นางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาจังหวัดร้อยเอ็ดโดยเฉพาะนาข้าวทุ่งกุลาร้องไห้ พบว่ามีปลาหลดชุกชุมมากแต่ปัจจุบันนี้ปลาหลดกลับหารับประทานยากยิ่งขึ้นเนื่องจากการทำนาสมัยใหม่เกษตรกรนิยมใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี สารกำจัดวัชพืชและสารกำจัดแมลงทำให้สภาพดินและน้ำในนาเปลี่ยนไป ส่งผลให้ไส้เดือนและสัตว์หน้าดินเช่น หนอนแดง ไรแดง ที่เป็นห่วงโซ่อาหารรวมทั้งปลาหลดลดจำนวนน้อยลง
ในขณะเดียวกันปลาหลดกลับเป็นที่ต้องการของตลาดทำให้ปลาหลดlfมีราคาค่อนข้างสูงอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 150 -200 บาท iปลาหลดตากแห้ง กิโลกรัมละ 400 – 450 บาท (ราคาขึ้นลงตามฤดูกาล) รวมถึงการเลี้ยงปลาหลดเพื่อการค้าอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากวิธีการเพาะและการรวบรวมพ่อแม่พันธุ์จากแหล่งน้ำธรรมชาติ อาจทำให้ปลาเกิดความบอบซ้ำจึงทำให้พ่อแม่พันธุ์ที่รวบรวมได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติมีปริมาณไม่เพียงพอต่อการนำมาทดลองเพาะเลี้ยง ดังนั้นเพื่อให้ปลาหลดกลับมาอุดมสมบูรณ์ดังเช่นอดีตอีกครั้งตลอดจนเป็นการเพิ่มพูนอาหารประเภทโปรตีนรวมถึงสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการเลี้ยงปลาหรือจับปลาขายเป็นอาชีพ ทางกรมประมงโดยสำนักงานประมงจังหวัดร้อยเอ็ดจึงได้จัดตั้งธนาคารปลาหลดขึ้นเพื่อช่วยฟื้นฟูทรัพยากรปลาหลดในเขตพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดตลอดจนเป็นศูนย์กลางให้บริการความรู้ด้านเทคโนโลยีด้านการประมงอันจะเพิ่มพูนความรู้ในการเลี้ยงสัตว์น้ำมากยิ่งขึ้น
นายประจักษ์ เจริญรัตน์ ประมงจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า ปลาหลดถูกตั้งให้เป็นปลาประจำจังหวัดร้อยเอ็ดเมื่อปีพ.ศ.2557เนื่องจากปลาหลดเป็นปลาพื้นถิ่นเหมาะกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด อีกทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดร้อยเอ็ด สามารถเพาะพันธุ์ปลาหลดได้เป็นครั้งแรกของโลกเมื่อปีพ.ศ. 2546 ทางสำนักงานประมงจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งธนาคารปลาหลดขึ้นเพื่อเพาะขยายพันธุ์ปลาหลดสำหรับแจกจ่ายกระจายพันธุ์ และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในด้านเทคโนโลยี การประมงเพื่ออนุรักษ์ให้ปลาหลดคงอยู่เป็นปลาประจำจังหวัดร้อยเอ็ดต่อไป โดยการจัดตั้งธนาคารปลาหลดประจำจังหวัดมีศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดร้อยเอ็ดและสำนักงานประมงจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นศูนย์หลักในการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีในด้านการเลี้ยงและการเพาะขยายพันธุ์ และจะมีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ประจำอำเภอ 5 แห่ง 5 อำเภอ แต่ละอำเภอมีสมาชิกอำเภอละ 100 ราย รวมเป็นสมาชิกทั้งสิ้น 500 ราย ได้แก่ อำเภอเกษตรวิสัย สุวรรรณภูมิ ปทุมรัตต์ โพนทราย และอำเภอพนมไพร เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการประมง
