ช่วงนี้หน้าฝน คนขับรถอาจจะต้องปวดหัวกับหลายๆ เรื่อง ทั้งฝนตก น้ำท่วม รถดับ แถมถ้าจะขับ ก็อาจจะต้องมานั่งงงๆ ว่าขับอย่างไร ถึงจะปลอดภัย วันนี้มีคำแนะนำง่ายๆ แค่ "3 ทริคดีๆ" ให้ขับขี่อย่างชาญฉลาดและปลอดภัย" ให้รู้กัน รวบรวมโดย บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ร่วมกันกับ TPRO (ทีโปร) สนามสอนการขับขี่อย่างปลอดภัย จัดโครงการ "เรียนรู้ขับขี่ปลอดภัยไปกับ TPRO" ขึ้น เลยขอสรุปรวมสิ่งที่น่าสนใจมาให้ไว้ง่ายๆ ด้วยกัน 3 ข้อ ได้แก่!
1. การขับขี่บนถนนลื่นๆ – ต้องบอกว่าข้อนี้มาเป็นอันดับต้นๆ เพราะเหมาะกับช่วงหน้าฝนแบบนี้เป็นที่สุด เลยมีทริคเล็กๆ ให้รู้กันเกี่ยวกับการขับขี่บนถนนที่มีความเสี่ยงต่อการลื่นไถล โดยปกติการขับขี่บนถนนปกติ การเบรกของรถ จะสามารถทำได้ในระยะปลอดภัย หากมีการระยะห่างที่เพียงพอและใช้ความเร็วที่ปานกลางไม่เร็วจนเกินไป
แต่หากในสภาวะถนนมีน้ำขัง หรือลื่นไถล ก็มีข้อควรระวัง เพราะ "น้ำ" เป็นปัจจัยที่ทำให้การเบรคของเรา "ไม่เหมือนเดิม"! อีกต่อไป น้ำจะทำให้ระยะในการเบรกเพิ่มมากขึ้น เช่น จากเดิมในพื้นที่ถนนแห้งเบรกได้ในระยะ 20 เมตร แต่กับพื้นถนนเปียกในความเร็วเท่ากันอาจเพิ่มขึ้นถึง 3 – 4 เท่า แต่ในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีการเบรก ABS ที่ช่วยเข้ามาซัพพอร์ตการขับขี่ให้ปลอดภัยได้เพิ่มเติมอีกด้วย
2. เมาไม่ขับ! ยังเป็นวลีจริงตลอดกาล โดยปัจจุบันมีโครงการรณรงค์ออกมามากมาย ส่วนผู้ที่อยากดื่ม แต่ก็อยากรับผิดชอบสังคมด้วยในเวลาเดียวกัน ก็ยังมีโครงการดีๆ ให้ใช้บริการได้ เช่น You Drink I Drive สตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ที่คิดแอพพลิเคชั่นนี้ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์นักดื่มและแก้ที่ต้นตอของอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น โดย คุณปรางค์ – อภินรา ศรีกาญจนา ผู้ก่อตั้ง เล่าว่า เป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ที่ดื่มและจำเป็นต้องขับขี่ โดยปัจจุบันสถิติของผู้ที่ต้องประสบอุบัติเหตุโดยที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ก่อหรือเหยื่อจากการเมาแล้วขับในประเทศไทย เพิ่มขึ้นทุกที หากวัดจากสถิติแล้ว ทุกๆ 3 วินาทีมีคนเป็นเหยื่อจากการเมาแล้วขับ จึงตั้งใจริเริ่มโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา
