นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สาย Primary Distribution ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล (LHHOTEL) เปิดเผยว่า หลังจากที่กำหนดช่วงราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมเบื้องต้นของทรัสต์ LHHOTEL ที่ 13.00-13.30 บาทต่อหน่วย ล่าสุด ได้กำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ราคา 13.00 บาทต่อหน่วย เพื่อระดมทุนเข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ ทั้งสิ้น 3,835.3 ล้านบาท ซึ่งมาจากการระดมทุนโดยการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมประมาณ 2,915.3 ล้านบาท และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินประมาณ 920.0 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่เป็นนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันที่ไม่ได้นำส่งใบ Bookbuilding และผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ที่ไม่ใช่นักลงทุนสถาบัน (Public Offering) ที่ชำระเงินค่าจองซื้อที่ราคา 13.30บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์เบื้องต้นไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ทางผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์จะดำเนินการคืนเงินส่วนต่างราคาระหว่างราคาเสนอขายสุดท้ายกับราคาจองซื้อ ให้แก่ผู้จองซื้อทุกรายต่อไป
ขณะที่การเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนหลังจากเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมเมื่อวันที่ 26, 29-31 พฤษภาคม และ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา และเปิดให้ผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ที่ไม่ใช่นักลงทุนสถาบัน (Public Offering) จองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมเมื่อวันที่ 26, 29-31พฤษภาคม และ 1-2 และ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่านักลงทุนให้ความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในทรัสต์ LHHOTEL ส่งผลให้มียอดจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมเป็นที่น่าพอใจ สำหรับนักลงทุนสถาบันทั้งที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมหรือรายใหม่ที่ได้นำส่งใบ Bookbuilding จะสามารถทำการจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ราคาเสนอขายสุดท้ายที่ 13.00 บาทต่อหน่วยในวันที่ 7-9 มิถุนายนนี้
นางสาวเพียงดาว วัฒนายากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ในฐานะผู้เสนอขายหน่วยทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า มีความมั่นใจในศักยภาพของทรัสต์ LHHOTEL ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหน่วย หลังจากได้เข้าลงทุนเพิ่มเติมในโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่มีศักยภาพสูง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวใจกลางกรุงเทพฯ และใกล้รถไฟฟ้า BTS จึงได้รับนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและคนไทยเข้าพักอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เปิดตัวทรัสต์ LHHOTEL ที่เข้าลงทุนครั้งแรกในโครงการโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 เมื่อปลายปี 2558 ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีมาตลอด โดยสามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้อย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นทางเลือกการลงทุนสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนที่ดีและมีความผันผวนต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น
"การที่ทรัสต์ LHHOTEL สามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงเสนอขายหน่วยทรัสต์ครั้งแรก แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทรัพย์สินที่เข้าลงทุนและการบริหารโรงแรมที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เข้าลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ ก็มีผลการดำเนินงานที่ดี มีอัตราเข้าพัก ณ สิ้นไตรมาส 1/60 อยู่ที่ร้อยละ 90 ของจำนวนห้องพักทั้งหมด จึงเชื่อว่าจะช่วยเกื้อหนุนให้ทรัสต์ LHHOTEL มีผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น โดยหลังจากนี้คาดว่าจะนำหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายนนี้" นางสาวเพียงดาว กล่าว
                                                                                                                                        
                                                            
                                                                                                                            
                                                                                                                            
                            
                            วีซ่า จับมือ SCB และ Soft Space อัปเวลประสบการณ์ใช้จ่ายให้นักท่องเที่ยว ด้วย "Tap to Pay" แตะจ่ายง่าย นำร่องแหล่งชอปปิงทั่วกรุง
                        
                            กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ โดยธนาคารไทยพาณิชย์จับมือ NECTEC และ VISTEC ดึงศักยภาพเยาวชนสายวิทย์ทำโครงงาน "นวัตกรรมสีเขียวสู่ความยั่งยืนในยุค AI"
                        
                            "Skill Shift: Build Smart. Work Smarter." มจธ. ผนึกกำลังธนาคารไทยพาณิชย์ปั้นแรงงานไทยพร้อมรับมืออนาคตการทำงานยุค AI
                        
                            ไทยถูกปรับ Credit rating outlook ลงมาเป็นลบ กดดันเงินบาทอ่อนค่า SCB FM มองเงินบาทในกรอบ 31.00-32.00 บาทต่อดอลลาร์ ปลายปี
                        
                            กลุ่มเอสซีบีเอกซ์โดยธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมกับกองทัพอากาศส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่โรงเรียนและชุมชนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร
                        
                            SCB FM มอง Fed จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่เงินบาทจะแข็งค่าอีกไม่มาก เพราะตลาด Price-in การลดดอกเบี้ยของ Fed และ กนง. ไว้แล้ว
                        
                            ธนาคารไทยพาณิชย์รับมอบประกาศเกียรติคุณสถาบันการเงินที่รับบริจาคโลหิตสูงสุด ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน
                        
                            SCB FM มอง กนง. มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยต่อได้ ขณะที่เงินบาทอาจแข็งค่าเพราะตลาดได้คาดการณ์การลดดอกเบี้ยไว้แล้ว และดัชนีดอลลาร์อ่อนค่า
                        
                            ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% มีผลวันที่ 15 สิงหาคม 2568