "รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำงานอีก รูปแบบทั้งดนตรี, เนื้อหาและการร้องที่แปลกกว่าทุกเพลงที่เคยร้อง ซึ่งต้องพยายามถ่ายทอดอารมณ์ เล่าเรื่องราวออกมาให้ตรงกับที่พี่บอยเขียนไว้ เรียกว่าเป็นเพลงที่ท้าทายและสนุกกับการได้ทำงาน มากๆอีกเพลงหนึ่งครับ ส่วนในเนื้อหาเพลงรู้สึกถึงความรักที่ฝ่ายชายมีต่อฝ่ายหญิง เป็นความรักที่ บริสุทธิ์ที่จะมอบให้แก่ฝ่ายหญิงโดยไม่สนว่าฝ่ายหญิงต้องคำสาปอะไร เพราะความรักโดยไม่หวัง ผลตอบแทนนี้เอง ทำให้รู้สึกประทับใจกับเนื้อเพลงนี้มาก"
ขอขอบคุณ Samsung Galaxy S7
สามารถรับชมเอ็มวีเพลง "ไม่ว่าเมื่อไหร่" ได้แล้วผ่านทาง www.youtube.com/LoveisChannel
บอย โกสิยพงษ์ ได้เล่าถึงที่มาของเพลงนี้ว่า"เพลงนี้แต่งขึ้นมาในแบบของการเล่านิทานโดยมีคู่รักอยู่คู่หนึ่ง นางเอกโดนคำสาปที่ทำให้การใช้มือเท้าสายตาและสมองไม่ทำงานสอดคล้องกัน พระเอกก็อาสาเป็นคน
ที่ช่วยเธอทำหน้าที่เหล่านั้นเอง ซึ่งในแง่ของการถ่ายทอด วง Room39 ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย โดย แว่นใหญ่ รับบทนักเล่าเรื่อง ทอม รับบทพระเอกผู้แสนทุ่มเทเพื่อความรัก ส่วน มน ก็รับบท นางเอกผู้น่าสงสารแต่กลับเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดที่มีคนที่รักเธอเช่นนี้ และในแง่ของดนตรี ผมได้เริ่ม พัฒนาเพลงนี้ด้วยแรงบันดาลใจจากเพลงที่เป็นหนึ่งใน icon ของยุค 90 set a drift on memory bliss จาก วง pm dawn ซึ่งเสน่ห์ของเพลงนี้ ทางวงได้ sample riff guitar ของเพลงยอดนิยมที่สุดจากยุค 80, true โดยวง spandauballet ซึ่งถ้าใครที่เติบโตมาในยุคเหล่านั้นย่อมต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี"
ในส่วนของ Room39 ได้เล่าถึงความรู้สึกที่ได้มาถ่ายทอดเพลงนี้ว่า "รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำงานอีก รูปแบบทั้งดนตรี, เนื้อหาและการร้องที่แปลกกว่าทุกเพลงที่เคยร้อง ซึ่งต้องพยายามถ่ายทอดอารมณ์ เล่าเรื่องราวออกมาให้ตรงกับที่พี่บอยเขียนไว้ เรียกว่าเป็นเพลงที่ท้าทายและสนุกกับการได้ทำงาน มากๆอีกเพลงหนึ่งครับ ส่วนในเนื้อหาเพลงรู้สึกถึงความรักที่ฝ่ายชายมีต่อฝ่ายหญิง เป็นความรักที่ บริสุทธิ์ที่จะมอบให้แก่ฝ่ายหญิงโดยไม่สนว่าฝ่ายหญิงต้องคำสาปอะไร เพราะความรักโดยไม่หวัง ผลตอบแทนนี้เอง ทำให้รู้สึกประทับใจกับเนื้อเพลงนี้มาก"
ขอขอบคุณ Samsung Galaxy S7
สามารถรับชมเอ็มวีเพลง "ไม่ว่าเมื่อไหร่" ได้แล้วผ่านทาง www.youtube.com/LoveisChannel
ข่าวไม่ว่าเมื่อไหร่+บอย โกสิยพงษ์วันนี้
“ไม่ว่าเมื่อไหร่” นิทานเพลงเรื่องใหม่ ส่งต่อความห่วงใย ได้ บอย โกแต่ง Room39 ร้อง จากแรงบันดาลใจจาก Samsung Galaxy S7
นับเป็นการแต่งเพลงในอีกรูปแบบของ บอย โกสิยพงษ์ หลังจากได้รับโอกาสให้แต่งเพลงที่พูดถึงชีวิตของคนเรามีทางเลือกที่จะไม่ต้องกังวล และเราสามารถส่งต่อทางเลือกนี้ให้กับคนที่เรารักและเป็นห่วงได้อีกด้วย บอย โกสิยพงษ์นำโจทย์นี้มาคิดอยู่สองสามคืนและได้ผลลัพธ์ว่าจะแต่งเพลงนี้ออกมาในรูปแบบ นิทานเพลงโดยใช้ชื่อเพลงว่า "ไม่ว่าเมื่อไหร่" ซึ่งได้วงรูม39 เป็นผู้ถ่ายทอดเพลงนี้ ได้อย่างไพเราะ บอยเผยว่า "นิทานเพลงของผมเล่าว่ามีคู่รักอยู่คู่หนึ่งนางเอกโดนคำสาปที่ทำให้การใช้มือเท้าสายตาและสมองไม่ทำงานสอดคล้องกัน พระ
ศิริราช ร่วมกับ ป.ปัน วิสาหกิจเพื่อสังคม กลุ่มเซ็นทรัล และพันธมิตร จับมือ 20 ศิลปิน ในโครงการ "Pass the Hope Forward" สร้างโอกาสใหม่ให้ผู้ป่วย ผ่าน โปสการ์ดแห่งความหวัง
ศิริราช ร่วมกับ ป.ปัน วิสาหกิจเพื่อสังคม และพันธมิตร จับมือ 20 ศิลปิน ในโครงการ "Pass the Hope Forward" สร้างโอกาสใหม่ให้ผู้ป่วย ผ่าน โปสการ์ดแห่งความหวัง