เต้นเพื่อสานต่อ “บีบอย ป้อมพระสุเมรุ” หวั่นจะเหลือแค่เพียงตำนาน บทความมูลนิธิสยามกัมมาจล

          บทความมูลนิธิสยามกัมมาจล
          BBOY ประเทศไทย ในนาม "ทีมพระสุเมรุ" ขอเชิญชวนเยาวชนไทยที่รักการเต้นเข้าชมการแข่งขันการประกวดเต้น BBOY ประจำปี 2560 ที่ดึงประเทศอาเซียนทั้งพม่า ลาว เวียดนาม มาร่วมโชว์สเต็ป ในวันที่11 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 16.00-23.00 น. ณ ป้อมพระสุเมรุ กรุงเทพฯ
          นายบุญประเสริฐ ศาลางาม หรือ "โอมาน" เผยถึงการจัดการแข่งขันการประกวดเต้น BBOY ประจำปี 2560 ที่จะมีความโดดเด่นกว่าทุกปีที่ผ่านมาคือการดึงประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง พม่า ลาว เวียดนาม ให้เข้ามาแข่งขันด้วย" เมื่อก่อนเราผลักดันให้เด็กเราไปแข่งที่ต่างประเทศ แต่ไปได้ไม่กี่กลุ่ม ผมเลยคิดว่ะจะทำอย่างไรให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศแข่งขันเหมือนกัน ปีนี้ก็เลยชวนเพื่อนๆ ต่างประเทศมาแข่งขันบ้านเราบ้าง เริ่มที่ประเทศใกล้ๆ ก่อน จะได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ถ้ามีคนเก่งๆ แข่งขันก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่เก่งมา ก็ถือว่าเขามาหาความรู้จากเรา ได้มาเห็นอะไรแปลกใหม่ ที่เราคิดแบบนี้เพราะมันเหมือนตัวเราเองเริ่มจากจุดที่หาดูงานเต้นยาก กว่าจะได้ดูเขาเต้นเราต้องเดินทางไปไกล พอเราโตเราก็คิดถึงเด็กๆ คิดว่าเราทำแบบนี้ดีกว่า คนที่มาก็จะได้ดูอะไรหลายๆ อย่าง แล้วคอนเซ็ปต์งานเรา เราจะมีทุกอย่างที่เกี่ยวกับสิ่งที่วัยรุ่นทำ สิ่งที่เกี่ยวกับฮิพฮอพ อย่างปีนี้ก็จะมีกราฟวิตี้ที่เขาได้แชมป์ปีที่แล้วมาพ่นโชว์ มีดีเจ มีเอ็มซี อะไรแบบนี้ ใครชอบแนวไหนก็ให้เขาไปหาความรู้แนวนั้นเลย แล้วดีอย่างหนึ่งที่เราได้กรรมการเกาหลีระดับโลก 2 คน มาเป็นกรรมการด้วย"
          ปีนี้การประกวดมีเพิ่มประกวดการเต้นที่สาวๆ นิยมคือ ทเวิร์ค แต่ละปีจะมีการจัดการแข่งขันการเต้นประเภทอื่นๆ ด้วย ตามกระแสฮิต การประกวดปีนี้ การแข่งขันบีบอย จำกัดแค่ 32 ทีมๆละ 5 คน ส่วนแข่งเต้นทเวร์ค เป็นการแข่งขันเดี่ยวเฉพาะผู้หญิงประมาณ 10 กว่าคน เป็นการเพิ่มสีสันให้ไม่น่าเบื่อ และมีวิทยากรเกี่ยวกับฮิพฮอพ มาเป็นวิทยากรเด็ก เพราะว่าการแร็พ การฮิพฮอพ กำลังมา ก็พามาให้ความรู้กับเด็กๆ ด้วย
          โอมานเสริมต่อว่าการจัดงานของกลุ่มตนไม่ได้คาดหวังอะไรไปมากกว่าให้บีบอยมีสานต่อรุ่นต่อรุ่น ให้บีบอยป้อมพระสุเมรุ ไม่ได้เป็นเพียงตำนานเท่านั้น "แค่ทำไม่ให้มันหายไป แต่ก็พยายามผลักดันเล็กๆ ถ้ามันประสบความสำเร็จได้อย่างที่คิดให้คนมางานเราแล้วได้ศึกษาบีบอยอะไรอย่างนี้ครับ" โอมานพูดถึงความกังวลและความพยายามในการต่อลมหายใจของบีบอย ป้อมพระสุเมรุว่า พอเสร็จงานที่ป้อมฯ ช่วงเปิดเทอมปุ๊บตนกับเพี่อนๆ จะเข้าไปที่โรงเรียนแถวๆ วัดสังเวช และวัดบวรนิเวศฯ เพื่อหาเด็กที่จะมาเป็นนักเต้นรุ่นต่อไป หากใครสนใจก็จะให้สอนฟรีๆ แต่เด็กที่ต้องการคือเด็กระดับประถมมากกว่าระดับมัธยม เพราะว่ายังสอนง่าย สอนอะไรก็ยังฟังอยู่ โดยการประชาสัมพันธ์ก็เข้าไปที่หอประชุมของแต่ละโรงเรียนไปพูดเชิญชวนกับน้องๆ เอาผลงาน เอาสื่อที่เคยออกรายการโทรทัศน์ไปให้เขาดูและให้เห็นประโยชน์ของการเล่นบีบอยที่เป็นการออกกำลังกายแบบหนึ่งด้วย "ผมอยากให้มีคนสืบทอด ไม่อยากให้มันหายไป ผมก็เลยทำโครงการเพื่อสานต่อคือตามหาคนสืบทอดรุ่นสู่รุ่น ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กในโรงเรียนบริเวณป้อมฯ ประมาณ 20 คน สุดท้ายจะเหลือสักกี่คนไม่รู้ เราก็อยากให้มีคนสืบทอด ให้เป็นแลนด์มาร์กคงไว้คู่กรุงเทพฯ ฝรั่งเขายังเอาไปทำแอนิเมชั่นเลย เดินเข้าไปมันมีบีบอยเต้น ก็อยากให้มันเป็นเอกลักษณ์แบบนั้น" ปีนี้อยากฝากคนไปดูว่าลองไปสัมผัสดู พราะไม่ได้เก็บค่าเข้าชม แค่ลองแวะไปดูจะได้รู้ว่าวงการบีบอยเป็นอย่างไร เหมือนภาพภายนอกที่ทุกคนชอบคิดว่าเป็นเด็กไม่ดีหรือไม่ งานเริ่มตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึง 5ทุ่ม โอมานเชิญชวนตบท้าย

เต้นเพื่อสานต่อ “บีบอย ป้อมพระสุเมรุ” หวั่นจะเหลือแค่เพียงตำนาน บทความมูลนิธิสยามกัมมาจล

ข่าวบทความมูลนิธิสยามกัมมาจล+บุญประเสริฐ ศาลางามวันนี้

เหตุผลที่ “เด็กเกเร” กลับใจ บทความมูลนิธิสยามกัมมาจล

33 อปท.นำร่อง “ชุมชนและท้องถิ่นจัดการตนเอง” ชูยุทธศาสตร์ “การมีส่วนร่วม-ใจติดชุมชน”

“อบต.เมืองลีง” ไม่ทิ้งเด็กกลุ่มเสี่ยง ดึง“เด็กแว๊นกลับใจ” คืนความสุขให้ชุมชน

จุดกระแสรักป่า“เยาวชนเมืองน่าน”