นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยว่า ในวันนี้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้จัดงานสัมมนาการเสริมสร้างความรู้และธรรมาภิบาลของกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจในอนาคต และการเสริมสร้างธรรมาภิบาลของกรรมการและผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำหนดนโยบาย (Policy Maker) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น (Owner) เพื่อมอบนโยบายสำหรับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจในปีงบประมาณ ๒๕๖๐
รัฐวิสาหกิจมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย สะท้อนได้จากรัฐวิสาหกิจมีทรัพย์สินรวมประมาณ ๑๓ ล้านล้านบาท (มูลค่าเท่ากับ GDP ของประเทศ) และมีงบลงทุนคิดเป็นร้อยละ ๕๐ ของการลงทุนภาครัฐ ซึ่งกรรมการและผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายสำคัญของรัฐบาล และของกระทรวงเจ้าสังกัดให้เกิดผลสัมฤทธิ์และบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับรัฐวิสาหกิจ โดยจะต้องดำเนินการภายใต้กฎและระเบียบของผู้กำกับแลรายสาขา (Regulator) อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มอบนโยบายให้แก่กรรมการและผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ ในประเด็นต่างๆ ดังนี้
(๑) กรรมการและผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจต้องเป็นผู้ผลักดันให้รัฐวิสาหกิจสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการของรัฐวิสาหกิจ โดยการยกระดับความโปร่งใสในการบริการจัดการรัฐวิสาหกิจด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบกำกับและตรวจสอบความโปร่งใสของภาครัฐ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ประชาชน และประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับความโปร่งใสของรัฐวิสาหกิจ เช่น โครงการสร้างความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) และสัญญาคุณธรรม (Integrity Pact) นอกจากนี้ ขอให้กรรมการและผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สร้างค่านิยมและจริยธรรมให้กับบุคลากรภายในองค์กรให้มีคุณธรรม สร้างความโปร่งใส ไม่ให้โกงและสร้างความเป็นเจ้าของ
(๒) ขอให้กรรมการและผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ซึ่งมีวงเงินลงทุนประมาณ ๕๒๐,๙๘๐ ล้านบาท ให้มากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ให้เลื่อนการลงทุนให้เร็วขึ้น (Front Load) โดยขอให้เน้นการเบิกจ่ายในไตรมาสที่ ๑ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ให้มากขึ้น และขอให้เร่งรัดให้เบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดที่ร้อยละ ๙๕ ของงบลงทุนอนุมัติ
(๓) ขอให้กรรมการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจผลักดันรัฐวิสาหกิจให้นำโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพมาระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund) ซึ่งจะช่วยลดข้อจำกัดด้านงบประมาณและช่วยให้การบริหารหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
(๔) การขับเคลื่อนประเทศโดยใช้กลไกประชารัฐ ซึ่งเป็นการสานพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เช่น การให้กรรมการและผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจต้องเร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership : PPP) เพิ่มขึ้น หากมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ให้รีบดำเนินการเสนอสภานิติบัญญัติให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
นอกจากนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับรัฐวิสาหกิจในระยะยาว รัฐบาลได้ผลักดันร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... โดยหลักการสำคัญ เช่น การจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเป็นคณะกรรมการภายใต้กฎหมาย และกำหนดให้แผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งการมีกลไกสร้างความโปร่งใสและความรับผิดชอบ โดยเปิดเผยข้อมูลการดำเนินนโยบายผ่านรัฐวิสาหกิจให้เกิดโปร่งใส (Transparency) และทำให้เกิดความรับผิดชอบ (Accountability) ในการดำเนินนโยบาย
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี ๒๕๖๐ สคร. จะดำเนินงานในฐานะผู้ภือหุ้นเชิงรุก (Active Shareholder) พร้อมทั้งจะเพิ่มบทบาทในการเป็นหุ้นส่วนแห่งความสำเร็จ (Active Partnership) โดย สคร. จะทำงานร่วมกับกรรมการและผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัฐวิสาหกิจเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน รวมทั้งประชาชนได้รับบริการสาธารณะที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงต่อไป
"สาระ ล่ำซำ" คว้า 2 รางวัลเกียรติยศ "สุดยอดผู้นำองค์กร" ประจำปี 2568 จากงานประกาศรางวัล CEO ECONMASS Awards 2025
ผู้บริหาร SABINA คว้ารางวัลสุดยอดซีอีโอ ประจำปี 2568 จากสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ
ไอแบงก์ ร่วมแสดงความยินดี สคร. ครบรอบ ๒๓ ปี
วว. ร่วมแสดงความยินดี "ครบรอบ 22 ปี สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ"
อ.อ.ป. ร่วมยินดี สคร. ครบรอบ 21 ปี
วว. ร่วมแสดงความยินดีวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 21 ปี สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
SME D Bank ร่วมสัมมนาเรียนรู้แนวทาง ESG ในรัฐวิสาหกิจไทย เดินหน้าประยุกต์ใช้ เพิ่มประสิทธิภาพขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
EXIM BANK เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 4/2566
SME D Bank เชิญคณะอนุกรรมการ SubPAC ร่วมเยี่ยมชมกิจการลูกค้า ความสำเร็จจากแนวทาง 'เติมทุนคู่พัฒนา' ส่งเสริมเอสเอ็มอีไทยเติบโตยั่งยืน