ECF รุกปรับโครงสร้างธุรกิจโฮลดิ้งคอมพานี เดินหน้าลุยพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ วางเงินมัดจำเข้าศึกษาความเป็นไปได้ โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล TRUE-P ในรูปแบบเงินให้กู้ระยะสั้น 50ล้านบาท

28 Mar 2017
ECF รุกปรับโครงสร้างธุรกิจโฮลดิ้งคอมพานี เดินหน้าลุยพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ วางเงินมัดจำเข้าศึกษาความเป็นไปได้ โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล TRUE-P ในรูปแบบเงินให้กู้ระยะสั้น 50ล้านบาท พร้อมแจงความคืบหน้า ยังอยู่ระหว่างดำเนินงาน เตรียมต่ออายุวงเงินหลังครบกำหนด 26 มี.ค.
ECF รุกปรับโครงสร้างธุรกิจโฮลดิ้งคอมพานี เดินหน้าลุยพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ วางเงินมัดจำเข้าศึกษาความเป็นไปได้ โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล TRUE-P ในรูปแบบเงินให้กู้ระยะสั้น 50ล้านบาท

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในธุรกิจต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการดำเนินธุรกิจในลักษณะของโฮลดิ้งคอมพานี ซึ่งมีรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ พลังงาน และร้านค้าปลีก

"บริษัทมีแผนขยายธุรกิจด้านพลังงานอย่างจริงจัง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าจะช่วยสร้างผลประกอบการที่ดีขึ้น สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ดังนั้นหากมีโครงการพลังงานทดแทนที่มีความน่าสนใจทั้งในและต่างประเทศ บริษัทพร้อมที่จะเข้าไปศึกษาโครงการนั้นๆ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนกิจการ"นายอารักษ์ กล่าว

สำหรับกรณีการเซ็นต์ MOU เข้าศึกษาความเป็นไปได้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล TRUE-P ในรูปแบบวางเงินมัดจำเงินให้กู้ระยะสั้น 50 ล้านบาท แก่บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) ที่ครบกำหนดเมื่อ 26 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบฐานะกิจการ (Due Diligence) เพื่อประกอบการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลของ บริษัท ทรู เอ็นเนอร์ยี่ เพาเวอร์ ลพบุรี จำกัด ("TRUE-P") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ IFEC อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขการวางเงินมัดจำเพื่อประกอบการเข้าศึกษาความเป็นไปได้ จนกว่าผลการพิจารณาตัดสินใจเข้าลงทุนจะมีความชัดเจน และในส่วนของรายการเงินให้กู้ยืมระยะสั้นยังอยู่ระหว่างการติดตามกับทาง IFEC ถึงแนวทางการต่ออายุวงเงินกู้ยืมระยะสั้นดังกล่าว ซึ่งบริษัทยังคงดำเนินการคำนวณดอกเบี้ยที่อัตราร้อยละ 6.25 ต่อปีตามปกติ และยังไม่ได้พิจารณาดำเนินการใดๆกับหลักประกันที่มีอยู่ในขณะ