3. มีสติทุกครั้งเมื่อสตาร์ท! การสนใจสิ่งใดๆ รอบตัวเป็นนักสังเกตเป็นเรื่องดี แต่ทุกๆ ทีที่เมื่อเราสตาร์ท ต้องพึงระลึกถึงบทบาทของตัวเองว่าเป็นคนขับรถอยู่ ฉะนั้น จงมีสติกับการขับและการสังเกตสัญญานต่างๆ เช่น สัญญานไฟ ป้ายจราจรต่างๆ ซึ่งนั่นหมายความว่าสิ่งที่ทำให้เรารับรู้เป็นสิ่งแรกเมื่อขับรถคือ ดวงตา ที่จะสั่งงานทุกส่วนในร่างกายให้เหยียบเบรก หรือคันเร่ง ฉะนั้น เมื่อขับรถเราจำเป็นต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อเราต้องเจอกับสถานการณ์ไม่คาดคิด อาทิ เช่น การเห็นสัญญาณไฟที่บ่งบอกถึงอันตรายที่อยู่ข้างหน้า และเราจำเป็นต้องหักหลบ ในความเร็วเท่าไหร่ ต้องหักหลบอย่างไร สายตาของมนุษย์สามารถมองเห็นและตอบสนองต่อการขับขี่รถได้อย่างไร เหล่านี้ล้วนเป็นความรู้และสิ่งที่ผู้ขับขี่รถยนต์จำเป็นต้องรู้ เพื่อเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดเราจะได้สามารถผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้
เมื่อรู้ทริค 3 ข้อง่ายๆ แบบนี้แล้ว ก็เตรียมไปขับขี่กันอย่างปลอดภัย แบบสบายใจกันได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่น ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ใช้ความเร็วในแบบที่พอเหมาะกับถนนเส้นนั้นๆ เท่านี้ ถนนในบ้านเราก็จะลดอุบัติเหตุได้ไม่มากก็น้อย!
1. การขับขี่บนถนนลื่นๆ – ต้องบอกว่าข้อนี้มาเป็นอันดับต้นๆ เพราะเหมาะกับช่วงหน้าฝนแบบนี้เป็นที่สุด เลยมีทริคเล็กๆ ให้รู้กันเกี่ยวกับการขับขี่บนถนนที่มีความเสี่ยงต่อการลื่นไถล โดยปกติการขับขี่บนถนนปกติ การเบรกของรถ จะสามารถทำได้ในระยะปลอดภัย หากมีการระยะห่างที่เพียงพอและใช้ความเร็วที่ปานกลางไม่เร็วจนเกินไป
แต่หากในสภาวะถนนมีน้ำขัง หรือลื่นไถล ก็มีข้อควรระวัง เพราะ "น้ำ" เป็นปัจจัยที่ทำให้การเบรคของเรา "ไม่เหมือนเดิม"! อีกต่อไป น้ำจะทำให้ระยะในการเบรกเพิ่มมากขึ้น เช่น จากเดิมในพื้นที่ถนนแห้งเบรกได้ในระยะ 20 เมตร แต่กับพื้นถนนเปียกในความเร็วเท่ากันอาจเพิ่มขึ้นถึง 3 – 4 เท่า แต่ในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีการเบรก ABS ที่ช่วยเข้ามาซัพพอร์ตการขับขี่ให้ปลอดภัยได้เพิ่มเติมอีกด้วย
2. เมาไม่ขับ! ยังเป็นวลีจริงตลอดกาล โดยปัจจุบันมีโครงการรณรงค์ออกมามากมาย ส่วนผู้ที่อยากดื่ม แต่ก็อยากรับผิดชอบสังคมด้วยในเวลาเดียวกัน ก็ยังมีโครงการดีๆ ให้ใช้บริการได้ เช่น You Drink I Drive สตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ที่คิดแอพพลิเคชั่นนี้ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์นักดื่มและแก้ที่ต้นตอของอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น โดย คุณปรางค์ – อภินรา ศรีกาญจนา ผู้ก่อตั้ง เล่าว่า เป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ที่ดื่มและจำเป็นต้องขับขี่ โดยปัจจุบันสถิติของผู้ที่ต้องประสบอุบัติเหตุโดยที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ก่อหรือเหยื่อจากการเมาแล้วขับในประเทศไทย เพิ่มขึ้นทุกที หากวัดจากสถิติแล้ว ทุกๆ 3 วินาทีมีคนเป็นเหยื่อจากการเมาแล้วขับ จึงตั้งใจริเริ่มโปรเจ็กต์นี้ขึ้นมา
