GL ยันผู้ถือหุ้นใหญ่ถูกยึดหุ้นขายทอดตลาดไม่กระทบบริษัทฯ เตรียมหาแนวทางขอคัดค้านการขาย

24 Aug 2017
บมจ.กรุ๊ปลีส หรือ GL ผู้นำธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในภูมิภาคเอเชีย ออกโรงชี้แจงกรณีสำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 2 ออกประกาศเตรียมนำหุ้น GL ของบริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GL ออกขายทอดตลาด ยืนยันเป็นคดีความที่เกิดขึ้นระหว่างโจทก์และบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ เท่ากับว่าGL ไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบชดใช้เงินแต่อย่างใดและไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ด้านผู้บริหารระบุ บริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัด อยู่ระหว่างหาแนวทางคัดค้านการนำหุ้นออกขายทอดตลาด ชี้หุ้นที่ถูกนำมาขายทอดตลาดครั้งนี้มีสัดส่วนเพียง 0.87% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มั่นใจไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสถานะในการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 2 ได้ออกประกาศเรื่องการขายทอดตลาดหุ้น บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัด ในฐานะจำเลยที่ 1 ในคดีศาลแพ่งกรุงเทพใต้ โดยบริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ APFH มีสถานะเป็นหนึ่งในถือหุ้นใหญ่ของ GL นั้น
GL ยันผู้ถือหุ้นใหญ่ถูกยึดหุ้นขายทอดตลาดไม่กระทบบริษัทฯ เตรียมหาแนวทางขอคัดค้านการขาย

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ผู้นำธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในภูมิภาคเอเชีย กล่าวชี้แจงว่า ปัจจุบันบริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GL โดยถือครองหุ้นจำนวน 158,911,191 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10.42% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีความที่เกิดขึ้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างโจทก์กับบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GL เท่านั้น ดังนั้น GL จึงไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการชดใช้เงินให้แก่โจทก์ และมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือการบริหารภายในบริษัทฯ แต่อย่างใด

ทั้งนี้ สำหรับหุ้น GL ของบริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัด ที่จะถูกนำออกขายทอดตลาดนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น13,395,771 หุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.87% ของจำนวนหุ้น GL ทั้งหมด จึงไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสถานะการเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GL เนื่องจากภายหลังการขายทอดตลาดครั้งนี้ จะยังคงเหลือหุ้น GL ที่ถือครองอยู่อีกจำนวน 145,515,420 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.53% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัด อยู่ระหว่างการพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมในการนำไปสู่การคัดค้านหรือยุติการนำหุ้น GL ออกขายทอดตลาดในครั้งนี้

ประธานคณะกรรมการบริหาร GL กล่าวว่า การที่สำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 2 มีประกาศขายทอดตลาดหุ้น GL ครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าบริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัด ไม่มีความสามารถชำระเงินให้แก่โจทก์แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน จะไม่มีหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ ของบริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด ที่จะต้องถูกนำมาขายทอดตลาดเพิ่มเติมในภายหลัง

"เราขอให้ความมั่นใจแก่ผู้ถือหุ้นว่าการนำหุ้นออกขายทอดตลาดครั้งนี้ เป็นคดีความที่เกิดขึ้นระหว่างโจทก์และบริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัด ดังนั้น GL จึงไม่มีส่วนที่เกี่ยวข้องในความรับผิดชอบหรือชดใช้เงินให้แก่โจทก์ โดยคณะผู้บริหารของ GL ยังคงมุ่งมั่นในการบริหารงานและขยายธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในภูมิภาคเอเชียตามแผนงานที่วางไว้เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง" นายทัตซึยะ กล่าว