นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ภาคใต้เข้าสู่ช่วงฤดูมรสุมตั้งแต่วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๙ ปริมาณฝนรวมจะสูงกว่าค่าปกติเล็กน้อยโดยในช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ๒๕๕๙ มีแนวโน้มที่พายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่าน ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่และ ฝนตกหนักบางแห่ง จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในช่วงฤดูมรสุมอย่างเข้มข้น ดังนี้ การเตรียมพร้อมมือสถานการณ์ภัย โดยให้ถอดบทเรียนในพื้นที่ที่เคยประสบอุทกภัยรุนแรง เพื่อวางมาตรการป้องกันและแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงรุก ควบคู่กับการทบทวนปรับปรุงแผนเผชิญเหตุอุทกภัย และแผนปฏิบัติการให้ครอบคลุมทุกมิติ และสอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัยในพื้นที่ พร้อมกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบและแบ่งมอบภารกิจอย่างชัดเจน รวมถึงวางแนวทางรองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือไฟฟ้าดับในสถานที่ราชการ โดยเฉพาะโรงพยาบาล ให้จัดทีมแพทย์และพยาบาล ตลอดจนจัดเตรียมเวชภัณฑ์ให้พร้อมดูแลผู้ประสบภัย การเตรียมการป้องกันและลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมประสานข้อมูลสถานการณ์น้ำ เพื่อประเมินแนวโน้มสถานการณ์ภัยและแจ้งเตือนประชาชนผ่านช่องทางการสื่อสารทุกรูปแบบในพื้นที่ รวมถึงจัดทำสัญลักษณ์แจ้งเตือนระดับน้ำ และป้ายเตือนป้องกันการตกขอบทาง อีกทั้งระดมสรรพกำลังและทรัพยากร ทั้งเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกล เครื่องสูบน้ำ รถยนต์ และเรือให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ตลอดจนเชื่อมโยงระบบการบริหารจัดการน้ำ โดยเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังไปยังพื้นที่รองรับน้ำ และผลักดันน้ำลงสู่ทะเล หรือแหล่งน้ำสาธารณะ เพื่อกักเก็บและสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง การเตรียมพร้อมด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจัดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้พร้อมรองรับผู้ประสบภัย ทั้งการจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค การบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข การดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร รวมถึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัคร แจกจ่ายถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยและดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ประสบภัย เพื่อให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และครอบคลุมทุกมิติ
SME D Bank ออกมาตรการด่วนช่วยเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบพายุ "บัวลอย" 'พักชำระหนี้-เติมทุนฉุกเฉิน' ลดภาระทางการเงิน ฟื้นฟูธุรกิจกลับมาเดินหน้าเร็ววัน
NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง