เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2559 และ 2558 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 1,178.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.1 เป็นผลจากการลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 23.8 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 92.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.2 ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ธุรกรรมเช่าซื้อและสัญญาเช่าทางการเงิน และ ค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน และรายได้จากการดำเนินงานอื่นลดลง 851.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.7 ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกรรมบริหารเงิน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2559 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2558 ลดลงจำนวน 0.9 ล้านบาทหรือร้อยละ 0.02 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์ สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2559 อยู่ที่ร้อยละ 54.8 ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2558 อยู่ที่ ร้อยละ 57.3 เป็นผลจากการปรับปรุงแผนการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีผนวกกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) อยู่ที่ร้อยละ 3.76 สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2559 ในขณะที่งวดเก้าเดือนปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 3.16 เป็นผลจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
วันที่ 30 กันยายน 2559 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 205.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 216.7 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.8 จากสิ้นปี 2558 ซึ่งมีจำนวน 218.4 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 94.7 จากร้อยละ 91.1 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 9.1 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ร้อยละ 4.2 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 อยู่ที่ร้อยละ 3.1 เนื่องจากความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลงอันเกิดจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโดยรวมยังคงอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล และการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 อยู่ที่ร้อยละ 81.6 ลดลงจากสิ้นปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 106.5 ส่วนเงินสำรองของกลุ่มธนาคาร ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 อยู่ที่จำนวน 7.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 2.8 พันล้านบาท
เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 กันยายน 2559 มีจำนวน 38.1 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 16.2 โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 10.8
ภาพข่าว: บตท. ร่วมมือ ซีไอเอ็มบี ไทย
ภาพข่าว: ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ร่วมฉลองความสำเร็จ บจม.อนันดา ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน มูลค่า 1,000 ล้านบาท
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย นำเสนอแนวคิด 'CIMB Thai Financial Trainer’ ผ่านรูปแบบบูธ Financial Fitness Center พร้อมให้คำปรึกษา สร้างสุขภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งให้ลูกค้า ในงาน Money Expo Bangkok 2016
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2559 จำนวน 327.3 ล้านบาท เติบโต 150.6% จากปี 2558
รมว. คลัง แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ก.ล.ต.