จากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงว่าช่วงก่อนที่พลอากาศเอกสุกำพล จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีผู้ร้องเรียนเพื่อขอให้ถอดยศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเรียกคืนเงินเดือนและเบี้ยหวัด ต่อมาเมื่อพลอากาศเอกสุกำพล เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้น ซึ่งผลการสอบสวนสรุปได้ว่าเอกสารต้นขั้วใบสำคัญ (แบบ สด.๙) ลงวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๒๙ แบบ สด.๑ และ แบบ สด.๒๗ ฉบับจริง ทั้ง ๓ ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกันว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าบัญชีทหารกองเกิน เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๒๙ แต่ในการขึ้นทะเบียนทหาร กองประจำการ ได้ใช้เอกสารใบสำคัญ (แบบ สด.๙) (แทนฉบับที่ชำรุดสูญหาย) ลงวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๓๑ ไม่ใช่ฉบับลงวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๒๙ ในการขึ้นทะเบียน จึงเป็นการไม่ถูกต้อง ทำให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการฯ เพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งการเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการดังกล่าว ได้มีการหารือข้อกฎหมายไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว การเสนอแต่งตั้งได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนการปฏิบัติราชการและผ่านสายการบังคับบัญชาตามปกติ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๕ มาตรา ๙ แห่ง พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ๒๕๕๑ การแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการดังกล่าว จึงเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย
การดำเนินการของคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการฯ เป็นไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามคำสั่งแต่งตั้ง โดยมีการตรวจสอบยืนยันความถูกต้องของเอกสาร มีการนำความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณา มีการพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีการให้สิทธินายอภิสิทธิ์ ได้เข้าชี้แจงข้อมูลต่อคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการฯ หากไม่สามารถมาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการฯ ได้ ก็สามารถยื่นเป็นเอกสารหลักฐานได้ และไม่มีการคัดค้านบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการฯ แต่อย่างใด ซึ่งไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าได้ดำเนินการรวมรวมพยานหลักฐานมาโดยไม่ชอบแต่อย่างใด โดยขณะนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังเป็นนายทหารนอกราชการ สังกัดจังหวัดทหารบกกรุงเทพ ตามคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ ๘๗๕/๒๕๕๒ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ จึงเป็นนายทหารประเภทที่ ๕ ตามข้อบังคับทหารฯ และสามารถถูกดำเนินการทางวินัยและถูกปลดออกจากราชการได้ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.๒๔๗๖ มาตรา ๕ และตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการบรรจุ ปลด ย้าย เลื่อน และลดตำแหน่งข้าราชการกลาโหม พ.ศ.๒๕๐๒ ข้อ ๔ (๒) ซึ่งผลการสอบสวนของคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการฯ ปรากฏว่านายอภิสิทธิ์ ได้กระทำผิดวินัยทหารร้ายแรง ขณะอยู่ในราชการ จึงเสนอให้สมควรปลดออกจากราชการ และในการเสนอคำสั่งปลดออกจากราชการ ก็เป็นไปตามขั้นตอนโดยผ่านผู้บังคับบัญชาตามสายงานปกติ ประกอบกับศาลแพ่งได้มีคำพิพากษา ในประเด็นดังกล่าวแล้วว่าคำสั่งที่ให้ปลดออกจากราชการเป็นคำสั่งโดยชอบแล้ว จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าพลอากาศเอกสุกำพล ได้เข้ามาสั่งการ แทรกแซง หรือเร่งรัดดำเนินการในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการฯ แต่อย่างใด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการฯ การสอบสวนของคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการฯ และการมีคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากราชการ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
อว. สนับสนุน กระทรวงกลาโหม นำสมรรถนะของบุคลากรวิจัยจากหน่วยงานวิจัยและสถาบันการศึกษา พัฒนานวัตกรรมด้วยงานวิจัยและพัฒนา
มอบรางวัลข่าวและภาพข่าวยอดเยี่ยม "อิศรา อมันตกุล"
'ณัฐ วงศ์พานิช' รับรางวัล CEO of the Year in Restaurant Business Innovation 2024
จินา โอสถศิลป์ CEO จาก GDH รับรางวัล 'CEO of the year in International Film Achievement' จากบางกอกโพสต์
DE-BDI โชว์ความพร้อมแพลตฟอร์ม Health Link เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ "รพ. - คลินิก - ร้านยา" มากกว่า 1,500 แห่ง รองรับ 30 บาทรักษาทุกที่ทั่วกรุง เดินหน้าเพิ่มระบบ 'ส่งต่อผู้ป่วย-การเบิกจ่าย' ในระยะถัดไป
คิง เพาเวอร์ ร่วมสนับสนุนสิ่งของอุปโภค-บริโภค ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
PLANET แสดงศักยภาพเทคโนโลยีด้านความมั่นคง ในงาน "defense & Security 2023"
มอบรางวัล โครงการ "บทเพลงเพื่อชาติ และราชบัลลังก์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566