กพช. ผลักดันการพัฒนาศักยภาพการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ในรูปแบบ FiT สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้า SPP Hybrid Firm และ VSPP Semi-Firm

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้า SPP Hybrid Firm และ VSPP Semi-Firm 
          ที่ทำเนียบรัฐบาล การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมี  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก แบบ SPP Hybrid Firm และผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก แบบ VSPP Semi-Firm โดยมีเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าทั้งหมด 568 เมกะวัตต์ เป็นการรับซื้อไฟฟ้าจาก SPP Hybrid-Firm จะใช้สำหรับการเปิดรับซื้อเฉพาะโรงไฟฟ้าใหม่ และขายเข้าระบบเป็น SPP ขนาดมากกว่า 10 MW แต่ไม่เกิน 50 MW โดยสามารถใช้เชื้อเพลิง ได้มากกว่าหรือเท่ากับ 1 ประเภท ไม่กำหนดสัดส่วน และใช้ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ร่วมได้ ต้องเป็นสัญญาประเภท Firm กับ กฟผ. เท่านั้น (เดินเครื่องผลิตไฟฟ้า 100% ในช่วง Peak และ ในช่วง Off-peak ไม่เกิน 65 % โดยอาจต่ำกว่า 65% ได้ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามที่ กกพ.กำหนด) ห้ามใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมาช่วยในการผลิตไฟฟ้า ยกเว้นช่วงการเริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้า (Start up) มีมิเตอร์ซื้อขายไฟฟ้าจุดเดียวกัน และติดตั้ง Unit Monitoring Meter (UMM) โดยจะมีบทปรับที่เหมาะสมหากไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตามสัญญา รวมทั้งต้องมีแผนการจัดหาเชื้อเพลิง และต้องมีแผนการพัฒนาเชื้อเพลิงใหม่เพิ่มเติมในพื้นที่ร่วมด้วย เช่น การปลูกพืชพลังงาน เป็นต้น มีกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ภายในปี 2563 โดยให้รับซื้อไฟฟ้าในลักษณะ Competitive Bidding ใช้อัตรา FiT เดียวแข่งกันทุกประเภทเชื้อเพลิง โดยโครงการที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2560 ให้มีอัตราการรับซื้อ 3.66 บาทต่อหน่วย 
          ส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจาก VSPP Semi-Firm จะใช้สำหรับการเปิดรับซื้อเฉพาะโรงไฟฟ้าใหม่ ประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล ก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) และก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) สามารถใช้ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) ร่วมได้ ต้องเป็นสัญญาประเภท Firm จำนวน 6 เดือน (เดินเครื่องผลิตไฟฟ้า 100% ในช่วง Peak และ ในช่วง Off-peak ไม่เกิน 65 % โดยอาจต่ำกว่า 65% ได้ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามที่ กกพ.กำหนด) โดยจะต้องครอบคลุมเดือนที่คาดว่าจะมีการใช้พลังไฟฟ้าสูงสุด 4 เดือน (มีนาคม – มิถุนายน) และสำหรับ 6 เดือนที่เหลือจะเป็นสัญญา Non-Firm ห้ามใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลช่วยในการผลิตไฟฟ้า ยกเว้นช่วง Start up โรงไฟฟ้า ต้องมีแผนการจัดหาเชื้อเพลิง และต้องมีแผนการพัฒนาเชื้อเพลิงใหม่เพิ่มเติมในพื้นที่ร่วมด้วย เช่น การปลูกพืชพลังงาน เป็นต้น มีกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ภายในปี 2562 โดยให้รับซื้อไฟฟ้าในลักษณะ Competitive Bidding ใช้อัตรา FiT แบ่งตามประเภทเชื้อเพลิง โดยชีวมวล ในอัตรา 4.24 – 4.82 บาทต่อหน่วย ตามกำลังผลิตติดตั้ง ก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) ในอัตรา 3.76 บาทต่อหน่วย และก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) ในอัตรา 5.34 บาทต่อหน่วย พร้อมมี FiT ส่วนเพิ่มพิเศษ (FiT Premium) 0.30-0.50 บาทต่อหน่วย สำหรับการขายไฟฟ้าในรูปแบบ Firm ที่มีระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และสำหรับโครงการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา จะได้รับ FiT Premium เพิ่มอีก 0.50 บาทต่อหน่วย 
          ทั้งนี้ ให้รับซื้อไฟฟ้าโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก แบบ SPP Hybrid Firm ในปริมาณ 300 เมกะวัตต์ก่อน หลังจากนั้นให้เปิดรับซื้อไฟฟ้าโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก แบบ VSPP Semi-Firm 269 เมกะวัตต์ โดยมอบหมายให้ กกพ. และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กำหนดปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าแบ่งเป็นรายภูมิภาคตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ และนำเสนอให้ กบง.พิจารณาเห็นชอบ ก่อนออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าฯ ตามขั้นตอนต่อไป 
          นอกจากนี้ ที่ประชุม กพช. เห็นชอบร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการน้ำเทิน 1 จำนวน 515 เมกะวัตต์ ภายใต้บันทึกความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทยกับ สปป.ลาว โดยมอบหมายให้ กฟผ. ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับผู้พัฒนาโครงการ เมื่อร่างสัญญาฯ ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ทั้งนี้ ที่ประชุม กพช. ยังได้รับทราบความคืบหน้าโครงการไฟฟ้าพลังน้ำสตึงมนัม ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือด้านพลังงานและบริหารจัดการน้ำร่วมกัน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) กรมทรัพยากรน้ำ และกรมชลประทาน ประสานกับกระทรวงพลังงาน เพื่อวางแผนในการนำน้ำจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำสตึงมนัมไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ภาคตะวันออกต่อไป
กพช. ผลักดันการพัฒนาศักยภาพการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน  ในรูปแบบ FiT สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้า SPP Hybrid Firm และ VSPP Semi-Firm
 
 

ข่าวo:bus+o:eneวันนี้

BCPG รุกตลาดโซลาร์รูฟท็อป เข้าซื้อ 32 โครงการ กำลังการผลิตรวม 17.5 เมกะวัตต์ หนุนพอร์ตพลังงานสะอาด-เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน

บีซีพีจี เดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ล่าสุดลงนามในสัญญาขื้อขายหุ้นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา จำนวน 32 โครงการ กำลังการผลิต 17.5 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท เสริมศักยภาพธุรกิจพลังงานสะอาดในรูปแบบ Private PPA ตอกย้ำบทบาทในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ของประเทศไทย นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นใน

บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาช... สหพัฒน์ จับมือ ราชพัฒนา เปิดตัวโครงการ Solar Floating ริมรันเวย์สนามบิน ใน 4 สวนอุตสาหกรรม — บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI เดินหน้า...

งานประกาศรางวัล ASIA TOP AWARDS 2025 จัดข... วศิน วรรณพฤกษ์ คว้ารางวัลผู้บริหารงานการตลาดภาครัฐยอดเยี่ยม จากเวที ASIA TOP AWARDS 2025 — งานประกาศรางวัล ASIA TOP AWARDS 2025 จัดขึ้น เมีอวันที่ 19 กรกฎ...

The rhythmic hum of machines never ceases... A New Generation Carrying Forward a Father's Dream in the Thaiwattana Rice Mill Legacy — The rhythmic hum of machines never ceases just like Watthana Wani...

บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน)... โพรโพลิซ' คว้ารางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2025 — บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TMAN สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญคว้ารางวัล Marketee...