กรมประมงแจงข่าว...หลังชาวประมงร้องรัฐวางมาตรการเข้ม คุม..ประมงทั้งระบบ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          จากกรณีที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมง ซึ่งได้รับผลกระทบหลังจากที่ภาครัฐได้วางมาตรการล้อมกรอบให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามนโยบายการป้องกันการค้ามนุษย์และการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งการกำหนดระยะเวลาการออกเรือ และการคุมเข้มลูกเรือที่เป็นแรงงานบนเรือประมง ในพื้นที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง รวมถึงการจัดระเบียบเรือประมงพื้นบ้านและพาณิชย์ในเขตพื้นที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ นั้น
          นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคประมงและปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการโดยเร่งด่วน เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในประเด็นข่าวดังกล่าว
          ที่ชาวประมงได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการของภาครัฐ ทางกรมประมงขอชี้แจง ดังนี้
          ? การกำหนดระยะเวลาในการทำประมง เป็นหนึ่งในแนวทางการบริหารจัดการประมงทะเลที่ยั่งยืน ให้มีการจับสัตว์น้ำขึ้นมาใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและสมดุลกับธรรมชาติ โดยมีการวิเคราะห์ฐานข้อมูลจำนวนเรือและเครื่องมือประมงทะเลทั้งหมดที่ทำการประมงอยู่จริง และข้อมูลสถิติปริมาณการจับสัตว์น้ำที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจจากแต่ละเครื่องมือย้อนหลังไม่น้อยกว่า 10 ปีติดต่อกัน นำมาคำนวณหาความสามารถในการจับสัตว์น้ำของเครื่องมือประมงแต่ละชนิดต่อหน่วยการลงแรงประมง หรือเรียกเป็นวิชาการว่า ปริมาณการจับสัตว์น้ำต่อหน่วยการลงแรงประมง (Catch per unit effort : CPUE) มีหน่วยเป็นกิโลกรัมต่อชั่วโมง หรือ กิโลกรัมต่อวัน ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องมือและประสิทธิภาพการจับสัตว์น้ำของเรือขนาดต่าง ๆ ที่ใช้เครื่องมือนั้น ๆ จากนั้นใช้สมการที่เรียกว่าฟ็อกซ์โมเดล (Fox model) ซึ่งเป็นวิธีการที่ยอมรับของนานาประเทศในการคำนวณหาปริมาณการจับสัตว์น้ำที่ระดับการลงแรงประมงที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ "ระดับผลจับสัตว์น้ำสูงสุดที่ยั่งยืน (Maximum Sustainable Yield : MSY) ซึ่งเป็นปริมาณสัตว์น้ำสูงสุดที่ยั่งยืน จากตัวเลขดังกล่าว คณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาตินำมากำหนดปริมาณการจับสัตว์น้ำสูงสุดเพื่อใช้ในการออกใบอนุญาตให้ต่ำกว่าค่า MSY 10 % ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน แต่เนื่องจากการขออนุญาตทำการประมงในปี 2559 มีเรือที่มาขอทำการประมงมากกว่าปริมาณสูงสุดที่คณะกรรมการฯ ได้จัดสรรไว้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถออกใบอนุญาตให้กับเรือประมงได้ทั้งหมด จึงมีการกำหนดจำนวนวันที่ให้เรือประมงที่มีประสิทธิภาพในการจับสัตว์น้ำของเครื่องมือชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ฝั่งทะเลอ่าวไทย เครื่องมืออวนลาก จำนวน 220 วันต่อปี อวนล้อมจับ 220 วันต่อปี และอวนล้อมจับปลากะตัก 235 วันต่อปี ส่วนฝั่งทะเลอันดามัน เครื่องมืออวนลาก จำนวน 250 วันต่อปี อวนล้อมจับ 235 วันต่อปี และอวนล้อมจับปลากะตัก 205 วันต่อปี ซึ่งเป็นการช่วยเหลือชาวประมงและแบ่งปันทรัพยากรประมง ชาวประมงจึงสามารถจัดสรรเวลาในการออกเรือไปทำการประมงได้อย่างเหมาะสม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น
          ? ปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงจากการจัดทำเอกสารที่เข้มงวด กรมประมงได้มีการจัดทำหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) สำหรับแรงงานต่างด้าว เพื่อเป็นการคัดกรองแรงงานป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ ไม่ให้มีการใช้แรงงานเด็ก และแรงงานที่ผิดกฎหมาย พร้อมเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพของแรงงาน ซึ่งเป็นไปตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ในการจัดระเบียบแรงงานภาคประมง โดยตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2559- 27 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา มีแรงงานเข้าจัดทำหนังสือคนประจำเรือแล้วทั้งสิ้น 46,904 ราย สำหรับในการขึ้นทะเบียนนั้น แรงงานสามารถเลือกนายจ้างได้ตามความสมัครใจถึง 3 ราย และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ส่วนนายจ้างหากประสงค์จะเปลี่ยนแรงงานบนเรือก็สามารถทำได้เช่นกัน
          ทั้งนี้ ในพื้นที่จังหวัดตรังมีการออกหนังสือคนประจำเรือรวมจำนวน 875 ราย ที่ทำงานบนเรือประมงจำนวน 149 ลำ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เรือประมงพาณิชย์บางส่วนขาดแคลนแรงงานประมงไม่สามารถออกทำการประมงได้ เกิดจากอาชีพทำการประมงเป็นงานที่คนไทยไม่นิยมทำกัน ส่วนแรงงานต่างด้าวก็มีการขาดแคลนในภาคประมงสะสมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในระบบเศรษฐกิจแบบเสรี นายจ้างหรือผู้ประกอบการจะต้องสร้างแรงจูงใจเพื่อดึงดูดแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าจ้างหรือสวัสดิภาพ สวัสดิการต่างๆ เพราะเป็นการแข่งขันในระหว่างธุรกิจด้วยกัน 
          ? การจัดระเบียบเรือประมงพื้นบ้านและพาณิชย์ : ตามพระราชกำหนดการประมง 2558 ได้กำหนดให้เรือประมงขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอสเป็นเรือประมงพื้นบ้าน และเรือประมงขนาดมากกว่า 10 ตันกรอสเป็นเรือประมงพาณิชย์ โดยเรือประมงพาณิชย์(ขนาดมากกว่า 10 ตันกรอสขึ้นไป) ทุกลำจะต้องมีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ และจะต้องทำประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง 
          สำหรับกรณีที่ชาวประมงในพื้นที่อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับความเดือดร้อนถูกจับกลางทะเล นั้น เหตุเกิดจากที่มีเรือประมงจำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นเรือประมงที่มีขนาด 16.49 ตันกรอส และ 28.3 ตันกรอส ซึ่งถูกจัดเป็นเรือประมงพาณิชย์ เข้าไปทำการประมงด้วยเครื่องมืออวนติดตาในเขตพื้นที่ 3 ไมล์ทะเล โดยอ้างมติจากการประชุมคณะกรรมการประมงจังหวัดสมุทรปราการครั้งที่ 1 /2559 วันที่ 7 ก.ค. 59 ณ ศาลากลาง จังหวัดสมุทรปราการว่าสามารถทำการประมงในเขตพื้นที่ดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยมติดังกล่าวเป็นเพียงข้อเสนอแนะของผู้เข้าร่วมประชุมเท่านั้น ไม่สามารถบังคับใช้ตามกฎหมายได้ ประกอบกับพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 39 กำหนดห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ (ขนาดเรือตั้งแต่ 10.00 – 29.99 ตันกรอส) ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง (3 ไมล์ทะเล) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวประมงดังกล่าว กรมประมงจึงเสนอให้จังหวัดสมุทรปราการเชิญประชุมคณะกรรมการประมงชายฝั่งอีกครั้ง เพื่อปรับลดแนวเขตทะเลชายฝั่งใหม่ เพื่อเสนอให้กรมประมงดำเนินการออกเป็นกฎกระทรวงต่อไป
          ปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรสัตว์น้ำนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ ดังนั้นหากไม่มีการออกมาตรการต่างๆ มาควบคุมการทำประมงให้สอดคล้องกับสภาวะการณ์ปัจจุบัน ทรัพยากรก็มีแต่จะร่อยหลอไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวิถีความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมไปบ้าง แต่ภาครัฐก็ไม่ได้มองข้ามและพยามยามให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้ภาคการประมงของไทยสามารถขับเคลื่อนไปได้ทั้งในด้านของเศรษฐกิจและความยั่งยืนของทรัพยากร
 
