มาสเตอร์การ์ดประกาศผนึกกำลังกับบริษัท ฟิตเพย์ เพื่อนำเสนอบริการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (contactless) ของมาสเตอร์การ์ดสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Device) และอุปกรณ์ Internet of Things หรือ IoT ด้วยการผสมผสานแพลทฟอร์มฟิตเพย์เข้ากับบริการ MasterCard Digital Enablement Service (MDES) ทั้งสองบริษัทจะทำงานร่วมกับแวราเทค (Wearatec) และผู้คิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อนำเสนออุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดสามารถชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้หลากหลายรูปแบบและปลอดภัย
แพลทฟอร์มจากฟิตเพย์ช่วยให้ผู้ผลิตอุปกรณ์สวมใส่สามารถลดระยะเวลาการนำสินค้าเข้าสู่ตลาด ลดต้นทุน และความซับซ้อนของขั้นตอนการชำระเงินและการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้ ความร่วมมือกันระหว่างฟิตเพย์ และมาสเตอร์การ์ดชี้ให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างบริษัทต่างๆ ที่ร่วมในโครงการ Commerce for Every Device program ของมาสเตอร์การ์ด ทั้งนี้ มาสเตอร์การ์ดได้ร่วมมือกับบริษัทจากหลายอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดการทำธุรกรรมที่ไม่ยุ่งยากและปลอดภัย รวมทั้งเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และช่วยให้ผู้บริโภคได้ใช้อุปกรณ์ที่สะดวกและมีความปลอดภัยสูงสุด
ไมเคิล ออร์แลนโด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งฟิตเพย์กล่าวว่า "เราเล็งเห็นว่าผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ต้องการผนวกความสามารถในการชำระเงินให้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของอุปกรณ์ของพวกเขา การทำงานร่วมกับมาสเตอร์การ์ด ทำให้แพลทฟอร์มของฟิตเพย์ช่วยทำให้อุปกรณ์สวมใส่มีคุณสมบัติด้านการชำระเงินให้แก่ได้อย่างราบรื่นและในแบบไร้สัมผัส ทำให้ผู้บริโภคใช้อุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดรายได้รูปแบบใหม่ๆ และทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น"
แวราเทคผลิตอุปกรณ์ที่นำมาติดกับนาฬิกาข้อมือเพื่อทำให้นาฬิกาหรูเหล่านี้มีคุณสมบัติเป็นสมาร์ทดีไวซ์ และเมื่อแวราเทคทำงานร่วมกับมาสเตอร์การ์ด และฟิตเพย์ รวมถึงพาร์ทเนอร์ต่างๆ อย่างนักออกแบบเครื่องหนังอย่าง ฌอง รุสโซ ก็จะทำให้นาฬิกาสำหรับบุรุษ และสตรีมีคุณสมบัติในการใช้จ่ายอย่างปลอดภัยอย่างกว้างขวาง
ฟิตเพย์คาดว่า ด้วยความร่วมมือกับเวราเทคและบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สวมใส่อื่นๆ บริษัทจะสามารถทำให้อุปกรณ์สวมใส่กว่า 2.5 ล้านชิ้นสามารถรองรับการชำระเงินได้ภายในปี 2560 และตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9 ล้านชิ้นในปี 2561
ความสามารถในการชำระเงินของอุปกรณ์เหล่านี้ คือการขยายต่อยอดของ MDES และโครงการ Digital Enablement Express (Express) ซึ่งทั้ง MDES และ Express จะทำให้อุปกรณ์ ทั้งแบบสวมใส่หรือดีไวซ์ทั่วไปสามารถทำการชำระเงินในแบบไร้สัมผัสของมาสเตอร์การ์ดได้ใน 77 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ต้องมีการเข้ารหัสผ่าน MDES ผู้บริโภคจึงสามารถอุ่นใจได้ว่ามีการป้องกันการทำธุรกรรมแบบไม่ชอบมาพากลเมื่อใช้อุปกรณ์ของพวกเขาในการชำระเงิน
คิคี เดล เวลล์ รองประธานอาวุโส ดิจิตอล เพย์เมนท์ และแล็บส์ของมาสเตอร์การ์ดกล่าวว่า "มาสเตอร์การ์ดมุ่งมั่นทำให้อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ทั้งหมดสามารถรองรับการชำระเงินเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นในการชำระเงิน โครงการ Commerce for Every Device ช่วยกำหนดมาตรฐานทางเลือกของการชำระเงินทั้งแบบไร้สัมผัสและแบบใช้การ์ดทั่วโลก การร่วมงานระหว่างเรากับฟิตเพย์ รวมถึงกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ล้ำสมัยต่างๆ จะช่วยให้มาสเตอร์การ์ดตอบสนองความต้องการของร้านค้าและผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี"
