ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติวานนี้ (25 เม.ย.60) นายธีรเนตร ไชยสุวรรณ ตัวแทนจากสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ นายวิจิตร กลดนวน และนายอดิศร ศิริวัฒน์ จากชุมชนน้ำแดงพัฒนา ผู้ได้รับผลกระทบจากการจับกุมอย่างไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบุรี จังหวัดสุราษฏธานี เมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2560 พร้อมทั้งตั้งข้อหาที่ไม่เป็นธรรมคือการอั้งยี่ ซ่องโจร จากการต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิในที่ดินทำกิน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนาย วัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิในที่ดินและการจัดการทรัพยากรป่าไม้ เรียกร้องให้ทางคณะอนุกรรมการด้านสิทธิในที่ดินและการจัดการทรัพยากรป่าไม้ดำเนินการโดยเร่งด่วนในเรื่องดังต่อไปนี้
ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนและสอบสวนข้อเท็จจริงโดยทันที เพราะการละเมิดสิทธิและความขัดแย้งในที่ดินในพื้นที่ที่สกต. พยายามจัดทำโฉนดชุมชนมีความซับซ้อนและการตรวจสอบการละเมิดสิทธิจะทำได้จริงก็ต่อเมื่อมีการลงพื้นที่ไปหาข้อเท็จจริงและสอบถามจากสมาชิกของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ขอให้ท่านตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของสมาชิกของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ทั้งที่ถูกดำเนินคดีและสมาชิกในชุมชนที่ขณะนี้อยู่อย่างหวาดผวาและหวาดกลัว รวมถึงจัดทำรายงานข้อเสนอแนะทางนโยบาย
ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการคุ้มครองสมาชิกของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ได้ร้องขอโดยด่วนให้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ โดยประธานกสม. เองในฐานะที่เป็นประธานอนุกรรมการด้านที่ดินและป่าไม่ด้วย
ด้านนายวัส ติงสมิตร ได้กล่าวในที่ประชุมว่า น่าจะมีการลงพื้นที่เพื่อสอบข้อเท็จจริงและทางคณะอนุกรรมการด้านสิทธิในที่ดินและการจัดการทรัพยากรป่าไม้ ได้มีการจัดทำรายงานข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในหัวข้อที่เกี่ยวกับข้องกับเรื่องที่ดินป่าไม้ โดยมีการเก็บรวบรวมคำร้องจากผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนพื้นป่ากว่า 40 คำร้องเพื่อที่จะนำมาประมวลผล และทำเป็นรายงานข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล
นอกจากนี้ผู้เสียหายและตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ยังได้ยื่นหนังสือต่อนางอังคณา นีละไพจิตร ประธานอนุกรรมการสิทธิพลเมือง โดยขอให้ ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนและสอบสวนข้อเท็จจริง ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการข่มขู่คุกคามที่ยังคงมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะคดีล่าสุดที่มีการตั้งข้อกล่าวหาว่าสมาชิกเป็นอั้งยี่,ซ่องโจร ซึ่งเป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงและจะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่ยังอาศัยอยู่ในชุมชน อีกทั้งยังเป็นการเปิดช่องให้ผู้มีอิทธิพลมาคุกคามและข่มขู่ สมาชิกในชุมชนน้ำแดงที่ขณะนี้อยู่อย่างหวาดผวาและหวาดกลัว
การยื่นหนังสือดังกล่าวสืบเนื่องมาจากสถานการณ์เร่งด่วน สืบเนื่องจากการเข้าจับกุม สมาชิกชุมชนน้ำแดงพัฒนา สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบุรี เมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2560 ที่มีการจับกุมชาวบ้านจำนวน 5 คน โดยมีการเรียกสมาชิกจำนวน 2 คน ได้แก่ คือ นายวิจิตร กลดนวล และ นายณรงค์ สิทธิกุล เพื่อไปพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องคดีที่ผ่านมา โดยมีนายไพโรจน์ กลับนุ้ย ไปเป็นเพื่อนที่สถานีตำรวจ สภ ชัยบุรี เมื่อไปพูดคุยที่สถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับแสดงกับชาวบ้านทั้ง 3 คน โดยแจ้งข้อหา บุกรุก,ทำให้เสียทรัพย์ และ
ซึ่งต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท. ยศ ชาวเรา สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.ชัยบุรี ช่วยราชการ กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี (กก. สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี) นำกำลังเจ้าหน้าที่รวม 13 นาย เข้าไปในพื้นที่ชุมชนน้ำแดงพัฒนา หมู่ที่ 9 ตำบลคลองน้อย อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฏร์ธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ชาวบ้านเพิ่มอีกสองคน คือ นางนงเยาว์ กลับนุ้ย และนายอดิศร ศิริวัฒน์ หากแต่ก่อนหน้านี้ทางชาวบ้านก็ไม่ทราบว่าจะโดนดำเนินคดีอาญาในทั้งสามข้อหาเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มิได้มีหมายเรียกให้ไปรับฟังข้อกล่าวหาก่อน ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวจึงมีข้อสงสัยว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่? โดยต่อมา ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2560 ต่อมาในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2560 เวลาประมาณ 09.56 น. ได้มีการนำตัวชาวบ้านทั้ง 5 คนที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2560 ตามหมายจับศาลจังหวัดเวียงสระ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเวียงสระ ซึ่งต่อมาในช่วงเวลาประมาณ 15.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปจับกุมชาวบ้านในชุมชน น้ำแดงพัฒนา เพิ่มอีก 2 ท่าน คือ นางวิไลวรรณ กลับนุ้ย และนายประกอบ อนุภัค ภายในชุนน้ำแดงพัฒนา เวลาต่อมา 15.30 นายอดิศร ศิริวัฒน์ และนายวิจิตร กลดนวล ได้มีการยื่นขอประกันตัวซึ่งได้ถูกปล่อยตัวมา โดยใช้วงเงินในการประกันตัวคนละ 270,000 บาท และได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา
ในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่จังหวัดเวียงสระ และผู้ต้องหาจำนวน 2 คนได้ยื่นขอประกันตัว แต่ทางศาลได้เพิ่มวงเงินประกันเป็น คดีละ 200,000 บาท ซึ่งรวมทั้งสามคดีแล้ว เป็นเงิน 600,000 บาท จึงไม่สามารถประกันตัวออกมาได้ เนื่องจากหลักทรัพย์ในการประกันตัวไม่เพียงพอ
ต่อมาในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560 ญาติได้ยื่นประกันตัวในวงเงิน 600,000 บาท 2 คน ได้แก่ นายสมจิตร โอรส และ นายประกอบ อนุภัค ซึ่ง ณ.ขณะนี้ยังมีชาวบ้านชุมชนน้ำแดงถูกจำคุกอยู่อีก 4 คน ได้แก่ นางวิไลวรรณ กลับนุ้ย , นายไพโรจน์กลับนุ้ย , นายณรงค์ สิทธิกูล และนางนงเยาว์ กลับนุ้ย เนื่องจากหลักทรัพย์ไม่เพียงพอที่จะสามารถประกันตัวได้

