ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า สัตว์น้ำจืดของประเทศไทย เป็นทรัพยากรของแผ่นดินที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตคนไทยมายาวนาน เป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่มีคุณค่าทางโภชนาการและยังเป็นความมั่นคงด้านอาหารที่หล่อเลี้ยงประชาชนในประเทศจำนวนมาก กรมประมงมีนโยบายชัดเจนและให้ความสำคัญในการอนุรักษ์สัตว์น้ำ รวมทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน โดยได้ดำเนินการศึกษาวิจัยและติดตามสภาวะทรัพยากรประมง เพื่อกำหนดมาตรการทางกฎหมาย ตรวจตราควบคุมเฝ้าระวัง คุ้มครองดูแลรักษาและป้องกันสัตว์น้ำในธรรมชาติ สำหรับมาตรการที่สำคัญอย่างหนึ่งในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงดังกล่าว คือการประกาศและกำหนดช่วงเวลาในการทำประมง โดยห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงที่มีประสิทธิภาพสูงจับสัตว์น้ำจืดที่มีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อน ครอบคลุมแหล่งน้ำจืดของประเทศ ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงวันที่ 17 เมษายน 2507 เพื่อใช้เป็นมาตรการด้านการสงวนคุ้มครอง และอนุรักษ์พ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำจืดในฤดูที่กำลังมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อน ให้มีโอกาสแพร่ขยายพันธุ์ เพื่อเกิดผลผลิตสัตว์น้ำของแหล่งน้ำในปีต่อๆไป
กรมประมงจึงขอประกาศปิดฤดูการทำประมงในเขตน้ำจืด ในระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม - 15 กันยายน 2560พร้อมกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นพื้นที่ 10จังหวัด ที่มีประกาศกำหนดฤดูปลามีไข่ในเขตน้ำจืดเป็นการเฉพาะ เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. จังหวัดพังงา ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2560
2. จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2560
3. จังหวัดลำปาง ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน 2560
4. จังหวัดลำพูน ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน 2560
5. จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน 2560
6. จังหวัดหนองบัวลำภู ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 15 ตุลาคม 2560
7. จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 15 ตุลาคม 2560
8. จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 15 ตุลาคม 2560
9. จังหวัดนราธิวาส ระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 31 ธันวาคม 2560
10. จังหวัดพัทลุง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2560 – 31 มกราคม 2561
โดยมาตรการดังกล่าวห้ามมิให้ผู้ใดทำการประมงด้วยเครื่องมือทำการประมง หรือด้วยวิธีใดๆ ในที่จับสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด ยกเว้นเครื่องมือที่อนุญาตให้ทำการประมงได้ เป็นเครื่องมือบางชนิดที่ไม่ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำอย่างรุนแรงตามที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
1. เบ็ดทุกชนิด ยกเว้นเบ็ดราว
2. ตะแกรง สวิง ช้อน ยอ และขนาง ซึ่งมีขนาดปากกว้าง ไม่เกิน 2 เมตร โดยห้ามไม่ให้ทำการประมงด้วยวิธีประดาหน้าตั้งแต่สามเครื่องมือขึ้นไป
3. ไซ ตุ้ม อีจู้ ลัน โปง และโทง
4. การทำประมงในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือการทำการประมงเพื่อประโยชน์ทางวิชาการ หรือรวบรวมลูกสัตว์น้ำหรือสัตว์น้ำวัยอ่อนเพื่อวัตถุประสงค์ในการเพาะเลี้ยง ซึ่งต้องได้รับหนังสืออนุญาตจากอธิบดีกรมประมงให้อนุญาตเท่านั้น
บทกำหนดโทษ หากผู้ใดฝ่าฝืนตามประกาศฯ ยังมีผลบังคับใช้ในบทเฉพาะกาลมาตรา 171 ประกอบมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ปรับตั้งแต่ห้าพันถึงห้าหมื่นบาท หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง
สำหรับในปีนี้กรมประมง ได้จัดพิธีประกาศกำหนดฤดูปลามีไข่ และกำหนดชนิด ขนาด และวิธีใช้เครื่องมือทำการประมง ประจำปี 2560 ในวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2560 ณ บริเวณท่าชัยยุทธ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี เพื่อแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและรณรงค์และสร้างจิตสำนึกในการทำประมงอย่างถูกวิธีเพื่อทรัพยากรสัตว์น้ำได้มีใช้อย่างยั่งยืนสืบไป
TGE คว้าเรตติ้ง ESG ระดับ A จาก SET ปี 2568 ตอกย้ำผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดที่เติบโตอย่างยั่งยืน
Krungsri One Payment คว้ารางวัลระดับโลกด้านนวัตกรรมการชำระเงินองค์กร
กคช. ร่วม ธอส. จัดโครงการส่งเสริมวินัยการเงินในชุมชน ปี 2568
Kearney และ Egon Zehnder เปิดตัวโครงการ IGNITE Thailand ปลดล็อกศักยภาพผู้บริหารหญิงยุคใหม่ในประเทศไทย
TBN เดินหน้าธุรกิจตามหลัก ESG คว้า SET ESG Ratings ระดับ "A" ประจำปี 2568 ตอกย้ำผู้นำดิจิทัลโซลูชันที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน
สปปท. เปิดเวทีสัมมนาวิชาการและประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ขับเคลื่อนประปาไทยก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
ASIMAR ขยับมาตรฐานความยั่งยืน สู่ SET ESG Ratings ระดับ "BBB" ประจำปี 2568
SAPPE คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับ A ติดอันดับหุ้นยั่งยืนต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ตอกย้ำมาตรฐานธุรกิจยั่งยืนในทุกมิติ
PTG คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับสูงสุด AAA" จาก SET ESG Ratings ปี 2568