บล.เอเชีย เวลท์ คาด FED ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้แน่ แนะนำซื้อหุ้นปันผลเด่น QH ราคาเป้าหมาย IAA 3.23 บาท

12 Jun 2017
บล.เอเชีย เวลท์ คาดสัปดาห์นี้ ปัจจัยต่างประเทศยังคงกดดันตลาดหุ้น โดยคาด ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้แน่ พร้อมแนะนำหุ้นปันผลเด่น พื้นฐานแกร่ง QH อ้างอิงราคาเป้าหมายจาก IAA consensus 3.32 บาท และประเมินมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) 4.28 บาท
บล.เอเชีย เวลท์ คาด FED ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้แน่ แนะนำซื้อหุ้นปันผลเด่น QH ราคาเป้าหมาย IAA 3.23 บาท

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยติดตามสัปดาห์นี้ ฝรั่งเศสเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรอบแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งผลการเลือกตั้งเมื่อนับคะแนนมากกว่า 90% พรรคการเมืองของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง และพรรคที่เป็นพันธมิตรนำมาห่างจนตลาดคาดว่า จะชนะด้วยเสียงข้างมากในผลสุดท้าย โดยจะมีการเลือกรอบ 2 ในวันอาทิตย์หน้านี้ (18 มิ.ย.)

ด้านการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 13-14 มิ.ย. นี้ ตลาดคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้มากกว่า 90% ที่จะขึ้นดอกเบี้ย 25 จุดของร้อยละ และคาดว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้ การขึ้นดอกเบี้ยของ FED น่าจะส่งผลดีในระยะยาวต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทยด้วยแต่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะยังคงไม่เกิดขึ้นในอีกหลายไตรมาส

นอกจากนี้ สัปดาห์นี้จะต้องติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 16 มิ.ย. ด้านอังกฤษ นั้นหลังจากผลการเลือกตั้งในสัปดาห์ก่อน ทำให้มีโอกาสที่อังกฤษจะต้องเปลี่ยนรัฐบาล หาก เทเรซา เมย์ ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะประชุมในวันที่ 15 มิ.ย. ไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้ใน 2 ปีข้างหน้าจากเรื่อง Brexit

ดังนั้น จากปัจจัยต่างประเทศที่มีความไม่แน่นอนสูง ทำให้คาดว่า ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ จะไปไหนได้ไม่ไกลนะ โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งอาจหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น ไปลงทุนในพันธบัตร ทองคำ ฯลฯ ด้านเม็ดเงินลงทุนในเอเชีย ไม่น่าจะไหลกลับยุโรป เพราะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากกรณีเลือกตั้งของอังกฤษ รวมถึงเม็ดเงินลงทุนในไทย ยังคงอยู่ แต่จะอยู่มากในตลาดพันธบัตร สังเกตได้จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก ทั้งนี้ คาด SET Index สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,562-1,572 จุด

สำหรับ Trading Idea สัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ จากการที่ตลาดหุ้นยังจะเคลื่อนไหว sideways ไปอีกพอสมควรจากปัจจัยการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ในต่างประเทศ เราจึงเลือกหุ้นพี้นฐานแกร่งที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงและมีผลประกอบการที่ดีเป็นหุ้นแนะนำในสัปดาห์นี้ คือ หุ้น QH ของ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) โดยราคาเป้าหมายจากค่าเฉลี่ยของสมาคมนักวิเคราะห์ (IAA consensus) อยู่ที่ 3.32 บาท

QH เป็นหุ้น Value Stock ที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง มีสินทรัพย์ซ่อนอยู่ในการลงทุนผ่านบริษัทในเครือ โดย QH มีเงินลงทุนในหลักทรัพย์รวม 3.4 หมี่นล้านบาท คิดเป็น 3.16 บาทต่อหุ้น จากการถือหุ้นใน HMPRO ที่ 20% LHBANK ที่ 21% QHHR ที่ 31% และ QHPF ที่ 26% ในขณะที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ QH มีมูลค่า 3.7 หมี่นล้านบาท หรือ 3.45 บาทต่อหุ้น หักด้วยภาระหนี้สุทธิ 2.5 หมี่นล้านบาท หรือ 2.33 บาทต่อหุ้น ทำให้มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของ QH อยู่ที่ประมาณ 4.6 หมี่นล้านบาท หรือ 4.28 บาทต่อหุ้น QH ตั้งเป้ายอด presales ปี 2560 ราว 1.18 หมี่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 17% YoY คาดการณ์รายได้ประมาณ 1.9 หมี่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 6% YoY และคาดว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 1.15 หมี่นล้านบาท +28% YoY (33% เป็นบ้านเดี่ยว 67% เป็นทาวน์เฮาส์ และไม่มีคอนโดมิเนียมใหม่)

เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ QH จะดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีหลังจากผลประกอบการไตรมาส 1/60 ชะลอตัวที่ 653 ล้านบาท, -12% YoY และ -4% QoQ เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์ล่าช้าในไตรมาส 1/60

"ประมาณการของ IAA คาดว่า EPS จะเติบโต 11% เป็น 0.32 บาท สำหรับปี 2560 และ 8.6% เป็น 0.35 บาทในปี 2561 ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายกันที่ PER ปี 60 เพียง 8.1 เท่า และมีส่วนต่างอีก 40% จาก NAV นอกจากนี้ QH ยังมีอัตราเงินปันผลตอบแทนอีกในระดับสูง 5.9% ต่อปี" นายวรุตม์ กล่าว

ด้านรูปแบบราคา ยังคงมีความแข็งแกร่งในแนวโน้มหลักที่เป็นขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้งสัญญาณซื้อรายวันและรายเดือน รอเพียงการเกิดสัญญาณซื้อรายสัปดาห์ครั้งใหม่ โดยปิดตลาดรายสัปดาห์ให้ได้เหนือ 2.62 บาท และ QH มีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 2.78 บาท ซึ่งถ้า Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 2.78 บาท จะมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 3.02 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 3.26 บาท ตามลำดับ มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 2.40 บาท โดนมีแนวต้าน 2.60, 2.62, และ 2.66 บาท และแนวรับ 2.56, 2.54, และ 2.50 บาท