แนวทางการปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน (สหกรณ์ฯ)ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กระทรวงการคลังได้เสนอแนวทางการปฏิรูประบบ การบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแนวทางดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 โดยประกอบด้วย 4 แนวทาง ได้แก่ 1) ให้มีการกำกับดูแลกิจการทางการเงินของสหกรณ์ฯ 2) จัดทำร่างระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ว่าด้วยการกำกับดูแลกิจการทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ. .... 3) ปรับปรุงโครงสร้างระบบการกำกับดูแลสหกรณ์ฯ ให้มีความเป็นอิสระและคล่องตัว และ 4) พัฒนาฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศของสหกรณ์ฯ ให้มีความทันสมัย สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
          1) ให้มีการกำกับดูแลกิจการทางการเงินของสหกรณ์ฯ ให้มีการกำกับดูแลทางการเงินของสหกรณ์ฯ โดยนำหลักการการกำกับดูแลสถาบันการเงินของ Basel Committee on Banking Supervision (Basel I) มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของสหกรณ์ฯ โดยแบ่งสหกรณ์ฯ เป็น 2 ระดับ (Tiered Supervision) ตามขนาดสินทรัพย์ของสหกรณ์ฯ ได้แก่ 1) สหกรณ์ฯ ขนาดใหญ่ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 5,000 ล้านบาท และ 2) สหกรณ์ฯ ขนาดเล็กที่มีขนาดสินทรัพย์น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท โดยหลักเกณฑ์การกำกับดูแลความมั่นคงทางการเงินสำหรับสหกรณ์ฯ ขนาดใหญ่จะมีความเข้มงวดกว่าสหกรณ์ฯ ขนาดเล็ก เนื่องจากสหกรณ์ฯ ขนาดใหญ่มีการทำธุรกรรมทางการเงินที่ซับซ้อนและมีความเชื่อมโยงกับสหกรณ์อื่น ๆ ในระบบสหกรณ์มากกว่าสหกรณ์ฯ ขนาดเล็ก ซึ่งหากกำกับดูแลไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบสหกรณ์ได้ 
          2) จัดทำร่างระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ว่าด้วยการกำกับดูแลกิจการทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ. .... ร่างระเบียบนายทะเบียนฯ ประกอบด้วย 4 หมวด ดังนี้ 1) ด้านธรรมาภิบาล เช่น ให้มีการถ่วงดุลอำนาจในสหกรณ์ฯ โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อ กำหนดให้สมาชิกสมทบของสหกรณ์ต้องเป็น บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของสมาชิกสหกรณ์ฯ นั้น กำหนดให้งบการเงินของสหกรณ์เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีไทย เป็นต้น 2) ความเสี่ยง ด้านเครดิต เช่น ปรับปรุงแนวทางการจัดชั้นสินเชื่อให้สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้อย่างแท้จริงและ มีการกันสำรองให้สอดคล้องกับคุณภาพสินเชื่อ กำหนดอัตราส่วนหนี้ต่อทุนให้ไม่เกิน 1.5 เท่า กำหนดให้ภาระหนี้ต่อรายได้ของสมาชิกต่อรายได้รวมให้ไม่เกินร้อยละ 70 เป็นต้น 3) ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง เช่น แก้ไขนิยามสินทรัพย์ ที่สหกรณ์ฯ สามารถนับเป็นสินทรัพย์สภาพคล่องได้ และกำหนดให้สหกรณ์ดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องขั้นต่ำเท่ากับร้อยละ 6 เป็นต้น และ 4) ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ เช่น กำหนดแนวทางปฏิบัติด้านการควบคุมภายในที่ช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการผิดพลาดจากการดำเนินการและการทุจริตของคณะกรรมการดำเนินการและผู้บริหารสหกรณ์ฯ เป็นต้น 
          3) ปรับปรุงโครงสร้างระบบการกำกับดูแลสหกรณ์ฯ ให้มีความเป็นอิสระและคล่องตัว ควรแยกโครงสร้างการกำกับดูแลความมั่นคงของสหกรณ์ฯ ออกจากหน่วยงานที่ทำหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ฯ เพื่อให้การกำกับดูแลมีความเป็นอิสระและคล่องตัว โดยการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับและตรวจสอบ การประกอบกิจการทางการเงินของสหกรณ์ฯ ขึ้นเพื่อทำหน้าที่พัฒนาหลักเกณฑ์การกำกับและตรวจสอบการประกอบกิจการทางการเงินของสหกรณ์ฯ เป็นการเฉพาะ โดยให้แยกออกจากคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติที่ทำหน้าที่ในการส่งเสริมและพัฒนาระบบสหกรณ์เป็นหลัก และองค์ประกอบของคณะกรรมการดังกล่าวนั้น ควรมีผู้แทนจากองค์กรกำกับดูแลทางการเงินและมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการเงิน การธนาคาร โดยต้องไม่เป็นผู้บริหารสหกรณ์ฯ และผู้นำขบวนการสหกรณ์ฯ เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of Interests)
          4) พัฒนาฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศของสหกรณ์ฯ ให้มีความทันสมัยกำหนดให้สหกรณ์ฯ นำส่งข้อมูลที่จำเป็นต่อการกำกับและตรวจสอบกิจการของสหกรณ์ฯ เพื่อให้หน่วยงานที่กำกับดูแลสามารถติดตามฐานะและผลการดำเนินงานการประกอบกิจการทางการเงินของสหกรณ์ฯ ได้อย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนมีข้อมูลทางการเงินที่จะใช้ในการออกหลักเกณฑ์การกำกับดูแลความมั่นคงทางการเงิน ได้อย่างเหมาะสม
          นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า "สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนถือเป็นตัวกลางทางการเงินที่มีความสำคัญเป็นอันดับที่ 3 ในระบบสถาบันการเงิน รองจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท และมีสมาชิกรวมกันกว่า 3.7 ล้านคน ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงเล็งเห็นความสำคัญของการปฏิรูปการกำกับดูแลการประกอบกิจการทางการเงินของสหกรณ์ทั้งสองประเภท ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยคุ้มครองผลประโยชน์ และป้องกันผลกระทบต่อสมาชิกสหกรณ์และเสถียรภาพของระบบการเงินของประเทศ รวมถึงเป็นการเพิ่มความมั่นใจของประชาชนต่อระบบสหกรณ์ และให้สหกรณ์ทั้งสองประเภทเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกที่ยั่งยืนแก่สมาชิกและประชาชนต่อไป"

          สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

          โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3219
โทรสาร 0 2618 3366
 
 

ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง+สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนวันนี้

ม.ศรีปทุม ผนึกกำลังผู้เชี่ยวชาญ เรียนรู้ "การวางแผนบริหารจัดการทางการเงินและการคุ้มครองเงินฝาก" พัฒนานักศึกษาบัญชีให้เป็นมืออาชีพ

ผศ.ดร.ฐิตาภรณ์ สินจรูญศักดิ์ คณบดีคณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม จัดกิจรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ตามโครงการ เรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง ในหัวข้อ "การวางแผนบริหารจัดการทางการเงินและการคุ้มครองเงินฝาก" โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ คุณบรรพชัย พุฑฒิบัณฑิต ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบการคุ้มครอนงผลประโยชน์ทางการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ,คุณปภินวิช ไหวดี เศรษฐกรชำนาญการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง และ คุณผกามาศ สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายส่ง

มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้โดยบริษัทร่วมทุนระหว่าง SFIs และ บบส. (JV AMC) และมาตรการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระให้แก่ลูกหนี้ตามนโยบายรัฐบาล

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566...

ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภั... สมาคมประกันวินาศภัยไทย แสดงความยินดี ครบรอบ 62 ปี สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง — ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดีเ...

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนา... EXIM BANK เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 4/2566 — ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแ...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่... SME D Bank เข้าพบผู้บริหารกระทรวงการคลัง เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 66 — ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดยนางสาวนาร...

ผลการจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้"มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน" ครั้งที่ 3 จังหวัดเชียงใหม่

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัด "มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน" ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 16 18 ธันวาคม 2565 ณ...