แพลทฟอร์มจากฟิตเพย์ช่วยให้ผู้ผลิตอุปกรณ์สวมใส่สามารถลดระยะเวลาการนำสินค้าเข้าสู่ตลาด ลดต้นทุน และความซับซ้อนของขั้นตอนการชำระเงินและการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้ ความร่วมมือกันระหว่างฟิตเพย์ และมาสเตอร์การ์ดชี้ให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างบริษัทต่างๆ ที่ร่วมในโครงการ Commerce for Every Device program ของมาสเตอร์การ์ด ทั้งนี้ มาสเตอร์การ์ดได้ร่วมมือกับบริษัทจากหลายอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดการทำธุรกรรมที่ไม่ยุ่งยากและปลอดภัย รวมทั้งเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และช่วยให้ผู้บริโภคได้ใช้อุปกรณ์ที่สะดวกและมีความปลอดภัยสูงสุด
ไมเคิล ออร์แลนโด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งฟิตเพย์กล่าวว่า "เราเล็งเห็นว่าผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ต้องการผนวกความสามารถในการชำระเงินให้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของอุปกรณ์ของพวกเขา การทำงานร่วมกับมาสเตอร์การ์ด ทำให้แพลทฟอร์มของฟิตเพย์ช่วยทำให้อุปกรณ์สวมใส่มีคุณสมบัติด้านการชำระเงินให้แก่ได้อย่างราบรื่นและในแบบไร้สัมผัส ทำให้ผู้บริโภคใช้อุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดรายได้รูปแบบใหม่ๆ และทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น"
แวราเทคผลิตอุปกรณ์ที่นำมาติดกับนาฬิกาข้อมือเพื่อทำให้นาฬิกาหรูเหล่านี้มีคุณสมบัติเป็นสมาร์ทดีไวซ์ และเมื่อแวราเทคทำงานร่วมกับมาสเตอร์การ์ด และฟิตเพย์ รวมถึงพาร์ทเนอร์ต่างๆ อย่างนักออกแบบเครื่องหนังอย่าง ฌอง รุสโซ ก็จะทำให้นาฬิกาสำหรับบุรุษ และสตรีมีคุณสมบัติในการใช้จ่ายอย่างปลอดภัยอย่างกว้างขวาง
ฟิตเพย์คาดว่า ด้วยความร่วมมือกับเวราเทคและบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สวมใส่อื่นๆ บริษัทจะสามารถทำให้อุปกรณ์สวมใส่กว่า 2.5 ล้านชิ้นสามารถรองรับการชำระเงินได้ภายในปี 2560 และตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9 ล้านชิ้นในปี 2561
ความสามารถในการชำระเงินของอุปกรณ์เหล่านี้ คือการขยายต่อยอดของ MDES และโครงการ Digital Enablement Express (Express) ซึ่งทั้ง MDES และ Express จะทำให้อุปกรณ์ ทั้งแบบสวมใส่หรือดีไวซ์ทั่วไปสามารถทำการชำระเงินในแบบไร้สัมผัสของมาสเตอร์การ์ดได้ใน 77 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ต้องมีการเข้ารหัสผ่าน MDES ผู้บริโภคจึงสามารถอุ่นใจได้ว่ามีการป้องกันการทำธุรกรรมแบบไม่ชอบมาพากลเมื่อใช้อุปกรณ์ของพวกเขาในการชำระเงิน
คิคี เดล เวลล์ รองประธานอาวุโส ดิจิตอล เพย์เมนท์ และแล็บส์ของมาสเตอร์การ์ดกล่าวว่า "มาสเตอร์การ์ดมุ่งมั่นทำให้อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ทั้งหมดสามารถรองรับการชำระเงินเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นในการชำระเงิน โครงการ Commerce for Every Device ช่วยกำหนดมาตรฐานทางเลือกของการชำระเงินทั้งแบบไร้สัมผัสและแบบใช้การ์ดทั่วโลก การร่วมงานระหว่างเรากับฟิตเพย์ รวมถึงกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ล้ำสมัยต่างๆ จะช่วยให้มาสเตอร์การ์ดตอบสนองความต้องการของร้านค้าและผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี"
บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 10%
มาสเตอร์การ์ด เดินหน้าสนับสนุนการปลูกต้นไม้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
Mastercard Cloud Edge เชื่อมต่อระบบการทำงานบนคลาวด์ของลูกค้าเร็วขึ้น 4 เท่า
มาสเตอร์การ์ด และ National ITMX ประกาศขยายความร่วมมือด้านระบบชำระเงินแบบเรียลไทม์
มาสเตอร์การ์ด และ CrescentRating เผยผลสำรวจดัชนีการท่องเที่ยวมุสลิมทั่วโลกปี 2025 พบเทรนด์น่าสนใจช่วยขับเคลื่อนอนาคตการท่องเที่ยวฮาลาล
เปย์แบบโปรโชว์เทคนิคช้อปคุ้มเกินคาด! เซ็นทรัล รีเทล x มาสเตอร์การ์ด จัดใหญ่ "Friday ต้องเปย์ด้วยมาสเตอร์การ์ด" แจกเพิ่มทุกศุกร์ตลอดเดือน มิ.ย.
มาสเตอร์การ์ดจับมือ Feedzai ร่วมพัฒนาระบบป้องกันภัยจากสแกมยุคใหม่
มาสเตอร์การ์ดเปิดตัว Bill Qkr นวัตกรรมที่พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการชำระบิลทุกรูปแบบ
เคทีซีเผยสมาชิกวัยทำงานใช้บัตร แตะ จ่าย ที่รถไฟฟ้า MRT สูงขึ้น