 
 

ข่าวอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง+การทำประมงผิดกฎหมายวันนี้

รมว.กษ. ลงพื้นที่ จ.ตรังตรวจติดตามความก้าวหน้าการปฏิบัติงานป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย

ลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายว่า ในโอกาสที่ได้ลงพื้นที่ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อตรวจติดตามความก้าวหน้าในการปฏิบัติงานป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งได้รับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออก เรือประมง จังหวัดตรัง (PIPO) และร่วมสังเกตการณ์การตรวจเรือประมงก่อนออก-หลังการทำประมง การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บนเรือตรวจการประมงทะเล เรือ 605 และการปฏิบัติงานตามระบบตรวจสอบย้อนกลับสัตว์น้ำจากเรือประมง ณ บริเวณท่าเทียบเรือประมง รวมถึง

เอสซีจี ร่วมกับภาคีเครือข่ายชุมชน และเยาว... เอสซีจี ผนึกกำลังชุมชน และเครือข่ายเยาวชน จัดกิจกรรม "ปลูกหญ้าทะเลลดโลกร้อน — เอสซีจี ร่วมกับภาคีเครือข่ายชุมชน และเยาวชน ร่วมจัดกิจกรรม "ปลูกหญ้าทะเลลดโล...

ที่มัสยิดเกาะลิบง ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตั... ม.อ. ปิดโครงการค่ายอาสาฯ ส่งมอบ “อาคารศูนย์การเรียนรู้ชุมชนเกาะลิบง” — ที่มัสยิดเกาะลิบง ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง นายพรชัย สุขโสม นายอำเภอกันต...

วันนี้ (17 พฤษภาคม 2562) เวลา 10.00 น. นา... มอบโฉนดที่ดินแปลงใหม่ จังหวัดตรัง — วันนี้ (17 พฤษภาคม 2562) เวลา 10.00 น. นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และนายลือชัย เจริญทรัพย์...

อาจารย์อภิสรา ตันตสุทธิกุล อาจารย์ประจำหล... หลักสูตรการท่องเที่ยวฯ ม.อ.ตรัง จัดโครงการ “ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทยภาคใต้” นั่งรถไฟชมวัฒนธรรมท้องถิ่น — อาจารย์อภิสรา ตันตสุทธิกุล อาจารย์ประจำหลักสูตร ก...

วันนี้ (19 ธันวาคม 2561) อาจารย์ณฐ ย่าหลี... ชมรมหมากล้อมและกลุ่มจิตอาสารากแก้ว ม.อ.ตรัง จับมือหน่วยงานพันธมิตร ปรับปรุงห้องเรียนชุมชน ต.เกาะลิบง — วันนี้ (19 ธันวาคม 2561) อาจารย์ณฐ ย่าหลี อาจารย์ปร...

"ไทยทึ่ง" รายการที่จะพาทุกคนไปพบกับเรื่อง... ทีวีไกด์: รายการ "ไทยทึ่ง" “แชมป์” พาไปดู “หมาตักน้ำ” จ.ตรัง ใน “ไทยทึ่ง” 19 ส.ค.นี้ 11.00 น. ช่อง GMM25 — "ไทยทึ่ง" รายการที่จะพาทุกคนไปพบกับเรื่องราวน่า...

สคร. 12 สงขลา ยืนยัน ทีมเก็บรังนกเกาะลิบง ไม่ได้ป่วยโรคไข้เลือดออก

จากกรณีที่มีการส่งต่อกันในโซเชียลมีเดียว่าทีมเก็บรังนกจากเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ติดเชื้อโรคไข้เลือดออก หลังกลับจากภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี่ และได้แพร่เชื้อโรคไข้เลือดออกจากพ่อไปสู่ลูกนั้น ผลการตรวจสอบพื้นที่ถ้ำหลวง...

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2561 ที่ สถานีรถไฟก... สถาปัตย์ ม.สงขลานครินทร์ ตรัง ร่วมครุศาสตร์อุตสาหกรรม สจล. จัดโครงการอนุรักษ์มรดกสถาปัตยกรรม “กันตัง VERNADOC — เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2561 ที่ สถานีรถไฟกั...