สำหรับการเข้าร่วมโครงการธนาคารปลาหลดสำนักงานประมงจังหวัดร้อยเอ็ดได้คัดเลือกเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการจำนวน 500 ราย และจัดการอบรมในด้านการเพาะเลี้ยงปลาหลดในทุกขั้นตอน โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้การนำเทคโนโลยีต่างๆ ในการผลิตลูกพันธุ์ปลาหลดด้วยวิธีเลียนแบบธรรมชาติ รวมถึงการรณรงค์ให้เกษตรกรเลิกใช้สารเคมีในนาข้าว เพราะหากดินหรือน้ำมีสารเคมีปะปนอยู่ ก็จะทำให้ปลาหลดหรือสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นตายได้ หลังจากที่เกษตรกรได้รับการอบรมเรียบร้อยแล้ว ทางเกษตรกรแต่ละรายจะได้รับการสนับสนุนปัจจัยการผลิต ดังนี้ 1. ลูกปลาหลดรายละ 500 ตัวและ 2. อาหารปลาคนละ 2 กระสอบ เพื่อนำไปเลี้ยงในบ่อหรือนาข้าว โดยเกษตรกรจะมีสัญญาสัจจะประชารัฐคืนปลาหลดตัวเต็มวัยให้แก่ธนาคารปลาหลดรายละ 0.5 กิโลกรัมภายใน 1 ปี เพื่อให้ธนาคารปลาหลดสามารถเพาะขยายพันธุ์และขยายผลในปีต่อไปได้
นายสมพงษ์ การเพิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการจัดตั้งโครงการธนาคารปลาหลดทางศูนย์วิจัยฯ จะรับหน้าที่เพาะขยายพันธุ์ปลาหลดเพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขุนพ่อแม่พันธุ์ให้พร้อม ซึ่งคาดว่าทางศูนย์วิจัยฯ จะสามารถผลิตลูกพันธุ์พร้อมแจกเกษตรกรในช่วงเดือนพฤษภาคม พร้อมทั้งร่วมอบรมให้ความพร้อมกับเกษตรกรอีกทั้งได้มีแผนตรวจติดตามการเจริญเติบโตหลังจากที่ได้รับแจกลูกพันธุ์ปลาหลด ตลอดจนให้คำปรึกษาแนะนำปัญหาของเกษตรกรที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการเลี้ยง เนื่องจากการเพาะพันธุ์ปลาหลดมีขั้นตอนที่ยาก เนื่องจากพ่อแม่พันธุ์ที่รวบได้มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติมีจำนวนน้อยอีกทั้งลักษณะการอาศัยจะอาศัยอยู่ในน้ำที่มีคุณภาพดี เป็นปลากินเนื้อเมื่อนำมาเลี้ยงในระบบปิดจะทำให้น้ำเสียง่าย ดังนั้นผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องมีระบบการจัดการน้ำที่ดี รวมถึงการอนุบาลลูกพันธุ์ที่จะต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากปลาจะมีลำตัวเล็ก และชอบหลบซ่อนแล้วลำตัวยังลื่นจึงอาจทำให้พันธุ์ปลาชนิดนี้เกิดความบอบช้ำได้ง่าย การเลี้ยงปลาหลดโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 6-7 เดือน จะได้ขนาดปลาหลดที่จำหน่ายประมาณ 30-40 ตัว/ก.ก.และอายุ 1 ปีสามารถเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้
ด้านการเพาะขยายพันธุ์ เมื่อคัดเพศแล้วก่อนทำการผสมพันธุ์ จะฉีดฮอร์โมนให้กับพ่อแม่พันธุ์ปลาหลดเพื่อกระตุ้นการวางไข่ โดย เพศเมียจะฉีดกระตุ้นด้วยฮอร์โมน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 จะฉีดห่างจากครั้งที่ 1 ประมาณ 6ชั่วโมง เพศผู้ จะทำการฉีดเพียงครั้งเดียว โดยจะฉีดพร้อมเพศเมียเข็มที่ 2 หลังจากนั้นก็จะนำพ่อแม่พันธุ์ที่ฉีดฮอร์โมนแล้ว ปล่อยลงในถังเดียวกันเพื่อให้ผสมกันเองตามธรรมชาติ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ปลาหลดเพศเมีย 1 ตัว จะให้ไข่ได้ถึง 3,000 - 5,000 ฟอง ใช้ระยะเวลาฟักตัวออกจากไข่ประมาณ 48 - 60 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะเริ่มให้อาหารลูกพันธุ์ สำหรับอาหารปลาหลดที่ทางศูนย์วิจัยฯ นำมาใช้เลี้ยงแบ่งเป็น 2 อย่าง คือ 1. อาหารสด ได้แก่ ไรแดง ไส้เดือนดิน จากการเพาะเลี้ยง 2. อาหารสำเร็จรูป ตามที่มีจำหน่ายใน-ท้องตลาด โดยใช้อาหารกุ้ง และอาหารปลาชนิดลอยน้ำมาแช่น้ำสักครู่เพื่อให้เม็ดอาหารนิ่มลง และจะนำมาปั้นเป็นก้อนให้เป็นอาหารปลา
สำหรับท่านใดสนใจข้อมูลการเพาะเลี้ยงปลาหลดสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดร้อยเอ็ด โทร.043-569-350
                                                                                                                                        
