สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ มูลนิธิรักษ์ไทย และหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน รณรงค์ป้องกันโรคไข้มาลาเรีย เนื่องในวันมาลาเรียโลก (25 เมษายน ของทุกปี) ณ บ้านละลายมีชัย ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งปีนี้มีคำขวัญในการรณรงค์ว่า "ประชารัฐร่วมใจขจัดภัยโรคไข้มาลาเรีย" เพื่อกระตุ้นให้ประเทศที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคไข้มาลาเรีย ร่วมมือกันกำจัดโรคดังกล่าวให้หมดไป โดยมี นายเกริกชัย ผ่องแพ้ว นายอำเภอกันทรลักษ์ เป็นประธานในพิธี ภายในงานมีการให้ความรู้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงโรคไข้มาลาเรีย อาทิ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และคนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าป่า ให้มีความรู้ที่ถูกต้อง เกิดความตระหนักในการป้องกันตนเองจากการถูกยุงก้นปล่องกัด ให้ความสำคัญในการเข้ามารับบริการตรวจรักษาอย่างรวดเร็ว และกินยาให้ครบตามที่ผู้ตรวจรักษาจ่ายให้ เพื่อป้องกันการเสียชีวิตและการดื้อยา
นายเกริกชัย ผ่องแพ้ว นายอำเภอกันทรลักษ์ ประธานในพิธี กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้มาลาเรียของจังหวัดศรีสะเกษ ในขณะนี้ ยังคงน่าเป็นห่วง หากเราไม่ช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดอย่างจริงจัง เพราะว่าในอดีต คนที่เป็นไข้มาลาเรียเกือบทั้งหมดจะไปรับเชื้อมาลาเรียมาจากในป่า แต่ในปัจจุบันมีรายงานว่ามีผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อจากการไปกรีดยางพาราเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติภารกิจในป่า ทำให้เจ้าหน้าที่มาลาเรียไม่สามารถเข้าไปป้องกันควบคุมโรคได้ และจากรายงานพบว่ามีผู้ป่วยดื้อยา ยิ่งทำให้มีความยากลำบากในการรักษาและมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น
นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวต่อไปว่า การรณรงค์ในวันนี้ เป็นแค่การปลุกกระแสให้ทุกคนได้ตื่นตัว ตระหนักถึงความสำคัญของสถานการณ์โรคที่เกิดขึ้น และช่วยกันควบคุม ป้องกัน ลดการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นให้ได้ และต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัย ของตัวท่านเอง รวมทั้งบุตรหลานที่ต้องอาศัยในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงก้นปล่องซึ่งเป็นพาหะนำโรคมาลาเรีย
ด้าน นางศุภศรัย สง่าวงศ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี (สคร.10) กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้มาลาเรียว่า ประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วยลดลงจาก 150,000 รายในปี 2543 เหลือเพียง 17,799 ราย ในปี 2559 ผู้ป่วยส่วนใหญ่พบตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนในพื้นที่รับผิดชอบ พบจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษ มีผู้ป่วยมากที่สุดติด 10 อันดับแรกของผู้ป่วยทั้งประเทศ ผู้ป่วยส่วนมากมีประวัติเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงและได้รับเชื้อมาลาเรียกลับมา
นางศุภศรัย กล่าวต่อไปว่า โรคมาลาเรีย เป็นโรคติดต่อที่นำโดยยุงก้นปล่องบางชนิด ไปกัดคนที่เป็นไข้มาลาเลียแล้ว เชื้อจะเจริญอยู่ในยุงประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นเมื่อยุงมีเชื้อไข้มาลาเรีย ไปกัดบุคคลอื่นก็จะถ่ายเชื้อไข้มาลาเรียให้แก่บุคคลนั้น แล้วประมาณ 10-14 วันก็จะมีอาการป่วยเป็นไข้มาลาเรีย หรือไข้จับสั่น ซึ่งมีอาการปวดหัว ตัวร้อน ครั่นตัว ปวดเมื่อยตามร่างกาย เมื่อเป็นนาน ๆ ร่างกายจะซูบซีด และในรายที่เป็นรุนแรงอาจถึงตายได้ในเวลาอันรวดเร็ว วิธีการป้องกัน อย่าให้ยุงก้นปล่องกัด โดยนอนในมุ้งหรือมุ้งชุบน้ำยา หรือใช้ยากันยุงทา ใส่เสื้อผ้าปกปิดร่างกายให้มิดชิด และเมื่อมีอาการปวดหัว ตัวร้อน และสงสัยว่าเป็นไข้มาลาเรีย ควรรีบไปที่มาลาเรียคลินิก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ หรือโรงพยาบาลประจำอำเภอได้ทุกแห่ง เพื่อตรวจเลือดหาเชื้อให้เร็วที่สุด ก่อนอาการจะรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 /นางศุภศรัย กล่าวปิดท้าย
สคร.12 สงขลา เตือน โรคพิษสุนัขบ้า ติดเชื้อถึงตาย แนะ หากถูกสุนัขกัดให้รีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
สคร.12 สงขลา ชวนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องในวันหัวใจโลก 2568
สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลาน ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV)
ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์
สคร.12 สงขลา เตือนโรคไข้เลือดออกอันตรายในช่วงหน้าฝน แนะสังเกตอาการบุตรหลาน หากสงสัยป่วยเป็นไข้เลือดออก อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที
สคร.12 สงขลา แนะวิธีปฏิบัติให้ปลอดภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พร้อมแนะให้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรค มือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กเล็ก
สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรคเมลิออยโดสิส เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์วันไข้เลือดออกอาเซียน 2568 อาเซียนร่วมใจ สร้างอนาคตปลอดภัย ไม่ป่วยตายด้วยไข้เลือดออก