3. มีสติทุกครั้งเมื่อสตาร์ท! การสนใจสิ่งใดๆ รอบตัวเป็นนักสังเกตเป็นเรื่องดี แต่ทุกๆ ทีที่เมื่อเราสตาร์ท ต้องพึงระลึกถึงบทบาทของตัวเองว่าเป็นคนขับรถอยู่ ฉะนั้น จงมีสติกับการขับและการสังเกตสัญญานต่างๆ เช่น สัญญานไฟ ป้ายจราจรต่างๆ ซึ่งนั่นหมายความว่าสิ่งที่ทำให้เรารับรู้เป็นสิ่งแรกเมื่อขับรถคือ ดวงตา ที่จะสั่งงานทุกส่วนในร่างกายให้เหยียบเบรก หรือคันเร่ง ฉะนั้น เมื่อขับรถเราจำเป็นต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อเราต้องเจอกับสถานการณ์ไม่คาดคิด อาทิ เช่น การเห็นสัญญาณไฟที่บ่งบอกถึงอันตรายที่อยู่ข้างหน้า และเราจำเป็นต้องหักหลบ ในความเร็วเท่าไหร่ ต้องหักหลบอย่างไร สายตาของมนุษย์สามารถมองเห็นและตอบสนองต่อการขับขี่รถได้อย่างไร เหล่านี้ล้วนเป็นความรู้และสิ่งที่ผู้ขับขี่รถยนต์จำเป็นต้องรู้ เพื่อเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิดเราจะได้สามารถผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้
เมื่อรู้ทริค 3 ข้อง่ายๆ แบบนี้แล้ว ก็เตรียมไปขับขี่กันอย่างปลอดภัย แบบสบายใจกันได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่น ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ใช้ความเร็วในแบบที่พอเหมาะกับถนนเส้นนั้นๆ เท่านี้ ถนนในบ้านเราก็จะลดอุบัติเหตุได้ไม่มากก็น้อย!
เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส จัดกิจกรรมอบรมกฎหมายจราจร ประจำปี 2568 ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนน
บ๊อชฉลอง 30 ปี ABS ในรถจักรยานยนต์ ยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย
กรมการขนส่งทางบกร่วมกับโบลท์ ประเทศไทย จัดโครงการ "SMART DRIVER" เสริมความรู้และทักษะการขับขี่ปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปฯ
ชวนเด็กๆ อบรมฟรี! ที่ฟิวเจอร์ พาร์ค และสเปลล์
โบลท์ ประเทศไทย ร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร จัดงาน "Bolt Road Safety" เสริมสร้างความปลอดภัย เพื่อทุกคนบนท้องถนน
ไทยฮอนด้า ผนึกกำลัง สจล. เดินหน้าเสริมเกราะป้องกันชีวิตเยาวชนไทย มอบหมวกกันน็อก 500 ใบ สร้างวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัยในกลุ่มนักศึกษา
คู่มือเลือกยางรถยนต์ตามประเภทรถ อัปเดตล่าสุด เลือกให้ตรงการใช้งาน ขับขี่ปลอดภัย คุ้มค่ากว่า
LINE MAN สานพลัง ฮอนด้า และภาคีฯ จัดอบรมขับขี่ปลอดภัยแก่ไรเดอร์ลุยภารกิจสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนถนน
ไทยฮอนด้า เดินหน้าสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน จัดประชุม Supplier Traffic Safety Awards 2025 หนุนซัพพลายเออร์ลดอุบัติเหตุสู่เป้าหมายอุบัติเหตุเป็นศูนย์