โรคติดเชื้อไวรัสซิก้าไม่ใช่โรคใหม่ เป็นโรคที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย เพราะประเทศไทยรวมทั้งประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนอยู่ในเขตร้อนชื้น จึงมีพาหะนำโรคคือยุงลายอยู่ชุกชุม ที่ผ่านมาประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคไข้ซิกาประปราย กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค แต่ไม่เคยมีการระบาดใหญ่เป็นวงกว้าง เหมือนที่มีรายงานข่าวในต่างประเทศ เช่น บราซิล และในปี 2559 นี้ ประเทศไทยพึ่งเริ่มติดตั้งห้องตรวจปฏิบัติการสำหรับตรวจหาเชื้อซิกา ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นโรคที่ต้องรายงานตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 จึงทำให้ในปีนี้มีรายงานจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถือว่าเป็นการระบาดในวงกว้าง
อย่างไรก็ตามโรคติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นโรคที่ได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้ ผู้ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังอาจได้รับการตรวจโดยการเจาะเลือด เก็บปัสสาวะ ในกรณีที่ป่วยมายังไม่ถึง 7 วัน หากป่วยนานกว่า 7 วัน จะตรวจเฉพาะปัสสาวะ เนื่องจากเชื้อไวรัสซิก้าสามารถอยู่ในเลือดได้แค่ 7 วัน ตั้งแต่วันเริ่มป่วย ต่อจากนั้นเชื้อจะตรวจพบในปัสสาวะได้ต่อไปอีก 1 เดือน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไข้ต่ำๆ มีผื่นแดงขึ้นตามตัว ตาแดง ปวดข้อ ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวให้รีบมาพบแพทย์
การติดต่อของโรคนี้เกิดจากการถูกยุงลายที่มีเชื้อกัด คล้ายกับโรคไข้เลือดออก ซึ่งไม่สามารถติดต่อทางลมหายใจหรือจากการสัมผัสทั่วไป ดังนั้นการป้องกันที่สำคัญที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด ส่วนการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พบว่ามีรายงานในต่างประเทศ แต่ในประเทศไทยยังไม่มีรายงานการติดเชื้อไวรัสซิกาผ่านทางเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามผู้ที่เคยติดเชื้อ หากมีเพศสัมพันธ์ควรป้องกันโดยใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกยุงกัด เนื่องจากมีรายงานในต่างประเทศว่าการติดเชื้อไวรัสซิกาอาจทำให้ทารกแรกเกิดมีความผิดปกติเกิดภาวะศีรษะเล็กได้ โดยเฉพาะการติดเชื้อใน 3-6 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม หญิงตั้งครรภ์พึงระมัดระวังสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้ทารกเกิดความพิการได้ เช่น การสัมผัสสารเคมี การติดเชื้อไวรัส ติดเชื้อปรสิต การใช้สารเสพติด เป็นต้น ทั้งนี้ หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับการฝากครรภ์ และติดตามตลอดการตั้งครรภ์ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ตรวจพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสซิกานั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยสูตินรีแพทย์ เพื่อทำการตรวจวัดขนาดศีรษะของทารกในครรภ์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทารกที่เกิดหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไม่ได้เกิดภาวะศีรษะเล็กทุกราย ดังนั้น คนรอบข้างจะต้องคอยดูแลและเป็นกำลังใจตลอดการตั้งครรภ์ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสซิกาสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
สคร.12 สงขลา ผนึกกำลังเครือข่ายสาธารณสุข ลงพื้นที่เฝ้าระวังเชิงรุกและป้องกัน ควบคุมโรคเลปโตสไปโรสิส หลังน้ำลดในพื้นที่ประสบอุทกภัย จังหวัดสงขลา
ฝนตกหนัก สคร.12 สงขลา เตือน โรคและภัยสุขภาพ ที่มากับน้ำท่วม พร้อมแนะวิธีการป้องกัน
สคร.12 สงขลา เตือน ปชช. เตรียมความพร้อมรับมือ หากเกิดน้ำท่วม (อุทกภัย) เน้นย้ำ ติดตามข้อมูลข่าวสารสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง
สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์ วันเบาหวานโลก 2568 "สุขภาพดี เริ่มจากที่ทำงาน"
สคร.12 สงขลา แนะ "ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ พร้อมเน้นย้ำ "หยุด วงจร ไข้หวัดใหญ่ด้วย DMH"
ระวังบุตรหลานจมน้ำ ช่วงหน้าฝนและช่วงปิดเทอม สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด
สคร.12 สงขลา เตือน โรคพิษสุนัขบ้า ติดเชื้อถึงตาย แนะ หากถูกสุนัขกัดให้รีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
สคร.12 สงขลา ชวนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องในวันหัวใจโลก 2568
สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลาน ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV)