สคร. 12 สงขลา แนะทำความเข้าใจโรคติดเชื้อไวรัสซิกา

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคที่เกิดจากยุงลายสูงที่สุด เนื่องจากสภาพพื้นที่ที่มีน้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย ทำให้ยุงลายมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงอื่นๆ โรคที่ควรให้ความสนใจในช่วงนี้ นอกจากโรคไข้เลือดออกแล้ว คือโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งแม้ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการไม่รุนแรง แต่การป้องกันตนเองไม่ให้เจ็บป่วยถือเป็นเรื่องที่ประชาคนควรให้ความสำคัญ
          โรคติดเชื้อไวรัสซิก้าไม่ใช่โรคใหม่ เป็นโรคที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย เพราะประเทศไทยรวมทั้งประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนอยู่ในเขตร้อนชื้น จึงมีพาหะนำโรคคือยุงลายอยู่ชุกชุม ที่ผ่านมาประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคไข้ซิกาประปราย กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค แต่ไม่เคยมีการระบาดใหญ่เป็นวงกว้าง เหมือนที่มีรายงานข่าวในต่างประเทศ เช่น บราซิล และในปี 2559 นี้ ประเทศไทยพึ่งเริ่มติดตั้งห้องตรวจปฏิบัติการสำหรับตรวจหาเชื้อซิกา ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นโรคที่ต้องรายงานตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 จึงทำให้ในปีนี้มีรายงานจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถือว่าเป็นการระบาดในวงกว้าง
          อย่างไรก็ตามโรคติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นโรคที่ได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้ ผู้ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังอาจได้รับการตรวจโดยการเจาะเลือด เก็บปัสสาวะ ในกรณีที่ป่วยมายังไม่ถึง 7 วัน หากป่วยนานกว่า 7 วัน จะตรวจเฉพาะปัสสาวะ เนื่องจากเชื้อไวรัสซิก้าสามารถอยู่ในเลือดได้แค่ 7 วัน ตั้งแต่วันเริ่มป่วย ต่อจากนั้นเชื้อจะตรวจพบในปัสสาวะได้ต่อไปอีก 1 เดือน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไข้ต่ำๆ มีผื่นแดงขึ้นตามตัว ตาแดง ปวดข้อ ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวให้รีบมาพบแพทย์
          การติดต่อของโรคนี้เกิดจากการถูกยุงลายที่มีเชื้อกัด คล้ายกับโรคไข้เลือดออก ซึ่งไม่สามารถติดต่อทางลมหายใจหรือจากการสัมผัสทั่วไป ดังนั้นการป้องกันที่สำคัญที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด ส่วนการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พบว่ามีรายงานในต่างประเทศ แต่ในประเทศไทยยังไม่มีรายงานการติดเชื้อไวรัสซิกาผ่านทางเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามผู้ที่เคยติดเชื้อ หากมีเพศสัมพันธ์ควรป้องกันโดยใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง 
          สำหรับหญิงตั้งครรภ์ต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกยุงกัด เนื่องจากมีรายงานในต่างประเทศว่าการติดเชื้อไวรัสซิกาอาจทำให้ทารกแรกเกิดมีความผิดปกติเกิดภาวะศีรษะเล็กได้ โดยเฉพาะการติดเชื้อใน 3-6 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม หญิงตั้งครรภ์พึงระมัดระวังสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้ทารกเกิดความพิการได้ เช่น การสัมผัสสารเคมี การติดเชื้อไวรัส ติดเชื้อปรสิต การใช้สารเสพติด เป็นต้น ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับการฝากครรภ์ และติดตามตลอดการตั้งครรภ์ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ตรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสซิกานั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยสูตินรีแพทย์ เพื่อทำการตรวจวัดขนาดศีรษะของทารกในครรภ์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทารกที่เกิดหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไม่ได้เกิดภาวะศีรษะเล็กทุกราย ดังนั้น คนรอบข้างจะต้องคอยดูแลและเป็นกำลังใจตลอดการตั้งครรภ์ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสซิกาสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
สคร. 12 สงขลา แนะทำความเข้าใจโรคติดเชื้อไวรัสซิกา
 

ข่าวสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่+สำนักงานป้องกันควบคุมโรควันนี้

ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชน ระวัง โรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขัง หลังน้ำลด ไม่ควรเดินลุยน้ำ ย่ำดินโคลน พื้นที่ชื้นแฉะด้วยเท้าเปล่า หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน แนะสวมรองเท้าบูททุกครั้ง หากมีไข้เฉียบพลันหลังลุยน้ำ 1-2 สัปดาห์ มีอาการปวดศีรษะ ปวดน่องและกล้ามเนื้อโคนขา อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) หรือโรคไข้ฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย "เลปโตสไปร่า" (Leptospira) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงข... สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรค มือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กเล็ก — สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนระวังเด็กเล็กป่วยโรคมือ เท...

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงข... สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรคเมลิออยโดสิส เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต — สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้...