สภาวะตลาดวันที่ 11 กันยายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,333.77-1,339.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV17 อยู่ที่ 21,090 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 210 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,300 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.01น. ของวันที่ 11/09/60)
แนวโน้มวันที่ 12 กันยายน 2560
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวในวันเสาร์ว่า เขาจะขอให้สภาคองเกรสเร่งรัดความพยายามในการปฏิรูปกฎหมายภาษีสหรัฐ และเขาอ้างว่า ผลกระทบจากพายุเฮอริเคนเออร์มา ถือเป็นเหตุผลในการเร่งรัดการปฏิรูป หลังจากในวันพฤหัสบดี วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายต่ออายุเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐออกไปอีก 3 เดือน และ จัดสรรเงินราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เหยื่อพายุเฮอริเคน และวันศุกร์ที่ผ่านมาร่างกฎหมายนี้ผ่านการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยคะแนนเสียง 316 ต่อ 90 เสียง จนดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น จนกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงหนุน ในช่วงการซื้อขายตลาดเอเชียในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากเกาหลีเหนือจัดงานฉลองครบรอบวันก่อตั้งประเทศปีที่ 69 แต่ไม่ได้ยิงขีปนาวุธในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งผิดจากนักลงทุนบางส่วนที่เคยคาดการณ์ไว้ แต่นักลงทุนยังกังวลต่อคำเตือนของเกาหลีเหนือที่ประกาศเตือนสหรัฐว่า สหรัฐจะต้องจ่าย "ราคาที่เหมาะสม" สำหรับการเป็นผู้นำในความพยายามผลักดันมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (CFTC) รายงานในวันศุกร์ว่า นักเก็งกำไรยังคงถือครองสถานะขายสุทธิในดอลลาร์สหรัฐในระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.56 ซึ่งนักวิเคราะห์ ระบุว่า ปัจจัยนี้บ่งชี้ว่าอาจจะมีการปรับสถานะการลงทุนในอนาคต โดยนักลงทุนกำลังพิจารณาปัจจัยลบต่างๆ ต่อตลาดหุ้นในช่วงนี้ ซึ่งรวมถึงความขัดแย้งเรื่องเกาหลีเหนือ, ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากพายุเฮอริเคน และความขัดแย้งทางการเมืองภายในสหรัฐ ซึ่งยังคงพยุงราคาทองคำไว้ ทั้งนี้ ระยะสั้นราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จึงเกิดแรงขายออกมา แนะนำให้รอจังหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,347-1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,327 (20,750บาท) 1,313 (20,550บาท) 1,300 (20,350บาท)
แนวต้าน 1,347 (21,100บาท) 1,358 (21,300บาท) 1,368 (21,450บาท)
GOLD FUTURES (GFV17)
แนวรับ 1,327 (20,910บาท) 1,313 (20,690บาท) 1,300 (20,490บาท)
แนวต้าน 1,347 (21,230บาท) 1,358 (21,400บาท) 1,368 (21,560บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.01น. ของวันที่ 11/09/60)
แนวโน้มวันที่ 12 กันยายน 2560
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวในวันเสาร์ว่า เขาจะขอให้สภาคองเกรสเร่งรัดความพยายามในการปฏิรูปกฎหมายภาษีสหรัฐ และเขาอ้างว่า ผลกระทบจากพายุเฮอริเคนเออร์มา ถือเป็นเหตุผลในการเร่งรัดการปฏิรูป หลังจากในวันพฤหัสบดี วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายต่ออายุเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐออกไปอีก 3 เดือน และ จัดสรรเงินราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เหยื่อพายุเฮอริเคน และวันศุกร์ที่ผ่านมาร่างกฎหมายนี้ผ่านการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยคะแนนเสียง 316 ต่อ 90 เสียง จนดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น จนกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงหนุน ในช่วงการซื้อขายตลาดเอเชียในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากเกาหลีเหนือจัดงานฉลองครบรอบวันก่อตั้งประเทศปีที่ 69 แต่ไม่ได้ยิงขีปนาวุธในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งผิดจากนักลงทุนบางส่วนที่เคยคาดการณ์ไว้ แต่นักลงทุนยังกังวลต่อคำเตือนของเกาหลีเหนือที่ประกาศเตือนสหรัฐว่า สหรัฐจะต้องจ่าย "ราคาที่เหมาะสม" สำหรับการเป็นผู้นำในความพยายามผลักดันมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (CFTC) รายงานในวันศุกร์ว่า นักเก็งกำไรยังคงถือครองสถานะขายสุทธิในดอลลาร์สหรัฐในระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.56 ซึ่งนักวิเคราะห์ ระบุว่า ปัจจัยนี้บ่งชี้ว่าอาจจะมีการปรับสถานะการลงทุนในอนาคต โดยนักลงทุนกำลังพิจารณาปัจจัยลบต่างๆ ต่อตลาดหุ้นในช่วงนี้ ซึ่งรวมถึงความขัดแย้งเรื่องเกาหลีเหนือ, ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากพายุเฮอริเคน และความขัดแย้งทางการเมืองภายในสหรัฐ ซึ่งยังคงพยุงราคาทองคำไว้ ทั้งนี้ ระยะสั้นราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จึงเกิดแรงขายออกมา แนะนำให้รอจังหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,347-1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,331-1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,327 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,327 (20,750บาท) 1,313 (20,550บาท) 1,300 (20,350บาท)
แนวต้าน 1,347 (21,100บาท) 1,358 (21,300บาท) 1,368 (21,450บาท)
GOLD FUTURES (GFV17)
แนวรับ 1,327 (20,910บาท) 1,313 (20,690บาท) 1,300 (20,490บาท)
แนวต้าน 1,347 (21,230บาท) 1,358 (21,400บาท) 1,368 (21,560บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999