ดร.พิเชฐ กล่าวว่า "วันนี้เราอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้แล้ว กับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เราเห็นกระแสโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลไปที่เปลี่ยนไปเร็วมาก เมื่อโลกเปิดอย่างที่ว่าเราก็ต้องรีบปรับตัว ซึ่งการปรับตัวที่ว่านี้ ตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไม่ใช่แค่การเปลี่ยนทีละเล็กละน้อย แต่มันคือการเปลี่ยนแบบก้าวกระโดดอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อถึงวันนั้นประเทศไทยก็จะเปลี่ยน โดยส่วนตัวแล้วมองว่าปีนี้ และปีหน้าคือ Digital Transformation ก็คือช่วงเปลี่ยนผ่านของประเทศ เมื่อเปลี่ยนแล้วสังคมไทยก็จะได้รับผลประโยชน์ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมโดยใช้ดิจิทัล ซึ่งผมขอให้นิยามด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ว่า "SIGMA" ที่มาจาก 5 ด้านสำคัญ เพื่อการปรับเปลี่ยนประเทศไทยสู่ความเป็นดิจิทัล คือ ผลรวมจากการบูรณาการจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มาช่วยกัน โดย "S (Security)" หรือ Cyber Security ที่จะคอยปกป้อง คุ้มครองเรา ทั้งปัจเจคชน หน่วยงาน และ โครงสร้างพื้นฐานระดับประเทศ คือ "I (Infrastructure)" โครงสร้างที่สำคัญที่สุดคือ ส่วนที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เช่น หมู่บ้านประชารัฐ ต่อมาคือ "G (Government)" ในสายตาของดิจิทัลก็คือ e-Government ซึ่งเราได้วางยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจทำงานได้ง่ายขึ้น ประชาชนก็เข้าถึงภาครัฐได้ดียิ่งขึ้น ถัดมาคือ "M (Manpower)" หมายถึงกำลังคนที่จะมาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศสู่ความเป็นดิจิทัล 4.0 และสุดท้ายคือ "A (Application)" ที่มาเปิดโลกธุรกิจ อุตสาหกรรมประเทศไทย โดยมีแอปพลิเคชันเป็นสื่อกลาง ทั้งธุรกิจที่มีอยู่แล้วในตลาด และธุรกิจใหม่ ๆ งาน Digital Thailand Big Bang 2017 จึงเกิดขึ้นเพื่อจุดประกายการเปลี่ยนผ่านประเทศครั้งสำคัญ งานนี้เราตั้งใจทำ และเป็นครั้งแรกกับการจัดบนพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่า 40,000 ตารางเมตร ซึ่งต้องขอขอบคุณทางดีป้าด้วยที่จัดงานดี ๆ แบบนี้" ดร.พิเชฐ กล่าว พร้อมกับย้ำว่างานนี้คณะผู้จัดตั้งใจทำเพื่อทุกคนได้มีโอกาสเข้าชมและร่วมกิจกรรมที่หลากหลาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย จะได้ตื่นตาตื่นใจกับเทคโนโลยีดิจิทัลจากทุกมุมโลก
ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ กล่าวว่า "งานนี้เรียกได้ว่าจัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่แค่รัฐบาลคิดจะจัดเพียงคนเดียว แต่เรามีกลุ่มพันธมิตรที่ยินดีที่จะมาร่วมคิด ร่วมเส้นทางในการปรับเปลี่ยนประเทศของเราเปลี่ยนเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นนี้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ในระบบ Ecosystem ก็คือการเปลี่ยนแปลงทั้งในระบบธุรกิจและการทำการค้า การดำรงชีวิต อย่างที่สองคือ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากนวัตกรรม การรังสรรค์งานโดยกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย ที่พวกเขาจะได้มีโอกาสเห็นนวัตกรรมจากต่างประเทศที่เป็นระดับเวิลด์คลาสว่านี่คือ นวัตกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างที่สามคือส่วนที่เรียกว่าสมาร์ทซิตี้ การดำรงชีวิตในตัวเมืองก็จะเปลี่ยนไป โดยเราจะจำลองให้เห็นว่าสมาร์ทซิตี้ที่ได้ยินมามันคืออะไรกันแน่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลพยายามจะปรับให้ประเทศพร้อมรองรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ผู้คนคิดว่าช้า แต่จริง ๆ แล้วมันได้แทรกซึมเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะใช้บริการแท็กซี่ หรือระบบขนส่งมวลชนที่ไหนก็เป็นดิจิทัลกันหมดแล้ว หรือแม้แต่อุตสาหกรรมในบางโครงการก็ใช้ดิจิทัลเป็นตัวผลักดันในการออกแบบสินค้า หรือบริการกันแล้วเช่นกัน สุดท้ายเราจึงวางจุดยืนให้โลกรู้ ไม่ว่าจะเป็นสถานทูต นักลงทุนต่างชาติ หรือ Global Entrepreneur Network ที่มาเข้าร่วมได้เห็นภาพว่า IoT Institute หรือ Internet of Things มันคือจุดยืนของประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่อยากให้พลาด ทั้งนวัตกรรมระดับโลก ทั้งความพิเศษจากรางวัล Prime Minister Digital Award รวมไปถึงการสัมมนาอบรมที่เปิดให้คนสามารถลงทะเบียนเรียนได้ จึงอยากเชิญชวนทุกท่าน ทุกสายอาชีพ มาร่วมงานนี้"
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่รวบรวมปรากฏการณ์แห่งโลกยุคใหม่ที่ครบ จบ ในงานเดียว แบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย! 21-24 กันยายนนี้! ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ชาเลนเจอร์ 1-2 ลงทะเบียนร่วมงานล่วงหน้าได้ที่ www.digitalthailandbigbang.com
JARTON ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล สมาร์ทลิฟวิ่ง กลุ่มกล้องวงจรปิดและโคมไฟอัจฉริยะ ของกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ดีป้า ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัล Prime Minister's Digital Awards 2024 รางวัลเชิดชูเกียรติผู้ที่มีผลงานดีเด้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลของประเทศ
ดีอี จับมือ ก.อุตฯ และ สภาอุตสาหกรรม ประกาศความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดงาน 'Global ISO Conference 2025' ต้อนรับผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานซอฟต์แวร์จากทั่วโลก
ดีอี- depa ร่วม ส.กีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ บุกสุพรรณบุรี หาสุดยอดโดรนเกษตร พื้นที่ภาคกลางและตะวันตก ร่วมชิงแชมป์ระดับประเทศ "Thailand Agriculture Drone Competition 2024"
สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ร่วม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ตัดสิน "บินโดรนเพื่อการเกษตร" สนามแรก ภาคใต้
ดีป้า ประกาศผล 10 สุดยอดผลงานนวัตกรรมดิจิทัลจากเวที Coding War ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1.7 ล้านบาท พร้อมสิทธิ์ร่วมการแข่งขันโค้ดดิ้งระดับนานาชาติ
ดีอี-ดีป้า ล่องใต้ จ.สุราษฎร์ธานี คิกออฟ Thailand Agriculture Drone Competition 2024
ดีอี - ดีป้า เฟ้นหาสุดยอดนักบินโดรน - ซ่อมโดรนเกษตรจาก 5 ภูมิภาคทั่วไทย เข้าร่วมแข่งขันระดับประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานกรมสมเด็จพระเทพฯ ครั้งที่ 1
พัฒนากำลังคนดิจิทัล