                                                                                                                            
                                                            
                                                                                                                            
                                                            
                                                                                                                            
                                                                                                                            
                                                                                                                            
                                                                                        
                            
                            ทีทีบี ผนึก แสนสิริ ออก "สินเชื่อบ้านรักษ์โลก" ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2.75% ต่อปี เดินหน้าสร้างสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
                        
                            กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง LBM ในเครือปูนอินทรีเปิดวิสัยทัศน์ "Innovating Sustainable Building Solutions" ขับเคลื่อนแนวทางวัสดุก่อสร้าง ตอบโจทย์เทรนด์ก่อสร้างยุคใหม่สู่ความยั่งยืน
                        
                            GPSC ผนึก Axens ศึกษาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน DMX(TM) มุ่งสู่การลดคาร์บอนภาคการผลิตไฟฟ้าอย่างยั่งยืน
                        
                            สอน. ลงพื้นที่ขอนแก่น เดินหน้าขับเคลื่อนอุตฯ อ้อยและน้ำตาลสีเขียว วางแนวทางลดเผาอ้อย - ลด PM 2.5 สอดรับนโยบายรัฐบาล
                        
                            SACIT ยกระดับศิลปหัตถกรรมไทย ที่ผ่านการรับรองภายใต้ SACIT Craft Collection 2025 คัดสรร 120 ผลงาน พัฒนาคุณภาพในทุกด้านสู่ระดับสากล
                        
                            melissa / Nodaleto คอลเลกชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากพระอาทิตย์ขึ้นและตกในฤดูร้อน สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และนิยามความเฟมินินในมิติใหม่
                        
                            เอเซอร์ เปิดตัวแล็ปท็อป TravelMate X14 AI พร้อมโปรเจ็กเตอร์รักษ์โลก Vero เพิ่มศักยภาพ SMEs เติมเต็ม Work from Anywhere
                        
                            พีดีเฮ้าส์เสริมจุดแข็งดัน "บ้านผู้สูงอายุ" รับมือสังคมผู้สูงวัย ต่อยอดแนวคิดสร้างบ้านเพื่ออนาคตพร้อมเปิดตัวแบบบ้านใหม่
                        
                            'WAVE' ขึ้นแท่นหน่วยงานตรวจและรับรอง G-Green ตั้งเป้าผลักดันผู้ประกอบการสู่ "Green Hotel" เต็มรูปแบบ พลิกโฉมท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ผลักดัน 600 โรงแรม ตามมาตรฐานความยั่งยืนภายในไตรมาส 1/69